ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 758 อยู่ด้วยกันนะคุณแสนรัก
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 758 อยู่ด้วยกันนะคุณแสนรัก
เสียงผู้หญิงที่อ่อนโยนและชัดเจนดังมาจากโทรศัพท์มือถือ แม้ว่าจะไม่ได้เปิดสปีกเกอร์โฟน แต่อยู่ในรถหรูที่ปิดสนิท
ก็ยังฟังได้ยินบ้าง
ความง่วงนอนของเส้นหมี่หายไปในทันที เธอเงี่ยหูฟังอย่างระมัดระวัง
“เข้าใจแล้ว พรุ่งนี้ผมจะบอกคุณ”
และได้ยินว่าหลังจากที่ชายคนนั้นรับสายแล้ว เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ
หัวใจของเส้นหมี่จมดิ่งลงในทันที และความสุขก็หายไปในพริบตา
เขาไม่ได้ปฏิเสธด้วยซ้ำ
เขาวางแผนที่จะแทนที่เธอจริงๆเหรอ สองวันที่ผ่านมาเขาไม่เปลี่ยนไปเลยเหรอ เขายังไปหาหมอคนอื่นตอนที่เธอไม่อยู่
เส้นหมี่รู้สึกเศร้ามาก
แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ขยับ แค่หลับตาแล้วเอนตัวนอน มองดูราวกับว่าเธอหลับอยู่จริงๆ
สี่ทุ่ม
ในที่สุดรถก็ขับกลับไปเดอะวิวซี เส้นหมี่สัมผัสได้จึงลืมตาขึ้นทันที
“ถึงแล้วเหรอ”
“ถึงแล้วครับ หมอสวยใสพาคุณชายเข้าไปเถอะ ผมจะไปจอดรถ”
“โอเค”
เส้นหมี่เข้ามาเข็นรถเข็นอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้เดอะวิวซีนี้เงียบไปแล้ว และเด็กๆก็หลับไปแล้ว
ตอนดันเขาเข้าไปข้างในยังมีคนรับใช้รอพวกเขาอยู่ พอเห็นเธอ พวกเขาก็ตื่นเต้นมาก และแสดงความห่วงใยต่อเธอด้วย
เส้นหมี่ยิ้ม และขอบคุณพวกเขา
จากนั้นเธอก็มองลงไปที่ชายที่ยังคงนั่งรถเข็นอยู่
“คุณแสนรัก ฉันพาลูกกลับก่อน”
“…”
เขาเข้าไปในลิฟต์อย่างไร้ความรู้สึก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำพูดของเธอ เขาไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำ
เส้นหมี่ “…”
หลังไม่สามารถควบคุมหัวใจที่หดหู่ได้ เธอจึงทำได้เพียงก้มศีรษะแล้วหันกลับไป เตรียมจะไปที่โซฟาเพื่อรับเด็กแล้วจากไป
“สวยใส คุณมีแผนสำหรับการทำงานและการใช้ชีวิตของคุณไหม”
ทันใดนั้นชายที่เข้ามาในลิฟต์ก็ถามคำถามจากข้างในด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะอดทนมาเป็นเวลานาน และยังโกรธอยู่เป็นเวลานาน
เส้นหมี่ตกตะลึง
แผนอะไร
มันหมายความว่าอะไร
เธอยังกลับมายืนตรงหน้าชายคนนั้น “คุณแสนรักหมายถึง…”
“เพื่อจะทำงาน คุณถึงกับปล่อยเด็กเล็กไว้ที่บ้าน ไม่กลัวอุบัติเหตุเหรอ เธออายุแค่นิดเดียว แต่ปล่อยให้ดูแลตัวเองอยู่ที่บ้าน คุณไม่คิดว่ามันมากเกินไปเหรอ”
ชายหน้าซีดชี้ไปที่เด็กที่นอนอีกฟากหนึ่งของโซฟา
ในตอนนี้ เขาไม่สามารถซ่อนอารมณ์ได้อีกต่อไป!
