ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 728 แด๊ดดี้ คิดถึงลูกรักของคุณไหม
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 728 แด๊ดดี้ คิดถึงลูกรักของคุณไหม
“พี่ชาย อย่าคิดอะไรกับหม่ามี๊นะ หม่ามี๊ของหนูมีแด๊ดดี้นะ แด๊ดดี้ของหนูหล่อมากๆ หล่อกว่าพี่เยอะเลย”
“……”
ในที่สุดใบหน้าของประณพก็แสดงความประหม่าออกมาเล็กน้อย
ยังดีที่เส้นหมี่เข้ามาพอดี เมื่อได้ยินลูกสาวพูดดังนั้น ก็รีบมาปิดปากปากเล็กๆของเธอ “ขอโทษด้วยนะคะคุณประณพ เด็กคนนี้ช่างพูดไปหน่อยค่ะ”
“ไม่เป็นไร……”
ประณพพิงอยู่บนเตียงผู้ป่วยแล้วยิ้ม ในดวงตา กลับปรากฏความมืดมนชั่วขณะอย่างเห็นได้ชัด
เส้นหมี่พาลูกสาวออกไป ไม่นาน ก็เอาเครื่องมือตรวจสอบทางการแพทย์ที่ประณพใช้ทุกวันเข้ามา
“……เด็กล่ะ?”
“ฉันพาไปที่ห้องพักแพทย์แล้วล่ะ ขอโทษด้วยนะคะคุณประณพ เพราะวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ โรงเรียนอนุบาลปิด ฉันก็จนปัญญา ก็เลยต้องพาเธอมาด้วย”
เส้นหมี่กลัวเขาจะโกรธ รีบอธิบาย
แต่ว่าตั้งแต่ต้นจนตอนนี้ประณพ นอกจากสีหน้าสลดที่ปรากฏบนใบหน้าที่ผอมซีดแล้ว ก็ไม่มีอย่างอื่นแล้ว
ห้องพักผู้ป่วยแผนกศัลยกรรม
ในเวลานี้แสนรักก็กำลังตรวจสุขภาพตามปกติ เขาใกล้จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว สองวันนี้ หัวหน้าแผนกศัลยกรรมคนนั้นดูเหมือนจะขยันมามาก
“คุณแสนรัก ขาของคุณไม่มีปัญหาอะไรแล้ว สามารถถอดผ้าพันแผลได้เลย แต่ว่ามือสองข้าง ผมแนะนำว่าให้เปลี่ยนยาอีกสองวัน คุณคิดว่าอย่างไรครับ?”
วันนี้หัวหน้าแผนกศัลยกรรมก็ตั้งใจแต่งตัวมาอีกแล้ว
ถึงแม้ว่า จะสวมหน้ากากอนามัยอันใหญ่ไว้ บนตัวยังถูกบังคับให้สวมชุดป้องกันไว้สองชั้นอีกด้วย
“แล้วแต่”
แสนรักตอบกลับอย่างเย็นชาแค่คำเดียว ไม่แม้แต่จะหันไปมอง
เมื่อหัวหน้าแผนกศัลยกรรมเห็นดังนั้น ก็หัวเสียทันที
แต่ไม่ว่าอย่างไร เธอก็ไม่กล้าแสดงออกมาต่อหน้าของคนคนนี้ อีกอย่าง เพราะว่าเขายอมตกลงกับการตัดสินใจของเธอ เธอสามารถรั้งตัวเขาไว้ที่โรงพยาบาลได้อีกสองสามวัน เธอก็ยังรู้สึกอารมณ์ดีอยู่บ้าง
“ค่ะ งั้นเดี๋ยวฉันจะไปออกบิลพักโรงพยาบาลอีกสองคืนให้ จริงสิ ครั้งที่แล้วที่ฉันนัดเวชศาสตร์ฟื้นฟูให้คุณ ยังต้องการอยู่ไหมคะ?”
“……”
ในขณะที่กำลังจะเปิดปากพูด หางตาของแสนรักก็เห็นว่าตรงประตูห้องพักผู้ป่วยมีเจ้าตัวเล็กๆวิ่งดึ๋งๆมา
“คุณอา อรุณสวัสดิ์ค่ะ รินจังลูกรักของคุณมาเยี่ยมแล้วนะ ต้อนรับไหมคะ?”
เด็กหญิงผิวขาวเนียนราวกับหยกที่ถูกขัดเหงา สวมชุดจระเข้น้อยที่สุดแสนจะน่ารักไว้จู่ๆก็ปรากฏตัวตรงหน้าประตู ทำให้แสนรักที่เห็นดังนั้นใจเต้นอย่างแรงไปครู่หนึ่ง
ลูกของผู้หญิงคนนั้น จู่ๆเธอมาที่นี่ได้อย่างไร?
