ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 747 ปกป้องพวกเขา
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 747 ปกป้องพวกเขา
ม็อกโกตั้งใจทำแบบนี้
จุดประสงค์ของเขา ก็เพื่อพิสูจน์สิ่งที่เขาคิด
ปรากฏว่า เขาคิดไม่ถึงว่า กลับเป็นจริงขึ้นมา!!
ทันใดนั้น เลือดทั้งหมดก็ไหลขึ้นไปบนศีรษะอย่างกะทันหัน หลังจากนั้นนิ้วมือของเขาก็สั่นขึ้นมาอย่างรุนแรง ชายหนุ่มที่สูงใหญ่ขนาดนั้น หัวร้อนขึ้นมาจนไหล่ทั้งสองข้างสั่นเทา
อีกทั้งตาทั้งสองข้าง ยิ่งปกคลุมเต็มไปด้วยความมืดมน
ดังนั้น นี่เป็นพระคุณที่เบื้องบนให้มาหรือเปล่า
รู้ว่าเขาทำผิดอย่างร้ายแรง ให้เขามีโอกาสชดใช้สักครั้ง แบบนี้หรือเปล่า?
ม็อกโกก้มหน้าลง น้ำตาพรั่งพรูไหลออกมา……
เส้นหมี่ที่ยังอยู่ด้านบนยังอดทนอยู่อย่างยากลำบาก:“คุณชายม็อกโก คุณกำลังทำอะไรน่ะ คุณ……?”
“ไม่เป็นไร เมื่อสักครู่มีฝุ่นเข้าตา คุณรอสักครู่ ผมจะมายกกระเป๋าตอนนี้แหละ”หลังจากนั้นเขาก็เดินออกไป
เส้นหมี่:“……”
คนคนนี้เป็นอะไรกันแน่? ไม่รู้ว่าเธอยังพยุงเอาไว้หรือยังไง? ทำไมยังไม่มาอีก?
เธอเริ่มโมโหขึ้นมาแล้ว กำลังจะคิดหาวิธีด้วยตัวเอง เวลานี้ ม็อกโกก็กลับมาแล้ว ผมของเขาเปียก ใบหน้าก็เปียก ในมือของเขาถือไม้ไผ่มาลำหนึ่ง
เส้นหมี่:“……”
หรือว่าเขาวิ่งไปตัดไม้ไผ่มาหรือไงกัน? ทั้งศีรษะทั้งใบหน้าเปียกไปด้วยเหงื่อ
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ในที่สุดกระเป๋าก็ยกลงมาอย่างปลอดภัยแล้ว
“ต้องขอโทษด้วยคุณหมอสวยใส มือของคุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม”หลังจากอารมณ์ของเขาได้สงบลง มองไปยังหญิงสาวที่กำลังนวดเบาๆอยู่ที่ข้อมือของตัวเอง รีบกล่าวคำขอโทษออกมา
เส้นหมี่ส่ายหน้าไปมา
จะเป็นอะไรได้ล่ะ?
เธอไม่ใช่คนที่คิดเล็กคิดน้อย นึกขึ้นมาได้ว่าไม่เห็นคนที่อยู่ด้านล่างมาสักพักแล้ว เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง:“คุณชายม็อกโกต้องการจะเอาอะไรให้กับคุณแสนรักหรือคะ ตอนนี้สะดวกหยิบมาหรือเปล่า”
“แน่นอน”
ม็อกโกถึงนึกขึ้นมาได้
หลังจากนั้น เขาจึงหันไปแล้วหยิบอัลบัมรูปเล่มหนึ่งออกมาจากตู้เสื้อผ้า
เส้นหมี่อึ้งไป:“นี่คือ……?”
“นี่เป็นรูปที่หลายปีมานี้ที่พวกเราได้ถ่าย ผมได้ยินว่า ตอนนี้คุณไพบูลย์ส่งคุณมา หลักสำคัญคือช่วยเขาฟื้นความจำ ผมจึงนึกถึงสิ่งนี้ ไม่รู้ว่ารูปเหล่านี้ จะสามารถช่วยอะไรคุณได้หรือเปล่า”
ม็อกโกแฝงไปด้วยความหดหู่ มองไปที่อัลบั้มรูปเล่มนี้สักพัก
เส้นหมี่ได้ยินแล้ว ภายในใจก็ปลื้มปีติขึ้นมา!
แน่นอนว่ามีส่วนช่วยได้ คนที่มีปัญหาทางจิตจนมีอาการแบ่งแยกตัวตน ได้เห็นสิ่งเก่าๆ คนเก่าๆ ยังมีสิ่งที่อยู่ภายในความทรงจำลึกๆ ต่างช่วยกระตุ้นขึ้นมาได้
ดังนั้น สิ่งสิ่งนี้ เป็นเครื่องมือที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย
เส้นหมี่หยิบเอาอัลบั้มรูปเล่มนี้แล้วเดินลงไป
เธอไม่กล้าดูเท่าไหร่ เพราะว่า เธอกลัวว่าจะได้เห็นเขาในอัลบัมรูปในตอนนั้นยังสดใส นึกถึงเขาในตอนนี้ เธอยิ่งรู้สึกเจ็บปวด
“ขอโทษนะคะ ขอถามหน่อย พวกคุณเห็นคุณแสนรักกับพันโทม็อกกี้ไหม”
“อ๋อ พวกเขาเหรอ พวกเขาตกปลาไปที่สวนหยกระพาค่ะ”สาวใช้ชี้ไปที่ด้านขวาของสวนดอกไม้นี้
ตกปลา?
