ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 610 น่าหัวเราะเยาะเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อพูดถึงสมุดเล่มนี้ ว่ามันมีความเป็นมาอย่างไรจนเป็นสภาพในตอนนี้ น้ำเสียงของเขาฟังดูติดๆขัดๆจนถึงขั้นพูดออกมาไม่เต็มประโยค
ตัวเขาเองก็เป็นทหาร เขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งสำหรับเรื่องราวแบบนี้
ดังนั้น คุณชายรองตระกูลเทวเทพที่ถูกคนตระกูลเทวเทพประณามว่าทำผิดครรลองครองธรรม และถูกตัดออกจากตระกูล แท้จริงแล้วเขาเป็นคนอย่างไรกันแน่? เป็นความอัปยศหนึ่งเหมือนดั่งที่คนตระกูลพวกเขาพูดกันจริงหรือเปล่า?
แสนรักค่อยๆ เปิดมันออกดู
“ใบ…..สมรส?”
เขาเหมือนโดนฟ้าผ่า ดวงตาทั้งสองข้างเบิกกว้าง เมื่อมองเห็นตัวอักษรไม่กี่ตัวที่ยังคงหลงเหลืออยู่บนหน้ากระดาษ ราวกับว่ามีสิ่งของอะไรบางอย่างเกิดระเบิดขึ้นในสมองของเขา!
ดลธีกับเคก็ตกใจเช่นกัน
รีบก้าวไปข้างหน้า พวกเขามองเห็นตัวอักษรที่ถูกเลือดสาดจนเป็นสีแดงคล้ำเหล่านี้ด้วยตาตัวเอง ก็ราวกับโดนฟ้าผ่าไปด้วยเช่นกัน
มันคือ…….. ใบทะเบียนสมรส?!!
พวกเขาเริ่มมีอาการทนไม่ไหวแล้ว ไม่รอให้ BOSS ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้มาเปิดดูแล้ว พวกเขาก็รีบเร่งเปิดหน้าถัดไป
ผลคือ ปรากฏฉากที่น่าตกใจอีกฉากหนึ่ง พวกเขามองเห็นชื่อคนแต่งงานสองคนนี้ในหน้าที่สอง ชื่อแรกที่เขียน คือ “ขุนนาย”
ส่วนอีกชื่อหนึ่ง ซึ่งเป็นชื่อฝ่ายหญิง ถึงแม้ว่ากระสุนลูกนั้นจะทะลุผ่าน หน้ากระดาษมีชำรุดเสียหาย แต่พวกเขายังคงเห็นและอ่านออกได้อย่างชัดเจน
เธอคือ—ภารานิน!
โอ้ว พระเจ้าช่วย!!
ห้องทำงานเงียบสงัดลง ในเวลานี้ ยกเว้นเสียงของเครื่องทำความร้อนในห้องที่เป่าลมออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งห้องก็เงียบมากถึงขั้นแม้แต่เสียงเข็มตกลงพื้นก็ได้ยิน
ขุนนาย-ภารานิน….
ภารานิน-พี่นาย?
แสนรักเป็นลมหน้ามืด หลังจากเหมือนมีอะไรบางอย่างจู่ ๆ พังทลายลงมาก้นลึกหัวใจของเขา คลื่นยักษ์ที่ถาโถมเข้าใส่เขา สมองของเขารู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง และตัวเขาก็ล้มลงไปข้างหน้า!
“ท่านประธาน เป็นอะไรมากไหมครับ?”
“ท่านประธาน—!!”
เคกับดลธีทั้งสองเห็นเข้า ก็ตกใจรีบพุงไปข้างหน้าพยุงตัวเขาเอาไว้ทันที
ไม่มีทางเลือก ความจริงอันน่ากลัวอย่างนี้ อย่าว่าแต่ BOSS ท่านนี้เลย แม้ว่าพวกเขาสองคนที่ดูอยู่ตอนนี้ ภายในใจก็ราวกับถูกพายุกระหน่ำคลื่นยักษ์ถาโถมใส่ ไม่สามารถยอมรับมันได้ไหว
ใครก็ไม่คาดคิด พ่อของเขา จริงๆแล้วคือ ขุนนาย!
ยิ่งไม่มีใครคาดคิดอีกว่า เขาเป็นถึงผู้คุมอำนาจแห่งหิรัญชากรุ๊ป แอมไพร์เพียงแค่ชั่วคืน ได้กลายเป็นเศษเดน บุคคลที่ราชวงศ์ผู้ซึ่งอยู่ภายใต้คนคนเดียวแต่อยู่เหลือประชาชนเมืองหลวงทั้งปวงกำลังตามล่าตัวอยู่
ช่างน่าหัวเราะเสียจริงๆ
ฉะนั้น ตอนนี้จู่ ๆ แม่ของเขาถูกจับตัวไป ก็เพราะว่าถูกพวกเขาสืบรู้แล้ว จากนั้นจับตัวพาไปฆ่าใช่ไหม?
