ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 696 เธอนอนเงียบๆอยู่ตรงนั้น……
“ท่านครับ เราจะทำยังไงต่อดี ท่านจะไปช่วยเขาไหมครับ”
หลังจากออกมาจากคฤหาสน์หลังเก่า คณาธิปขึ้นรถและผู้ช่วยที่ขับรถอยู่ด้านหน้าถามเขา
คณาธิปที่นั่งหลับตาอยู่ด้านหลัง
ช่วยเขาน่ะเหรอ?
จะช่วยเขายังไง?
เมื่อตอนที่ชายคนนั้นมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ยังไม่กล้าใช้หิรัญชากรุ๊ปไปต่อสู้กับตระกูลราชวงศ์ของเมืองหลวง นับประสาอะไรกับคนธรรมดาอย่าเขาจะเอาอะไรไปช่วยผู้อื่น?
คณาธิปคิดวกวนอยู่นานและในที่สุด เขาทำได้เพียงส่ายหน้าด้วยใบหน้าซีด: “จองตั๋วไปญี่ปุ่น ฉันจะไปดูก่อน”
“ได้ครับ ท่าน”
ต่อจากนั้นรถก็เคลื่อนออกจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
คืนนั้นคณาธิปบินไปญี่ปุ่น
ซาจากรุ๊ปเจแปน
ที่จริงหิรัญชากรุ๊ปอยู่ภายใต้การดูแลของคณาธิปและหลังจากที่เนติเสียชีวิตด้วยอาการป่วยกะทันหันในคุก ถึงตอนนีบริษัทนี้ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขาแล้ว
เขาก็กลับมาอยู่กับตระกูลเฮกัง
แต่ในเมื่อคณาธิปบริหารที่นี้มานาน แน่นอนว่ายังคงมีอสังหาริมทรัพย์อยู่ และจะไม่มีน้อยไปกว่านี้อีกด้วย
“นายท่าน คุณกลับมาแล้ว”
“อืม”
เขาพึ่งมาถึงหน้าผับของตัวเองในโตเกียว พนักงานของผับที่ได้รับข่าว ทักทายเขาด้วยความเคารพทันทีและถือรองเท้าเกี๊ยะคู่ใหม่มามอบให้เขา
คณาธิปถอดเสื้อโค๊ดออกแล้วยื่นให้เธอ จากนั้นจึงสวมรองเท้าเกี๊ยะ
“คุณโดโมโตะมาแล้วเหรอ?”
“นัดไว้แล้ว กำลังเดินทางมาค่ะ”
พนักงานตอบอย่างอ่อนโยนและนำสาเกที่อบอุ่นมาให้เขา
ไม่กี่นาทีต่อมา ชายชาวญี่ปุ่นสวมแว่นและบนตัวเขาก็มีกลิ่นของยาฆ่าเชื้อก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อเขามาถึงที่นี่ เขาก็ตะโกนเสียงดัง
“อากิโกะ นายท่านของเธอกลับมารึยัง”
“กลับมาแล้วค่ะ”
เมื่อครู่พนักงานคนนั่นก็ออกมาอีกครั้งและทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม
ที่แท้พนักงานคนนี้คืออากิโกะ นากาจิมะ ซึ่งกำลังกลับมา
โชกิ โดโมโตะเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“อากิยามะ ในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว มันทรมานเหลือเกิน ในที่สุดผมก็รอจนคุณมาถึง” แปลกใจเล็กน้อยที่ชายชาวญี่ปุ่นคนนี้ร้องไห้ด้วยความตื่นเต้นจริง ๆ หลังจากเจอคณาธิป
คณาธิปทำได้แค่นั่งคุกเข่าและยิ้ม จากนั้นเขาก็หยิบเหยือกเหล้าที่อยู่ข้างๆ และรินให้เขาหนึ่งแก้ว
“โชกิตั้งหน้าตั้งตารอผมกลับมาขนาดนี้เลยเหรอ?หรือมีข่าวดีอะไรรอผมอยู่รึเปล่า?”
“ข่าวดีอะไรกันล่ะ ฉันรอนายอยู่ มันย่อมไม่ใช่ข่าวดีแน่นอน!”
