ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 777 เธอตบเขาไปฉาดหนึ่ง
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 777 เธอตบเขาไปฉาดหนึ่ง!
นี่มัน……?
นีรวรรณเห็นสถานการณ์แบบนี้ ก็เกิดรู้สึกไม่ดีแปลกๆขึ้นมาภายในใจ
“พ่อ อา……อารอง นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือคะ?” นีรวรรณถามขึ้นอย่างกล้าหาญ
แต่กลับคาดไม่ถึงว่า เมื่อสิ้นเสียงของเธอ รองผู้นำของไชยันต์ก็เดินไปเปิดโทรทัศน์และเคลื่อนย้ายมันออกมาด้วย
หลังจากนั้น ในจอภาพนี้ ในวันงานเลี้ยงที่เดอะวิวซี ปรากฏว่ามีแผ่นหลังของคนคนหนึ่งที่แอบย่องเข้าไปในห้องครัวแล้วเทบางอย่างลงไปในหม้อข้าวต้มที่ตั้งอยู่บนเตา
“อารอง!”ขุนรักษ์เป็นพวกไม่มีกระดูก เมื่อเห็นสิ่งนี้ ก็รีบคุกเข่าให้คุณท่านทันที รวดเร็วจนนีรวรรณที่อยู่ข้างๆคว้าตัวไว้ไม่ทัน
เมื่อไชยันต์เห็นดังนั้น ก็โกรธจนกัดฟันกรอดเสียงดัง!
“พวกแกนี่มันกำเริบเสิบสานจริงๆนะ วันนั้น ฉันอุตส่าห์ตั้งอกตั้งใจยุติความวุ่นวายลงให้พวกแก แต่พวกแก ยืนอยู่ในที่ของฉันแท้ๆ แล้วยังคิดจะทำร้ายคนของฉันอีก”
“ไม่……ไม่ใช่นะ อารอง วันนั้นพวกเรา……วันนั้นพวกเราคิดว่าอารองจะไม่ปกป้องเรา พวกเรากลัวว่าเขาจะลงมือทำอะไรเราอีก พอลองคิดดู ก็คิดได้แค่วิธีนี้”
“อารอง พวกเราไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ พวกเราเองก็ไม่ได้อยากเอาชีวิตเขา ก็แค่อยากจะลงโทษเขานิดหน่อยเท่านั้น เพื่อไม่ให้เขากล้ามาทำอะไรพวกเราอีก”
ผู้ชายคนนี้ เพื่อให้คุณท่านปล่อยเขาไป สุดท้าย แม้แต่คำพูดแบบนี้ก็พูดออกมาได้
แต่ในความเป็นจริง นี่คือความจริง
วันนั้น สิ่งที่พวกเขาใส่ลงไปในหม้อข้าวต้ม ไม่ใช่พิษที่จะฆ่าแสนรักให้ตาย แต่เป็นอันที่ไม่ให้เขาสร้างปัญหาได้อีกเท่านั้น
เอาชีวิตเขา ที่เดอะวิวซี พวกเขาเองก็ไม่กล้า
แต่ว่า เมื่อคุณท่านได้ยินแล้ว จู่ๆก็เกิดหัวเราะขึ้นมา
“ลงโทษ? แกหมายถึงสิ่งนี้หรือ?” เขาชูมือขึ้นแล้วโยนบางอย่างไป
ขุนรักษ์อึ้งไป จ้องมองไป เพียงครู่หนึ่ง เมื่อเขาเห็นชัดแล้วว่ามันคืออะไร เขาก็ร้องขึ้นมาอย่างเสียสติ “ไม่ใช่……ที่ผมใส่ไปไม่ใช่สิ่งนี้ ไม่ใช่!!”
เสียงร้องตะโกนสุดเสียง ฟังแล้วราวกับมีภูตผีกำลังโหยหวนอยู่ทั่วทั้งสวนแมกโนเลีย
นีรวรรณเองก็ตกใจอ้าปากค้าง
เธอเป็นคนบงการ เธอต้องรู้ชัดเจนอยู่แล้ว นี่ไม่ใช่ของที่เธอคิดออกมาตั้งแต่แรก
แต่ว่า พิษนี่ ทำไมถึงกลายเป็นอันนี้ล่ะ?
อีกอย่าง ถ้าหากโดนพิษที่พวกเขาวางจริงๆ มันไม่ได้เพิ่งออกอาการหลังจากสามวัน แต่จะออกอาการตั้งแต่วันนั้นแล้ว จะรอให้ถึงตอนนี้ทำไม?
เพราะงั้น ความจริงที่อยู่เบื้องหลังนี้มันคืออะไรกันแน่?
สมองของหญิงสาวคนนี้ราวกับคลื่นที่กำลังซัดอย่างโหมกระหน่ำ และเมื่อเธอคิดถึงความเป็นไปได้บางอย่างขึ้นมาได้ สีหน้าของเธอก็ขาวซีดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ร่างกายสั่นคลอนไปทั้งตัว
ช่างเป็นไอ้บ้าที่เสียสติไปแล้วจริงๆ!!
“ฉันเคยบอกแล้ว ตระกูลเทวเทพของเรา เป็นทหารมารุ่นสู่รุ่น ไม่ขอให้พวกแกทำอะไรเพื่อประเทศมากมาย แต่ห้ามทำอะไรที่ผิดกฎหมายของบ้านเมือง แต่ตอนนี้พวกแก กลับกล้าแตะต้องไอ้ของแบบนี้ ใครมันให้ความกล้าพวกแก? หา?!”