“คุณอา ไม่ต้อนรับหนูหรือคะ? ไม่รู้จักหนูแล้วหรือ? หนูคือรินจังลูกรักเลยนะ”
เด็กหญิงตัวน้อยริมฝีปากสีชมพูที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูเห็นว่าแด๊ดดี้ไม่ตอบสักที รู้สึกเสียใจ หน้ามุ่ย หยดน้ำตาก้อนกลมๆประกายที่อยู่ในดวงตาแทบจะตกลงมาแล้ว
แสนรักรีบเปิดปากทันที “เปล่า มานี่สิ”
เขาวางหนังสือที่อยู่ในมือที่กำลังอ่านอยู่ลง แม้แต่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว ว่าได้กางแขนรออยู่บนเตียงผู้ป่วยแล้ว
หนูรินจังเห็นดังนั้น ก็ดีใจ
เธอเผยรอยยิ้มหวานๆบนใบหน้า รีบก้าวขาอ้วนๆพุ่งตัวเข้าไปหาแด๊ดดี้ทันที
“คุณอา……” เสียงเล็กหวานๆ เรียกเสียจนหัวใจแทบจะละลายแล้ว
หัวหน้าแผนกศัลยกรรมยืนมองด้วยอึ้ง งง อยู่ข้างๆ
จนกระทั่งเห็นว่าเด็กหญิงตัวเล็กกระโจนเข้าอ้อมกอดของชายคนนั้นอย่างง่ายดาย และชายคนนั้น ก็เปลี่ยนจากท่าทีที่เย็นชาเมื่อครู่ หลังจากที่กอดเธอ ริมฝีปากที่สวยงามก็ยกขึ้นเล็กน้อย
เธออิจฉาจนคลั่ง!
ยัยเด็กบ้านี่โผล่ออกมาจากไหนกันแน่?
ยังทำให้เขายิ้มได้อีก!!
“เธอมาได้อย่างไร? แล้วแม่เธอล่ะ?”
“หม่ามี๊กำลังดูแลคนไข้คนอื่นอยู่ คุณอาคะ ทำไมหม่ามี๊ถึงไม่ดูแลคุณแล้วล่ะ? หนูจะบอกให้นะ พี่ชายคนนั้นไม่ดีกับหม่ามี๊เลยสักนิด ไม่ให้หนูรินจังอยู่ในห้องผู้ป่วยด้วยนะ”
เด็กหญิงตัวน้อยไต่ขึ้นไปอ้อมอกของแด๊ดดี้ หลังจากหาตรงที่สบายที่สุดพิงแล้ว เธอก็เริ่มฟ้องขึ้นมา
แน่นอน สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ มีคนเป่าหูน้อยๆสอนเธอพูด
สีหน้าของแสนรักอึมครึมทันที
“นั่นมันแม่เธอรนหาที่เอง!”
“หา?”
คำตอบที่ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้นี้ ทำให้เด็กหญิงตัวน้อยเงยหน้าขึ้นมาจากอกของเขา
ทำไมถึงกลายเป็นหม่ามี๊ของเธอรนหาที่เองล่ะ?
ไม่ใช่ว่าควรจะต่อว่าพี่ชายคนนั้นหรือ? จากนั้นก็โกรธ แล้วย้ายหม่ามี๊กลับมา
ภายในดวงตากลมโตของหนูรินจัง เต็มไปด้วยความมึนงง……
“คุณแสนรัก หม่ามี๊ที่เธอพูดถึง หรือว่าจะเป็นคิตตี้ที่รับผิดชอบช่วงที่คุณนอนค้างที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้หรือคะ?” หัวหน้าแผนกศัลยกรรมที่ยืนฟังอยู่ข้างๆ เมื่อฟังถึงตรงนี้ ในที่สุดก็เดาได้แล้วว่าพวกเขากำลังพูดถึงใคร
แต่ว่า เมื่อเธอพูดจบ สองพ่อลูกกลับไม่มีใครสนใจเธอเลย
หัวหน้าแผนกศัลยกรรมเห็นดังนั้น ก็เกิดหัวเสียอับอายจนกลายเป็นโกรธแล้ว
“ใช่แล้ว เด็กน้อย คนไข้ที่หม่ามี๊เธอรับผิดชอบอยู่คนนั้น เป็นคนไข้ในโรงพยาบาลของเราที่เอาใจยากที่สุดเลย เขาเรื่องมากสุดๆเลย ก่อนหน้านี้มีคุณหมอหลายคนถูกเขาร้องเรียนแล้วโดนไล่ออกไปเลย”
“หา?”
เด็กหญิงตัวน้อยอายุเพียงหกขวบ ได้ยินดังนั้น ก็ต้องตกใจแน่นอน
ถูกร้องเรียนแล้วโดนไล่ออก?
งั้นถ้าหม่ามี๊ถูกไล่ออกไป แล้วแด๊ดดี้จะทำอย่างไร? เธอก็ช่วยแด๊ดดี้ไม่ได้แล้วสิ
หนูรินจังร้อนใจอย่างมาก เธอรีบลุกจากอ้อมกอดของแด๊ดดี้ทันที “คุณอา หนูไม่อยากให้หม่ามี๊ถูกร้องเรียนแล้วโดนไล่ออกถ้าเธอถูกออกจากที่นี่ พวกเราก็ไม่มีข้าวกินแล้ว คุณอา”
เสียงเล็กที่มีความสั่นคลอนน่าสงสารอ้อนวอน ฟังแล้วช่างบีบหัวใจนัก