ยังวิ่งไปตกปลาอีกเหรอ?
เส้นหมี่เดินสะดุดเข้า เกือบจะล้มลงไป
เธอคิดภาพชายคนนั้นตอนตกปลาไม่ออกเลย เพราะว่า ตั้งแต่เธอรู้จักเขามา เขาไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนี้ พูดได้ว่า เขามีเวลาว่างก็จะขับรถแข่ง
แต่เขาไม่มีทางที่จะทำอะไรที่สงบเหมือนกับไก่ที่นั่งอยู่ นั่งอยู่ที่นั่นหลายชั่วโมงเพื่อรอให้ปลาตัวหนึ่งมาติดเบ็ด
เส้นหมี่มองไปที่สถานที่นั้นแล้วเดินไป
ปรากฏว่า หลังจากที่เธอมาถึงสวนหยกระพานี้ เธอก็เห็นสระน้ำที่เป็นประกายบนผืนน้ำด้านบน เงาของคนสองคนนั่งอยู่ใต้ร่มบังแดดอันใหญ่ ด้านข้าง มีคันเบ็ดสองคันที่กำลังตกอยู่
ไชกุคนนี้จริงเลย…..
ถึงแม้ว่าอยากจะทำความสนิทสนมกับเขา ก็ควรจะทำความเข้าใจก่อนว่าอีกฝ่าชอบอะไรนะ
เส้นหมี่เดินเข้ามาอย่างเหนื่อยใจ
คุณขุนนาย ความจริงแล้วอยู่ในตระกูลเทวเทพของพวกเรา คือคนที่เก่งที่สุด ตั้งแต่เด็กเขาก็ฉลาดหลักแหลม ไม่ว่าอะไรเรียนรู้แป๊บเดียวก็เป็นแล้ว ก็คงเป็นเพราะแบบนี้
น้ำเสียงของผู้ชายวัยกลางคนนี้แอบแฝงไปด้วยความเสียใจ เส้นหมี่ที่ก้าวเดินมาอย่างรีบร้อน หยุดลงทันที
ที่แท้ พวกเขากำลังพูดคุยสิ่งนี้?
เธอไม่ได้เดินไปข้างหน้าอีก แต่ยืนอยู่ตรงนั้นแล้วกางหูออกตั้งใจฟัง
“หึหึ แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่ว่าฆ่าเขาแล้วเหรอ”
“ไม่มี!”คำพูดนี้พูดออกมา ไชกุเร่ิมโมโหขึ้นมาแล้ว “แสนรัก คุณอย่าไปฟังข่าวลือข้างนอกเหล่านั้น พ่อของคุณ ไม่ใช่คุณปู่ของคนเป็นคนฆ่าอย่างแน่นอน”
“งั้นเขาตายยังไงเหรอ”
“ในตอนออกปฏิบัติภารกิจ เพราะว่าได้รับข่าวว่าแม่ของคุณที่กำลังท้องโชคไม่ดีเสียชีวิตแล้ว หลังจากนั้นเสียสมาธิ ถูกสังหารโดยพลซุ่มยิงของศัตรู”
ไชกุน้ำตาซึมออกมา เอาความจริงในปีนั้นค่อยๆเล่าออกมาให้แสนรักฟัง
เรื่องเรื่องนี้ ไม่เกี่ยวอะไรกับไชยันต์จริงๆ
ตอนนั้น ไชยันต์ได้ยินว่าขุนนายแอบขโมยทะเบียนบ้านไปแต่งงานกับภารานินที่เมืองAหลับหลังเขา โกรธขึ้นมาอย่างมาก ยังพูดออกมาว่าจะฆ่าเขาทิ้ง และตัดขาดความสัมพันธ์
แต่ว่า เขาไม่ได้ทำแบบนั้นจริงๆ
อีกทั้งหลังจากที่วุฒิพลได้ยินแล้ว จึงหยิบยกเรื่องนี้มาเป็นเรื่องเป็นราว วิ่งไปที่เมืองAจับตัวภารานินที่กำลังท้องหกเดือนมา หลังจากนั้นตั้งใจบอกข่าวเรื่องนี้กับขุนนาย ในตอนที่เขาออกไปปฏิบัติภารกิจ
จนสุดท้ายทำให้เขาต้องเสียชีวิต
“คุณไม่รู้หรอกว่า ปีนั้นในตระกูลเทวเทพ นอกจากพ่อของคุณแล้ว อีกคนหนึ่งที่เป็นไปได้สูงว่าจะมีสิทธิ์ได้เป็นผู้รับช่วงต่อ ก็คือวุฒิพล พ่อของคุณเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น สำหรับเขาแล้ว ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี แต่หลังจากเกิดเรื่อง เขาจัดการหลักฐานทั้งหมดจนไม่เหลือร่องรอย ถึงแม้ว่าคุณปู่ของคุณอยากจะจัดการเขาทิ้ง แต่ก็หาความผิดไม่เจอ หลายปีมานี้ ความจริงแล้วเขาไม่เคยปล่อยวางเรื่องการแก้แค้นให้กับพ่อของคุณ ยังตรวจสอบเขาอยู่ตลอด”
ไชกุพูดความจริงออกมาอย่างตรงไปตรงมาทั้งหมด