ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 723 หมอคิตตี้ คุณน่ารักจัง
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 723 หมอคิตตี้ คุณน่ารักจัง
จากนั้นเขาก็จากไป
ทิ้งให้ชายที่อยู่ห้องพักผู้ป่วยที่ก่อนหน้าก็ฟังเพลงอย่างเพลิดเพลินแต่หลังจากที่เห็นชายคนนี้ออกไปแล้ว
ทันใดนั้น เขาก็ไม่ได้สนใจเพลงที่ฟังอีกต่อไป ด้วยความโกรธและความโลภที่ปะทุจากก้นบึ้งของหัวใจ เขาดึงหูฟังออกแล้วโยนทิ้งไป…
ว่างมากเหรอ?
ไปจัดการตามเดิม!
——
ในค่ำคืนนี้เส้นหมี่ก็นอนไม่หลับเหมือนกัน
เธอเอาแต่คิดถึงเรื่องที่พรุ่งนี้จะไม่สามารถไปดูแลชายคนนั้นได้ เธอรู้สึกเป็นกังวลมากนอนพลิกตัวไปมาบนเตียงจนขอบตาของเธอกลายเป็นหมีแพนด้า
ดลธีกลับมาในเช้าวันรุ่งขึ้นและตกใจที่เห็นเธอเป็นแบบนี้
“ที่รัก คุณเป็นอะไรไป ทำไมตาสองข้างของคุณถึงดำคล้ำใหญ่ขนาดนี้?”
“ไม่มีอะไร”
เส้นหมี่ไม่อยากบอกเรื่องนี้กับเขา ทำได้เพียงพยักหน้า
หลังจากที่รินจังได้ยินเสียงคลานไปหาคุณอาธี “คุณอาธี เมื่อวานหม่ามี๊กับแด๊ดดี้ทะเลาะกัน หม่ามี๊เลยนอนไม่หลับค่ะ”
“อ่อ?” เมื่อดลธีได้ยินแบบนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจทันที “พวกคุณสองคน… ทะเลาะกันเหรอ เกิดอะไรขึ้น?
เนื่องจากเมื่อวานดลธีต้องคอยแอบดูแลอย่าลับๆจึงอยู่ห่างจากห้องพักผู้ป่วยค่อนข้างไกล
ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างพวกเขาสองคน
เมื่อเส้นหมี่เห็นว่าลูกสาวพูดออกมาแล้วทำได้แค่ถอนหายใจ“ฉันไม่รู้ว่าฉันไปทำอะไรให้ เขาบอกว่าตั้งแต่วันนี้ไม่ให้ฉันย่างกรายเข้าไปดูแลเขาที่ห้องพักผู้ป่วยอีก”
“ห๊า?” ดลธีตกตะลึงอีกครั้ง!
“แล้วจะทำยังไง? ถ้าคุณไม่ไปดูแลเขา คุณจะรักษาให้เขาได้ยังไง? มันต้องมีเหตุผลที่เขาไม่ให้คุณไป ตอนนี้เขาป่วย อารมณ์ของเขาคาดเดาไม่ได้จริงๆ”
ดลธีถือขนมปังไว้ในมือ จำได้ว่าตอนที่เห็นตนนี้ครั้งแรกบนดาดฟ้า เขาเหมือนจะจำเขาไม่ได้เลย เขาเหมือนกับจำรูปร่างหน้าตาตัวเองไม่ได้เลยยังคงค้างคาในใจ
เส้นหมี่ยิ่งกระสับกระส่ายใจเพิ่มมากขึ้น
ใช่ ตอนนี้เขามองเขาไม่ออกจริงๆเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน
เส้นหมี่ตัดสินใจไปโรงพยาบาล เธอจะยอมแพ้ไม่ได้
ในขณะนั้น หลังจากที่เธอมอบลูกให้ดลธีแล้วเธอนั่งแท็กซี่ไปโรงพยาบาล
“หมอคิตตี้คุณมาแล้วเหรอคะ ผู้อำนวยการบอกว่าตั้งแต่วันนี้คุณต้องรับผิดชอบผู้ป่วย 15 คนค่ะ”
“ห๊ะ?”
ทันทีที่เธอมาถึงโรงพยาบาล เพื่อนร่วมงานจากแผนกผู้ป่วยในมาบอกเธอว่าตั้งแต่วันนี้ไปเธอถูกย้ายจริงๆ
15คน?
นั้นคนไข้ที่เพิ่งเข้ามาไม่ใช่เหรอ? จะเรียกเธอไปทำอะไร?
