ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 584 อย่าพึ่งรีบดีใจไป
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 584 อย่าพึ่งรีบดีใจไป
“ต้องช่วยเขานำเอาหุ้นส่วนของหิรัญชากรุ๊ปที่สูญเสียไปกลับคืนมา”
“ห๋า?”คุณแม่บ้านตกใจเป็นอย่างมากมองไปที่เธอ “เอาคืนมา? คุณหญิงท่าน ตอนนี้……พวกเรายังสามารถเอากลับมาได้อีกเหรอคะ”
“แน่นอนอยู่แล้ว สิ่งใดที่เนติอยากได้ คุณเคยเห็นฉันเอามาไม่ได้ไหมล่ะ”แววตาของผู้หญิงคนนี้เปล่งประกายออกมาอย่างเยือกเย็นเหมือนกับนางงูพิษ
คุณแม่บ้านนิ่งไป
ไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ
แต่ตอนนี้ พวกเขากำลังต่อสู้กับ คู่ต่อสู้ที่ไม่เคยแข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อนนะ? พ่ายแพ้ขนาดนี้แล้ว ยังจะมีวิธีใดที่ทำให้คุณชายเอาสิ่งของที่ควรเป็นของตัวเองกลับคืนมาได้?
คุณแม่บ้านเชื่อครึ่งหนึ่งสงสัยครึ่งหนึ่ง
แต่ว่า เธอก็ไม่ได้ถามอะไรอีก เพราะว่า เธอนึกขึ้นมาได้ว่าครั้งนี้ที่คณาธิปกลับมาเขาไม่ได้มีรอยบาดแผลแม้แต่ปลายเล็บ
อากิโกะ นากาจิมะรออยู่ด้านนอก
เมื่อไม่ได้ยินเสียงอะไรจากด้านในแล้ว ถึงได้ยินเสียงคนเรียกเธอ
“อากิโกะ เข้ามาสิ”
“……”
ทันใดอากิโกะ นากาจิมะจึงยกผงชาเข้าไปข้างในอย่างนอบน้อม
“คุณหญิงท่าน”
“อากิโกะ ช่วงนี้คุณยังเสียใจเรื่องพี่ชายกับพี่สาวอยู่ใช่ไหม” เนติที่นั่งอยู่ที่โซฟากำลังจิบชาเซียงหมิงที่อยู่ในแก้วอย่างเพลิดเพลิน มองไปยังหญิงสาวชาวญี่ปุ่นที่พึ่งจะเขามาคนนี้แล้วถามขึ้นมาเบาๆหนึ่งประโยค
อากิโกะ นากาจิมะรีบคุกเข่าลงด้านหน้าของเธอในทันที
“ตอบคำถามคุณหญิงท่าน อากิโกะไม่กล้าหรอกค่ะ”
“ไม่กล้าอะไรล่ะ คนในครอบครัวของคุณเสียแล้ว เสียใจเป็นเรื่องธรรมดา อย่าว่าแต่คุณเลย ฉันเองก็เสียใจ พวกเขาทั้งสอง คนหนึ่งอยู่กับท่านประธานสมาคมมาตั้งหลายปี ส่วนอีกคนหนึ่งก็อยู่เคียงข้างฉันมาตั้งหลายปี เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าพวกเขาต่างทำเพื่อฉันถึงได้เสียไป ภายในใจเจ็บปวดเป็นอย่างมาก โกรธแค้นเป็นอย่างที่สุด”
งูพิษ ยังไงก็คืองูพิษ
ต่อหน้าหญิงสาวที่อายุยังน้อย ผู้หญิงคนนี้กลับพูดประโยคที่น่าปวดใจแแบบนี้ออกมาในตอนท้าย
ทันใดอากิโกะ นากาจิมะจึงรู้สึกตื้นตันขึ้นมา
“คุณหญิงท่าน……ขอบคุณค่ะ”
“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก คุณวางใจเถอะ ฉันจะต้องแก้แค้นให้พี่ชายกับพี่สาวคุณอย่างแน่นอน แต่ว่า ฉันต้องการคนช่วย ไม่รู้ว่าคุณจะยินยอมช่วยเหลือฉันหรือเปล่า”
“ฉันยินยอม!”
ผู้หญิงชาวญี่ปุ่นผู้ใสซื่อ จึงตอบรับในทันที
เนติพอใจเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้น เธอให้คุณแม่บ้านหยิบบัตรประชาชนอันใหม่ออกมาอันหนึ่ง
“อากิโกะ นี่คือสถานะใหม่ของคุณ ฉันหวังว่าคุณจะเอามันไปใช้เข้าไปอยู่ในหิรัญชากรุ๊ป”
“อะไร……อะไรนะคะ เข้าไปอยู่ในหิรัญชากรุ๊ปอย่างนั้นเหรอ”อากิโกะ นากาจิมะตกใจขึ้นมา เธอเบิกตาทั้งสองข้าง เธอที่ยังไม่เจนจัดต่อโลกใบนี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เนติได้เห็นแล้ว ทันใดในใจก็เกิดความรังเกียจขึ้นมา
ไร้ประโยชน์สิ้นดี?
ทำไมไม่มีความกล้าหาญเหมือนพี่ชายกับพี่สาวแม้แต่น้อย?