ทันทีที่ชายชาวญี่ปุ่นได้ยิน เขาก็เทแก้วเหล้าลงคอแล้วบ่นอย่างโผงผาง
เมื่อพูดจบ คณาธิปซึ่งนั่งอยู่ตรงข้าม จู่ๆก็บีบมือของเขาไว้ใต้โต๊ะจนมือของเขาซีดไปชั่วขณะ ทำให้เขาหมดอารมณ์ที่จะรินเหล้าให้
“โชกิคุณหมายความว่ายังไง? คุณเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ผมรอคุณมาตั้งนาน ที่ผมมาไม่ใช่เพื่อให้คุณบอกข่าวร้ายแบบนี้”
วินาทีนั้น น้ำเสียงของเขาเย็นชา
โชกิ โดโมโตะ ที่กำลังดื่มอยู่ได้เมื่อได้ยินเสียงแบบนั้น เขาถึงมีการตอบสนอง เขาก็ตื่นตระหนกในทันใด
“ไม่ใช่ ไม่ใช่ อากิยามะเข้าใจผิดแล้ว ข่าวร้ายที่ผมหมายถึงคือครั้งก่อนที่คุณขอให้ผมช่วยให้เธอฟื้นขึ้นมาเร็วๆ ผมทำไม่สำเร็จ ที่เหลือก็ไม่มีอะไร กระดูกของเธอฟื้นตัวกำลังดี และอวัยวะภายในที่เสียหายก็กำลังซ่อมแซม”
“แล้วทำไมเธอยังไม่ฟื้นอีกละ”
“อากิยามะ คุณส่งคนที่ป่วยเหมือนผักต้มมาให้ผมมันต้องใช้เวลาสักระยะไหมกว่าผมจะช่วยให้เธอมีชีวิตอีกครั้ง คุณรู้ไหมว่าการจะช่วยซ่อมแซมอวัยวะภายในที่กระดูกหักแทงเข้า ร่างกายของเธอ ผมต้องทำการผ่าตัดกี่สิบครั้ง? ก็เหมือนคอมพิวเตอร์ของคุณที่มีไวรัส มันต้องใช้เวลาในการติดตั้งระบบใหม่ ใช่ไหม”
ชายชาวญี่ปุ่นคนนี้เป็นคนขี้บ่นซะจริงๆ ถามแค่นี้ก็บ่นไปเรื่อยเปื่อยจนน้ำลายเต็มโต๊ะ
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นสมเหตุสมผล
ขนาดคอมพิวเตอร์ที่พังยังต้องใช้เวลาซ่อม
นับประสาอะไรกับคนที่มีบาดแผลทั้งตัวและอวัยวะที่เสียหายอย่างรุนแรงอีก
ในท้ายที่สุดคณาธิปก็ไม่พูดอะไร
หลังจากดื่มเหล้าเสร็จแล้ว เขาก็ชวนเพื่อนคนนี้ไปทานอาหารเย็นอีก และทั้งสองก็ออกเดินทางเพื่อไปโรงพยาบาลที่ดีที่สุดของที่นี่ด้วยกัน ซึ่งจัดได้ว่าเป็นโรงพยาบาลที่ได้มาตราฐานทางการแพทย์สูงสุดอีกด้วย
เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนเงียบๆ ในหอไอซียู
เธอมีท่อทั่วร่างกายและมีเครื่องช่วยหายใจที่ปาก รวมถึงใบหน้าซึ่งมีผ้าพันแผลปิดอยู่
หากไม่ใช่เพราะดวงตาคู่นั่นที่หลับอยู่อย่างเงียบ ๆ คงจะเห็นขนตาที่ยาวหนาและม้วนงอนราวกับใบพัด
คนไข้ที่พันผ้าไว้แน่นเช่นนี้แทบจะดูไม่ออกเลยว่าเป็นผู้หญิง
“การฟื้นตัวค่อนข้างดี อย่างน้อยถ้าไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจเธอก็จะไม่ตายในทันที”
หลังจากที่ โชกิ โดโมโตะพาเขาเข้ามา โชกิ โดโมโตะเห็นว่าเขาไม่เคยละสายตาจากผู้ป่วยคนนี้เลย และโชกิ โดโมโตะกังวลว่าเขาจะคิดว่าโชกิ โดโมโตะโกหกเขาอีก โชกิ โดโมโตะจึงอธิบายละเอียดเป็นพิเศษ
หลังจากที่คณาธิปฟังจบ เขาก็ขยุกขยิกไปมา
เหมือนเขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ท้ายที่สุด เขาก็ไม่พูด แต่ดวงตาของเขาค่อย ๆ กวาดไปทั่วใบหน้าของผู้ป่วยหญิง แล้วก้มลงมองบนมือของเธอที่อยู่ข้างๆ อย่างเงียบ ๆ
น่าจะเป็นอวัยวะเพียงส่วนเดียวที่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บ
ในเวลานั้นเองที่เขาได้รับความไว้วางใจจากบุคคลนั้นให้หยุดเธอและปกป้องเธอ และในที่สุดเขาก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้มา