เส้นหมี่กำลังเร่งรีบเพื่อนร่วมงานก็มาดักไว้อีก: “แล้วคุณแสนรักละ ใครเป็นคนรับผิดชอบ?”
เพื่อนร่วมงาน: “หัวหน้าแผนกศัลยกรรมของเรารับผิดชอบเอง คนที่เพิ่งกลับมาจากการฝึกในต่างประเทศ”
เส้นหมี่“……”
หัวหน้าแผนกศัลยกรรมเหรอ?
ทำไมจัดไปมั่วแบบนี้!!
เส้นหมี่กระวนกระวายใจอยากไปหา ไพบูลย์ทันที แต่เมื่อเขามาถึงอาคารสำนักงาน เลขานุการของเขาบอกกับเธอว่าเขาไปประชุมแล้วคาดว่าจะกลับมาในวันพรุ่งนี้
คุณนี่มันจริงๆเลยนะ…
เธอโมโหจนแทบจะเป็นบ้า
ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลับไปที่แผนกผู้ป่วยในโดยคิดว่าจะรอไพบูลย์กลับมาค่อยไปคุยกับเขา
“หมอคิตตี้นี่คือประวัติของผู้ป่วยเตียง15 คุณควรไปดูก่อน เขาเพิ่งทำการผ่าตัดเสร็จ” หมอกะกลางคืนเห็นว่าในที่สุดเธอก็กลับมาแล้วจึงให้บันทึกประวัติของผู้ป่วยที่เธอต้องรับผิดชอบ
ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วเส้นหมี่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำงานที่อยู่ตรงหน้า
เมื่อเธอมาที่นี่นอกจากจะช่วยชายคนนั้นแล้ว เธอยังนับว่าเป็นหมอคนหนึ่งด้วย
เส้นหมี่มาถึงห้องผู้ป่วยพร้อมประวัติผู้ป่วยทั้ง15คน
“ประณพใช่ไหมคะ” เธอทั้งพลิกดูประวัติผู้ป่วยทั้งเข้ามาเรียกชื่อผู้ป่วย
“ครับ”
เสียงของเด็กหนุ่มที่จู่ๆ ก็ดังขึ้น ราวกับเม็ดฝนที่ตกลงมาบนจานหยกทั้งสะอาดและชัดเจน เส้นหมี่ที่ได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและเงยหน้าขึ้นทันที
“คุณ……คือประณพเหรอคะ?”
เธอประหลาดใจและไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ป่วยมะเร็งปอดขั้นรุนแรงที่บันทึกในประวัติผู้ป่วยจะเป็นเด็กวัยรุ่นได้
“ใช่ครับ มีอะไรแปลกเหรอครับ?” ประณพดูเหมือนจะคุ้นเคยกับการแสดงออกของเธอ ดังนั้นเขาจึงตอบเธออย่างหนักแน่นอีกครั้งและยิ้ม
เส้นหมี่“……”
ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกผิดในใจ
เพราะเมื่อครู่เธอยังคิดอยากรีบๆ รักษาคนไข้ให้เสร็จ แล้วไปหาผู้ชายคนนั้น
“ไม่มีอะไรค่ะ ฉันขอโทษนะคะ ตั้งแต่วันนี้ฉันจะเป็นแพทย์ประจำบ้านของคุณ ชื่อของฉันคือคิตตี้ เรียกฉันว่าหมอคิตก็ได้ค่ะ”
เส้นหมี่ชี้ไปที่บัตรประจำตัวของตัวเอง และก็เริ่มค่อยๆพูดคุยกับเด็กหนุ่มคนนี้
ไม่ควรเรียกเขาว่าวัยรุ่นเพราะดูจากประวัติเขาอายุ 24 ปีแล้ว อาจเป็นเพราะความเจ็บป่วยที่ทำให้เขาดูผอมลงและใบหน้าก็เล็กลงด้วย
“หมอคิตตี้ชื่อนี้น่ารักจังเอาล่ะ ตกลงจะให้ผมทำอะไรบ้าง”
“คุณเพิ่งผ่าตัดเสร็จเมื่อวาน วันนี้คุณต้องไปตรวจเลือดอีก ดังนั้นฉันจะให้คุณไปตรวจเลือดก่อน”
เส้นหมี่ทั้งพูดทั้งวางประวัติผู้ป่วยในมือแล้วเดินเข้ามา
สำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะลุกลามเนื่องจากการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งและภูมิคุ้มกันอ่อนแอ โดยทั่วไปจะไม่ทำการเปิดช่องท้อง ทั้งการผ่าตัดทั้งหลาย การเจาะหรือการทำเคมีบำบัด