ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 702 เขาก็คือปีศาจ
“ที่แท้คุณรู้หมดนี่ ดูท่า คุณก็ไม่ได้โง่ รู้ได้เร็วกว่าที่ผมคิดไว้เล็กน้อย”
“แก—”
ไชยันต์โมโหจนหน้าอกกระเพื่อม เขาสาวเท้าพุ่งปราดเข้าไปอย่างเร็ว แล้วใช้ปืนกระบอกนั้นจ่อหัวของแสนรัก!
“ฉันจะฆ่าแกซะตอนนี้!!”
“ฆ่าเลย มาสิ ยิงมาตรงนี้” ชายหนุ่มที่ใบหน้าไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่นิด หลังจากชี้ไปที่หัวของตัวเอง แล้วยิ้มมุมปากที่ยั่วยุออกมา
ลมและแสงแดดจ้า แสบตาเป็นพิเศษ
ไชยันต์หรี่ตาลง นิ้วมืออยากจะลั่นไกปืนในทันที
แต่ว่า ในตอนนี้เอง ใบหน้าของแสนรักที่เผยในสายตาของเขา ทันใดนั้น ดวงตาที่เหมือนกันอย่างถึงที่สุด ทำให้ในหัวของเขาปรากฏใบหน้าวัยรุ่นคนหนึ่งขึ้น
ในที่สุดใบหน้าของพวกเขาก็ทับซ้อนกัน
“คุณพ่อ ถ้าหากคุณพ่อคิดว่าผมมีความผิด คุณพ่อฆ่าผมได้เลย มาสิ ยิงมาตรงนี้!”
คำพูดของพวกเขาพูดเหมือนกัน ชี้นิ้ว ก็ชี้ไปที่หัวของตัวเองเช่นเดียวกัน
ไชยันต์มือเริ่มสั่นขึ้นมาอีกครั้ง
ขุนนาย เป็นลูกชายที่น่าภาคภูมิใจที่สุดของเขาจริงๆ เขาเป็นคนฉลาดมาตั้งแต่เด็ก และก็ขยันเรียน ที่สำคัญคือขุนนายยังสืบทอดเลือดทหารในตัวของเขา
ดังนั้น ตั้งแต่ขุนนายรู้ความ เขาเลี้ยงดูขุนนายอย่างใส่ใจ และก็เป็นทายาทสืบทอดตระกูลเพียงหนึ่งเดียวในใจของเขา
หลังจากที่ขุนนายโตขึ้น ก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง เกณฑ์ทหารเมื่ออายุสิบแปด ในวัยยี่สิบต้นๆ เขาก็นำทัพออกไปทำภารกิจตามลำพังได้แล้ว เขาได้รับเกียรติมากมายในระดับสากล นอกจากนี้ยังมีเหรียญการรักษาสันติภาพที่มีคุณค่ามากมายอีกสองเหรียญ นั่นคือสิ่งที่ทั้งกองทัพมีเพียงไม่กี่คนที่มีครอบครอง เขาในตอนนั้น ในกองทัพและแม้แต่ระหว่างประเทศ คือบุคคลสำคัญที่เหมือนกับเทพเจ้าสงคราม
แต่ว่า คนแบบนี้ สุดท้ายกลับถูกผู้หญิงคนหนึ่งทำลาย
เขาไปที่เมือง A ได้เจอน้องสาวภรรยาของธนากร จากนั้นก็หลงใหลเธอ หลังจากถูกเขาผู้เป็นพ่อคนนี้ปฏิเสธอย่างรุนแรง ขุนนายที่ไม่เคยอกตัญญูต่อพ่อแม่มาก่อน
สุดท้าย เขากลับขโมยทะเบียนบ้านของพวกเขาไป แล้วหนีไปแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นที่เมือง A
อารมณ์ของเขาในตอนนั้นเป็นอย่างไร?
และภายใต้ความโมโหได้ตัดสินใจอะไรไป?
อันที่จริงเขาจำไม่ได้แล้ว เขารู้เพียงว่าในตอนที่เขาได้สติขึ้นจากเรื่องนี้ ลูกชายคนนี้ของเขาก็ถูกมัดอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนกับสัตว์ร้าย
จากนั้น ขุนนายก็เหมือนกับผู้ชายคนนี้ในตอนนี้ ชี้ไปที่หัวของตัวเองแล้วจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาอาฆาต
“มา ถ้าหากคุณพ่อคิดว่าผมมีความผิดจริงๆ คุณพ่อก็ยิงเลย ยิงมาที่ตรงนี้!”