เสียงตะคอกสุดเสียงที่โกรธเกรี้ยวสั่นคลอนราวกับฟ้าผ่า จนทำให้ทั่วทั้งสวนแมกโนเลียเกิดเสียงสะท้อนขึ้น
เมื่อนีรวรรณเห็นดังนั้น ก็ไม่สามารถคงสติเพื่อเอาตัวรอดได้อีกแล้ว เธอเองก็คุกเข่าลงเช่นกัน “อารอง พวกเราทำผิดก็จริง แต่ไอ้ของพวกนี้ พวกเราไม่มีทางไปแตะต้องมันแน่ ได้โปรดเชื่อพวกเราด้วยเถอะค่ะ”
“เชื่อพวกแก?” ไชยันต์หัวเราะอย่างเย็นชาอีกครั้ง
เขาโบกมือ ทันใดนั้น ก็มีบอดี้การ์ดอีกสองคนเข้ามาอีก และในมือของพวกเขา ยังล็อกคนคนหนึ่งเอาไว้ด้วย
คนคนนั้น หลังจากที่ขุนรักษ์คุกเข่าเห็นเขาแล้ว ก็นอนราบลงไปราวกับหมาตาย
“แกเห็นหรือยัง? เห็นมันหรือยัง?”
“……”
“ฉันจะบอกอะไรแกให้นะ ไอ้ของพวกนี้แหละ พวกม็อกโกพาคนไปสืบกว่าครึ่งปียังไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรเลย เพราะว่ามันเป็นแบบใหม่ล่าสุดไง คนพวกนั้นยังไม่มีอยู่ในมือเลย มันทำอะไรอยู่? มันกำลังทำอะไรอยู่กันแน่? หา? ไอ้สัตว์เดรัจฉาน!”
ไชยันต์ตะคอกอย่างเดือดดาล ชักปืนออกมาแล้วเล็งยิงมือคู่นั้นไปอย่างละนัด
“อ้าก……”
ทันใดนั้น เสียงร้องโหยหวนที่น่าอนาถก็ดังขึ้นมาจากสวนแมกโนเลียอีกครั้ง
และในครั้งนี้ คือทรงกลด!
นีรวรรณอึ้งไปเลย เธอคิดไม่ถึงเลยแม้แต่น้อย น้องชายคนนี้ของเธอ จะยังปิดบังความลับที่ใหญ่มากขนาดนี้กับเธออยู่
ไอ้สารเลวนี่
นีรวรรณเองก็ตัวสั่นคลอนมากขึ้น ไม่ได้ไปร้องขอความเมตตาอีก แต่กลับร่างกายอ่อนแรง แล้วนอนราบอยู่ตรงนั้น
แน่นอน ไม่มีอะไรที่น่าปวดใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ม็อกโกเองก็เป็นคนในตระกูลเทวเทพ งานที่เขารับผิดชอบตอนที่อยู่ค่ายทหารคือคนที่นำกองกำลังทหารหัวกะทิไปจับกุมเหล่าอาชญากรที่ทำลายความมั่นคงของประเทศ พวกเขาใช้ชีวิตของตัวเองเป็นเดิมพัน ทุกนาทีคือการไปแบบไม่มีทางให้หันกลับ
แต่ว่าไอ้ขุนรักษ์นี่ล่ะ?
เป็นคนในตระกูลเทวเทพเหมือนกัน แต่กลับทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของตนเอง กลายเป็นอาชกรที่ไม่ควรค่าแก่การให้อภัย
ขุนรักษ์และนีรวรรณถูกนำตัวไปในที่สุด แน่นอนว่า ยังมีเดือนใจที่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ตั้งแต่ตอนนี้ไป สายเลือดของประพันธ์ นอกจากลูกชายคนเล็กสองคนที่วันๆเอาแต่ดื่มเที่ยวอย่างสนุกสนานแล้ว
ก็ไม่มีใครแล้ว
——
แสนรักฟื้นขึ้นมาในคืนวันนั้น
โรงพยาบาลให้ยากับเขา แต่ว่า เพราะว่าเป็นยาเสพติดชนิดใหม่ ทำให้ฤทธิ์ยาที่ให้ไม่ได้ออกฤทธิ์แรงขนาดนั้น ที่เขาฟื้นขึ้นมาได้ ก็ใช้เวลาไปบ้างเหมือนกัน
แต่ว่า มันไม่ได้ส่งผลอะไรคนที่เดินเข้ามาตบหน้าเขาฉาดหนึ่งเลย!
“ทำอะไรของเธอ?”
ในตอนนี้ เขาที่เพิ่งฟื้นขึ้นมา ดวงตาสีหมึกดำคู่นั้นที่ยังมองเห็นไม่ชัดนัก ก็ปรากฏความไม่พอใจขึ้นในพริบตา
แต่ว่า คนคนนี้ไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย
เธอเดินเข้ามา ยืนมองต่ำไปที่เขาอย่างเขม็งด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ “ฉันกำลังตบให้คุณได้สติ แล้วก็ตบให้สติตัวเองด้วย แสนรัก นี่ฉันกำลังหาเรื่องใส่ตัวหรือ? ทำไมถึงต้องเสียเวลาทุ่มทั้งแรงกายแรงใจให้กับคนที่ไม่ได้อยากมีชีวิตด้วย?”