แสนรักรู้สึกปวดหัวจนแทบระเบิดอีกครั้ง ในที่สุด เขาก็หมดสติไป
——
วันนี้เส้นหมี่รออยู่ที่คฤหาสน์ทั้งคืน
จากนั้น ก็นอนไม่หลับตลอดทั้งคืน เธอไม่เพียงแต่ไม่ได้ข่าวอะไรจากเนติ แม้แต่แสนรักเองก็ไม่ได้กลับมา
นับตั้งแต่ทั้งสองคนคืนดีกัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่กลับมานอนที่บาน
หรือว่า เขาออกไปตามหาคุณแม่สามีแล้วเหรอ?
เส้นหมี่ร้อนใจราวกับมดที่อยู่ในหม้อร้อนๆ
ดังนั้นในวันรุ่งขึ้น ฟ้ายังไม่ทันสว่าง เธอก็อดใจรอไม่ไหวที่จะขับรถไปยังบริษัทแล้ว
“คุณนาย? มาแต่เช้าเลยเหรอครับ?”
พนักงานรักษาความปลอดภัยประตูทางเข้าตึกสูง เมื่อเห็นเธอมาแต่เช้าตรู่ ก็ตกใจเป็นอย่างมาก
แต่เส้นหมี่กลับไม่มีกะจิตกะใจสนใจเขา หลังจากเข้าตึกมา เธอก็รีบขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุดเลยทันที
“ติง——–“
หลังจากประตูลิฟต์เปิดออก เธอเดินออกมาจากด้านใน แปลกใจมาก เมื่อพบว่าออฟฟิศท่านประธานยังคงมืดสนิท ไม่มีใครอยู่ในห้องทำงาน หลังจากปิดไฟ ก็เงียบสงัดราวกับไม่มีใครเคยผ่านมาเลย
ฉะนั้น เมื่อคืนเขาไม่ได้อยู่ที่บริษัทเหรอ?
ถ้าอย่างนั้นเขาไปไหนกันแน่?
เส้นหมี่ยิ่งกังวลใจมากยิ่งขึ้น เป็นห่วงผู้ชายคนนี้ และยังเป็นห่วงข่าวคราวของภารานิน
เส้นหมี่หยิบโทรศัพท์ออกมา เตรียมที่จะโทรศัพท์ไปหาแสนรัก
แต่ในเวลานี้ ลิฟต์ทางด้านหลังมีคนเดินออกมา เธอหันหลังกลับไปดู ก็เห็นเป็นเคที่เดินถือกาแฟมาหนึ่งแก้ว ในมือยังมีชุดอาหารเช้าอีกหนึ่งชุด
“คุณนาย? ทำไมคุณนายมาเช้าขนาดนี้ครับ?”
เห็นเส้นหมี่อยู่ที่นี่แต่เช้าตรู่ เคที่เพิ่งขึ้นก็แปลกใจเป็นอย่างมาก ดวงตาในเบ้าตาสีเขียวทั้งสองข้าง ต่างก็เบิกกว้างมากๆ
เส้นหมี่ไม่พูดอะไร เห็นว่ามือทั้งสองข้างของเขาไม่ว่าง ก็เดินมาช่วยเขารับอาหารเช้าไปถือไว้ให้ก่อน
“เมื่อคืนคุณอยู่ที่นี่ทั้งคืน?”
“หา?” เคมีน้ำเสียงความประหลาดใจอีกครั้ง “คุณนายรู้ได้อย่างไรครับ?”
“ดูจากตาของคุณ อย่างกับตาหมีแพนด้า” เส้นหมี่ชี้ไปที่ตาหมีแพนด้าของเขาอย่างไม่เกรงใจ
เค : “……”
จะพูดอะไรได้อีกล่ะ?
วุ่นวายมาทั้งคืน ก็คือไม่ได้นอน?
ใบหน้าเคเต็มไปด้วยความเศร้า เปิดประตูห้องทำงานท่านประธาน จากนั้นทั้งสองคนก็เดินเข้าไปข้างในด้วยกัน
“คุณนายมาหาท่านประธานใช่ไหมครับ?”
“ใช่ เขาล่ะ? เมื่อคืนเขาไม่ได้กลับบ้าน วันนี้ตอนเช้าโทรไปก็ไม่มีคนรับสาย มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? พวกคุณ…ได้ข่าวคราวคุณแม่ของเขาแล้วเหรอ?”
เส้นหมี่ได้ฟังก็ถามขึ้นมา เมื่อสักครู่ก็ถามคำถามที่ตัวเองคิดจะถามออกมาทั้งหมด
แต่สิ่งที่ต้องทำให้เส้นหมี่ผิดหวังก็คือ หลังจากที่ผู้ช่วยคนนี้นั่งลง ถือแก้วกาแฟนั้น เห็นเขาส่ายหัวอย่าหน้าเศร้าๆ
“เปล่าครับ คือเมื่อคืนจู่ ๆ ท่านประธานได้รับสายโทรศัพท์สายหนึ่ง หลังจากนั้นก็ออกไป จนถึงตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย ผมก็ไม่กล้ากลับไป กลัวว่าเขาจะต้องการตัวผม”
เส้นหมี่: “……”