“คุณวางใจเถอะ ไม่ให้ไปทำเรื่องอะไรที่เป็นอันตรายหรอก ฉันแค่อยากรู้สถานการณ์ทางด้านโน้นแค่นั้นเอง หลังจากนั้นจะวางแผนให้คุณเข้าไปอยู่ข้างในนั้น แน่นอนว่า คุณยังสามารถช่วยเหลือคุณชายได้บ้าง”
ทันใดนั้น ผู้หญิงคนนี้ก็พูดถึงลูกชายขึ้นมา
หญิงสาวชาวญี่ปุ่นคนในที่ในสายตาและในใจของเธอเต็มไปด้วยความห่วงหาผู้ชายคนนี้ จึงเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งอย่างกะทันหัน
“จริง……จริงเหรอคะ”
“แน่นอนว่าจริงสิ คุณก็รู้ เขายังห่วงหาผู้หญิงคนนั้นอยู่ตลอด ถ้าคุณอยู่ที่นั่น ก็จะสามารถส่งข่าวเรื่องผู้หญิงคนนั้นให้เขาได้ตลอด เขาคงจะดีใจไม่น้อย”
“……”
ใบหน้าเล็กของอากิโกะ นากาจิมะซีดขาวลง
แบบนี้ก็ถือว่าช่วยเหลือเหรอ?
แล้วเธอล่ะ?
เธอ……
“ฉันรู้ว่าในใจของคุณคิดอะไรอยู่ ฉันรับปากกับคุณ หลังเรื่องนี้สำเร็จแล้ว ฉันจะให้เขาแต่งตั้งให้คุณผู้หญิงของเขา อากิโกะ ในใจของเขามีเพียงผู้หญิงคนนั้นคนเดียว คุณได้เป็นผู้หญิงของเขา ก็ถือว่าโชคดีมากสำหรับคุณแล้ว”
เนติเตือนสติหญิงสาวชาวญี่ปุ่นคนนี้ออกมาอย่างเย็นชา
อากิโกะ นากาจิมะไม่พูดอะไรออกมา
ผู้หญิงของเขา?
ไม่ผิดหรอก ที่ญี่ปุ่นของพวกเขา ตามกฎหมายคือหนึ่งสามีหนึ่งภรรยา แต่ว่าในตระกูลที่ร่ำรวย การมีภรรยาหลายคน ก็เห็นได้อย่างทั่วไป
อีกทั้งเธออากิโกะ นากาจิมะ ตามที่คุณหญิงท่านได้กล่าวนั้น ไม่ว่าจะด้วยชาติกำเนิด หรือว่าความรู้สึกของคุณชายผู้สูงศักดิ์แล้ว เธอต่างไม่มีคุณสมบัติที่จะได้เป็นเมียแต่งของเขา
ดังนั้น เธอพูดไม่ผิดสักนิด ชั่วชีวิตนี้ ได้เป็นผู้หญิงของเขา ก็ถือว่าเป็นบุญวาสนาของเธอมากแล้ว
ในที่สุดอากิโกะ นากาจิมะก็รับปากเอาไว้
แต่ว่า ก่อนที่เธอจะเริ่มงาน เธอหวังว่าจะได้เจอชายหนุ่มสักครั้ง
เนติหรี่ตาลงมอง
“คุณหญิงท่าน ช่างเถอะค่ะ รับปากเธอไปเถอะ เจอหน้าสักหน่อย ก็ทำให้เธอได้อุ่นใจ แล้วทำงานให้พวกเราได้เต็มที่”
คุณแม่บ้านที่อยู่ด้านข้างจึงได้ปรามเอาไว้
ผู้หญิงคนนี้ จึงรับปากออกมาอย่างไม่เต็มใจ
——
ภายในประเทศ ณ เมืองA
ช่วงนี้เส้นหมี่ค่อนข้างยุ่ง หลังจากเธอได้ทำสัญญากับจีคิวกรุ๊ปแล้ว คนในแผนกบริหารการจัดการจึงได้ยอมรับในตัวเธอจริงๆ เรื่องทุกๆอย่าง จึงให้เธอเป็นคนตัดสินใจทั้งหมด
รวมทั้งเรื่องรับสมัครงานเรื่องเล็กๆแบบนี้ด้วย
“คุณเส้นหมี่ คือว่า ผู้จัดการหวังในแผนกของพวกเราเขาลาออกไปแล้ว ต้องรับสมัครพนักงานใหม่ไหมคะ”
“รับสิ”
เส้นหมี่ที่กำลังวางแผนโครงการ ได้ยินสิ่งที่เลขาพูดขึ้น ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาก็ตอบตกลงไปแล้ว
รับสมัครพนักงานเรื่องแบบนี้ เธอคงไม่ช่วยบริษัทประหยัดหรอก ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นภรรยาของประธานบริษัท แต่เรื่องพนักงานจะประหยัดได้สักเท่าไหร่กัน ถ้าจะมาคิดเรื่องแบบนี้ เอาเวลาไปคิดว่าจะสร้างสรรค์ผลกำไรได้อย่างไรดีกว่าเป็นไหนๆ
เลขาจึงติดต่อไปที่ฝ่ายบุคคล
ไม่นาน ในแผนกก็มีคนเข้ามาสัมภาษณ์อย่างไม่ขาดสาย
แต่ว่าเส้นหมี่ไม่มีเวลาไปเจอคนเหล่านั้น เธอได้นำโครงการนี้มอบให้กับหัวหน้าแผนก หลังจากนั้นในมือถือเอกสารขึ้นไปขั้นบนสุดของแผนกผู้บริหารเพื่อไปประชุม