ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 782 แสงดาวไม่ใช่คนไร้ค่าแต่แรกแล้ว
“ม็อกโก ฉันเห็นด้วยกับสิ่งที่น้องสาวนายพูดนะ ต่อไปนี้นายมาทานข้าวที่นี่บ่อยๆจะดีกว่า ไม่อย่างนั้น ