ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 729 ฉันเพียงอยากเฝ้าปกป้องคุณ
สีหน้าของแสนรักมืดมนอย่างมาก
เขาไม่เชื่อว่าแม่ลูกคู่นี้จะไม่มีข้าวกิน
แต่ว่า ไฟในใจของเขา กลับเป็นของจริง
“ไสหัวไป!”
“หา?” หัวหน้าแผนกศัลยกรรมตกตะลึง ไม่น่าเชื่อว่านี่จะเป็นสิ่งที่เขาพูดกับเธอ
แต่ความเป็นจริงมันเป็นแบบนั้น ขณะที่ชายคนนี้หรี่ตาลง หลังจากมีความเย็นยะเยือกที่น่าสะพรึงแผ่ออกมาจากตัวเขา เธอไม่กล้ารอช้าแม้แต่น้อย รีบวิ่งออกไปทันที
ชายคนนี้ ช่างน่ากลัวจริงๆ
เมื่อหัวหน้าแผนกศัลยกรรมออกไปแล้ว แสนรักจึงจะปลอบโยนเด็กน้อยในอ้อมกอด
“วางใจเถอะ หม่ามี๊ของหนูจะต้องไม่เป็นไร”
“จริงหรือคะ?” หนูรินจังมองแด๊ดดี้อย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
แสนรักกลับพยักหน้าอย่างใจเย็น “อืม อาจะไม่ให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอ”
เขามองว่าเธอเป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่ง
แต่เขาไม่รู้เลยว่า หลังจากที่หนูรินจังได้ยิน เธออยู่ในอ้อมกอดเขาแล้วดีใจอย่างมาก ไม่ได้ห่วงเรื่องหม่ามี๊อีก เธอกลับไปซบอกของเขาเหมือนเดิม สองพ่อลูกฟังเพลงและอ่านหนังสือในมือ ภายในห้องพักผู้ป่วยที่เงียบสงบ
ภาพนี้ ที่จริงแล้วพวกเขาเคยมี
ขณะที่เส้นหมี่ทำงานเสร็จแล้วตามมาถึง เด็กน้อยก็หลับไปแล้ว
ขณะนี้ เธอมองชายคนนี้จากนอกหน้าต่าง อ่านหนังสือในมือไปด้วย มืออีกข้างที่ยังไม่ได้ถอดผ้าพันแผล กลับตบหลังเด็กน้อยที่นอนอยู่ข้างตัวเบาๆอย่างอบอุ่นไม่หยุด
กล่อมเธอ
นี่คือสิ่งที่เขาทำบ่อยๆเมื่อก่อน
บางสิ่งบางอย่าง ได้ซึมลึกเข้าไปในไขกระดูกแล้ว ต่อให้มีบุคลิกที่เปลี่ยนไป ก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปได้
เส้นหมี่ตาแดงน้ำตาคลอ หันหลังกลับไป เธอสงบอารมณ์อยู่ด้านนอกอยู่นาน ถึงจะสงบลงได้ จากนั้น เธอผลักประตูห้องพักผู้ป่วยออก แล้วเข้ามา
“รินจัง……คุณแสนรัก ขอโทษด้วยนะคะ เพื่อนร่วมงานของฉันละสายตาจากเธอไป วิ่งมาที่นี่เสียได้ ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ”
เมื่อเธอเข้ามา เพื่อเลี่ยงไม่ให้เขาดูออก ก็รีบแสร้งทำเป็นหายใจแรงและรู้สึกผิด
แสนรักกำลังกล่อมลูกอยู่
จู่ๆเธอก็เข้าห้องมา แขนของเขาก็ตอบสนองโดยอัตโนมัติ โอบเด็กน้อยข้างตัวไว้ “จะเสียงดังทำไม? ไม่เห็นหรือว่าเด็กนอนหลับอยู่?”
เส้นหมี่ “……”
ความสุขใจภายในใจที่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเกิดขึ้นอีกแล้ว เธอรีบใช้มือปิดปากของตัวเอง “โทษที……”
เธอชอบที่ได้เห็นเขาเป็นแบบนี้มากจริงๆ
เพราะว่า เขาที่เป็นแบบนี้ ถึงเป็นเขาที่คุ้นเคย
“เสร็จแล้วหรือ?”
“……เสร็จแล้วค่ะ” เส้นหมี่เข้าใจความหมายของเขา รีบพยักหน้า
แต่เมื่อคนคนนี้ได้ยินดังนั้น กลับหลุดหัวเราะออกมาบนเตียงผู้ป่วย “ดูเธอชื่นชอบชีวิตแบบนี้ดีนะ ชอบที่ต้องปรนนิบัติคนอื่นอย่างไร้ศักดิ์ศรีที่นี่มาก”
เส้นหมี่ “……”
ประชดอีกแล้ว!
เธอไม่อยากทะเลาะกับเขาต่อ ครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง แล้วตอบคำถามของเขาอย่างตั้งใจ
“ฉันเองก็ไม่ชอบ แต่ว่า ฉันทำเพื่อครอบครัว เพื่อเหล่าคนที่ฉันรัก แล้วก็รักฉัน ฉันจำเป็นต้องทำแบบนี้ คนเรามีชีวิตอยู่ หลายๆอย่างเราไม่สามารถเลือกได้เอง ไม่ใช่หรือคะ?”
เธอตอบทั้งสองคำถาม ยิ่งไปกว่านั้นเป็นครั้งแรกที่สบสายตากับดวงตาของเขาอย่างกล้าหาญมาก
แสนรักอึ้งไปชั่วขณะ
คาดว่า คงจะคิดไม่ถึงว่าจู่ๆเธอจะพูดแบบนี้กับตัวเองอย่างสงบ
อีกอย่าง แววตาของเธอดูเหมือนว่าจะแตกต่างไป
เมื่อเทียบกับวันก่อนแล้ว ราวกับว่าเธอจะมีความกล้ามากขึ้น และเต็มไปด้วยท่าทีที่อุตสาหะและกระตือรือร้น จนสุดท้ายเขาต้องยอมแพ้ ต้องหลบตาเธอก่อน
“แล้วแต่” สุดท้ายเขารู้สึกหัวเสียเล็กน้อย จึงพูดไปสองคำ
เส้นหมี่ “……”
ในขณะที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง จู่ๆก็มีคนเข้ามา
“หมอคิตตี้ คุณอยู่ที่นี่นี่เอง รีบกลับไปเถอะ คุณนายปัณฑาคนนั้นมา” คุณหมอที่วิ่งเข้ามา เมื่อเห็นเส้นหมี่ก็รีบเรียกอย่างใจร้อน
คุณนายปัณฑา?
เส้นหมี่นิ่งไป ยังไม่ได้สติเต็มร้อย “คุณนายปัณฑาไหนหรือ? เธอมาแล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน?”
คุณหมอร้อนรนจนกระทืบเท้าทันที “จะไม่เกี่ยวกับเธอได้อย่างไร? ก็เป็นแม่ของประณพ คนไข้ที่เธอเป็นคนรับผิดชอบอยู่ไง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอีก ครั้งก่อนที่เธอมา มีหมอและพยาบาลหลายคนถูกไล่ออกกันหมด”
เส้นหมี่ “……”
ในที่สุด หัวใจของเธอก็ดังตึกไปครั้งหนึ่ง หันหน้ากลับไปมองชายที่อยู่ในห้องพักผู้ป่วย
พบว่า รอบนี้เขาเองก็กำลังจ้องเธออยู่ ยิ่งกว่านั้น คิ้วสวยที่เย็นชายากที่จะเผยความไม่พอใจให้เห็น
“คุณแสนรัก งั้น……ฉันขอไปดูก่อนนะ ต้องขอรบกวนฝากลูกไว้ที่คุณสักเดี๋ยวแล้ว” เส้นหมี่ไม่มีเวลาไปคิดอย่างอื่นอีก ก้าวเท้าตามคุณหมอคนนั้นไป
ถ้าหากเป็นคนไข้ทั่วไป เธอจะไม่แคร์แน่นอน
เพราะอย่างไร คนที่หนุนหลังเธอก็เป็นผู้อำนวยการไพบูลย์ของที่นี่
แต่ว่า ประณพคนนี้ เป็นถึงลูกชายของประมุขแห่งรัฐ งั้นแม่ของเขา ก็เป็นภรรยาของประมุขแห่งรัฐไม่ใช่หรือไง? ถ้าเธอจะทำอะไรขึ้นมา ไพบูลย์คนเดียวจะไปห้ามอะไรได้?
เส้นหมี่วิ่งเร็วยิ่งกว่ากระต่ายเสียอีก
เป็นไปตามนั้น เมื่อเธอมาถึงแผนกอายุรกรรมแล้ว ก็พบว่าที่หน้าประตูห้องพักผู้ป่วยVIP มีชายชุดดำสองคนยืนเฝ้าอยู่แล้ว
และด้านใน ก็มองเห็นแผ่นหลังของหญิงวัยกลางคนขยับไปมา
“ณพ เชื่อแม่เถอะนะ แม่หาหมอที่เก่งที่สุดที่อเมริกาไว้ให้ลูกแล้ว หลังจากลูกไปแล้ว ก็สามารถทำการผ่าตัดได้อย่างรวดเร็ว จะกลับมาแข็งแรง”
“ไม่ไป”
ภายในห้องพักผู้ป่วย ประณพนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย บนหน้าไร้อารมณ์ตอบกลับคุณแม่ที่กำลังอ้อนวอนขอร้อง คำเดียว