“…”
ไชยันต์สั่นคลอนอย่างรุนแรง สุดท้าย กระสุนนัดนี้ ก็ไม่สามารถยิงออกมาได้
“แกต้องการอะไรกันแน่? แกฆ่าคนเยอะแยะขนาดนี้แล้ว ยังไม่พออีกเหรอ? แกอยากจะฆ่าคนตระกูลเทวเทพให้หมดเลยใช่ไหม?” เขาอดกลั้นความแดงก่ำในดวงตา กัดฟันถามทีละคำ
พอ?
แสนรักลืมตาขึ้นอีกครั้ง มองไปทางเขาอย่างเย็นชา
“พอได้ยังไง? ตระกูลหิรัญชาของผมเสียชีวิตหลายคนขนาดนั้น หรือว่าไม่ต้องชดใช้ด้วยชีวิตเหรอ?”
“แต่แกฆ่าม็อกกากับ ม็อกกี้แล้ว นี่ก็สองชีวิตแล้ว!!”
“สองชีวิต? งั้นแม่ของผม พ่อของผมล่ะ? ยังมีหมี่ ยังมีเปรมไตร ดลธี…พวกเขาคนไหนไม่ใช่ชีวิต?” รวมทั้งคนพวกนั้นที่ผมพามา พวกเขาก็ไม่ใช่ชีวิตเหรอ? ไชยันต์ คุณกล้าพูดว่าตระกูลเทวเทพของคุณเสียชีวิตไปแล้วสองคน? คุณนับดู ตระกูลหิรัญชาเสียชีวิตกี่คน? สองชีวิตของพวกมันมีค่าอะไร? เป็นเพราะพวกมันเกิดมาสูงศักดิ์กว่าพวกเขา? หรือว่าเป็นเพราะพวกคุณคือคนของตระกูลเทวเทพ? หา?”
แสนรักตะคอก ตอนนี้ ในที่สุดเขาก็ระบายอารมณ์ของตัวเองออกมาอย่างถึงที่สุด
เขาจ้องมองชายชราคนนี้อย่างบ้าคลั่ง แต่ละคำแต่ละประโยคเต็มไปด้วยความเฉียบขาดและประชดประชัน ตะโกนออกมาจากในลำคอของเขา
ไชยันต์ยืนอยู่ตรงนั้น เหมือนกับถูกคนตบบ้องหูสองข้างยังไงอย่างนั้น
หน้าแก่เกร็งไปทั้งหน้าจนถึงลำคอหนา
คำพูดประโยคนี้ ไร้ยางอายจริงๆ
ส่วนเขา เป็นเพราะถือหางคนในตระกูลของตัวเอง หลังจากที่ วุฒิพลฆ่าคนเยอะแยะขนาดนั้น กลับทำเพียงแค่ส่งเขาไปขังที่ห้องขังของกองทัพ อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว
ไชยันต์พูดไม่ออกอีกต่อไป
แสนรักเห็นดังนั้น ก็หัวเราะอย่างดุเดือดขึ้นมาอีก: “ทำไม? ถูกผมพูดจนไม่มีคำพูดตอบกลับแล้วเหรอ? ในที่สุดก็รู้แล้วว่าตัวเองคือตัวอะไร?”
“ไอแสนรัก!!”
ไชยันต์โมโหอีกครั้ง!
“ได้ ฉันยอมรับ ต่อให้เรื่องนี้ฉันขาดความยุติธรรม แล้วแกล่ะ? แกต่างกับฉันเหรอ? แกทำเพื่อล้างแค้นให้ตระกูลหิรัญชาของแก นอกจากจะฆ่า วุฒิพล แกยังใช้ประโยชน์กองทัพ ยกระดับเรื่องให้เป็นเรื่องระดับประเทศ แกอยากจะทำอะไร? อยากจะก่อให้เกิดจลาจลทั่วประเทศเหรอ? อยากให้คนมากมายตายเป็นเพื่อนตระกูลหิรัญชาของแกเหรอ?”
เขาก็ตะคอกขึ้นมา ดวงตาที่แดงก่ำคู่นั้น แทบอยากจะฉีกมารผจญตัวนี้ให้เป็นชิ้นๆ!
ไม่ผิด เรื่องนี้ จุดประสงค์สูงสุดของเขา ไม่เพียงแค่ฆ่า วุฒิพลคนเดียว แต่ะกลับจะใช้ประโยชน์กองทัพ ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างตระกูลเทวเทพกับ ไวท์ พาเลซ
และเมื่อถึงตอนนั้น ฝ่ายหนึ่งคือผู้ปกครองระดับสูงสุด กับอีกฝ่ายคือตระกูลทหารที่มีอำนาจยิ่งใหญ่
ใครจะชนะ?
ก็ยากที่จะคาดเดา
แต่ว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะต้องสะเทือนวงการการเมืองภายในประเทศ และต้องมีการสละชีพอย่างแน่นอน