มีทั้งความโกรธ ความผิดหวัง และความเกลียดชัง…
การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ครั้งนี้แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เส้นหมี่เคยเห็นมา
เส้นหมี่ตกตะลึง
เขาเลยไปรับเธอแต่ก็ยังเย็นชาไม่ใส่ใจเธอ เป็นเพราะเหตุนี้เหรอ
และเหตุผลที่เขาไม่ปฏิเสธหมอคนใหม่ที่เขารับสานเมื่อสักครู่ก็เพราะเรื่องนี้หรอ เขาคิดว่าเธอไม่สนใจลูกๆก็เพราะงานของเธอใช่ไหม
คนโง่คนนี้…
เส้นหมี่หันศีรษะไปหัวเราะจนน้ำตาไหล
“ยังมีหน้ามาหัวเราะอีกหรอ”
“เปล่าๆ ฉันแค่คิดว่าคุณแสนรักเป็นคนดีจริงๆ ถึงจะดูไร้มนุษยธรรม แต่จริงๆแล้วเป็นคนใจดีและอ่อนโยนมาก”
“…”
อะไรนะ!!
หน้าผากของแสนรักกระตุก อยากจะด่าเธอต่อ
แต่ในเวลานี้ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นก่อนแล้ว “ถ้างั้นคุณแสนรักให้ฉันอยู่ที่นี่กับลูกโอเคมั้ย ด้วยวิธีนี้ ฉันจะเป็นหมอประจำครอบครัวและดูแลเด็กๆได้ ตกลงไหม”
“…”
ใช้เวลานานหลายสิบวินาทีก่อนที่จะได้ยินชายคนนั้นที่นั่งอยู่ข้างๆพูดเสียงรอดไรฟันออกมา “ผมคิดว่าคุณกำลังรนหาที่ตาย!”
——
ในเวลาเดียวกัน ณ. เรด พาวิเลี่ยน
มินตราผู้ได้รับข่าวความล้มเหลวก็โยนถ้วยชาในมือของตัวเองแตกทันที!
“ไอ้เวรนั่น!”
“…”
ขวัญเมืองที่อยู่ด้านข้างไม่กล้าพูดอะไรออกมา
แต่หลังจากที่ได้ยินข่าว ในใจของเธอกลับตรงกันข้ามกับป้าคนนี้ เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก แม้แต่ความกังวลใจ และความกลัวก็ลดลงอย่างมาก
“นี่คือท่าทางอะไร ฉันไม่ประสบความสำเร็จ แกมีความสุขหรอ”
มินตราสังเกตว่าหลานสาวของเธอแอบมีความสุขก็โกรธมากขึ้น ก่อนจะโยนถ้วยน้ำชาใส่เธอ
เมื่อขวัญเมืองเห็นก็กลัวมากจึงรีบกอดหัว “คุณป้า อย่า…”
“คุณแม่จะทำอะไรครับ”
ในช่วงเวลาวิกฤต ม็อกโกก็เข้ามาเห็นฉากนี้พอดีจึงรีบเข้าไปห้ามแม่ของเขา
จากนั้นมินตราถึงได้หยุด
และขวัญเมืองก็เงยหน้าขึ้นมองลูกพี่ลูกน้องของเธอด้วยน้ำตาคลอเบ้า “พี่…”
สีหน้าของเธอดูน่าสงสารมาก เป็นเหมือนเดิมมาสิบปีแล้ว ตั้งแต่เธอเกิดมา ไม่ว่าในตระกูลโชคศักดาหรือในตระกูลเทวเทพ เธอก็เป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างถ่อมตัวที่สุดเสมอมา
ม็อกโกขมวดคิ้ว และให้เธอลุกขึ้น
“ออกไปก่อน ฉันจะคุยกับแม่” แล้วเขาก็ปล่อยเธอออกไป
และหลังจากที่ขวัญเมืองถูกส่งออกไป ด้วยดวงตาที่เปื้อนน้ำตานั้นก็ไม่เคยละไปจากลูกพี่ลูกน้องของตัวเองเลยจนกระทั่งประตูปิดลง
จากนั้นเธอก็มองย้อนกลับไปอย่างอาลัย และยืนพิงประตูห้อง
เธอกำลังรอเขา…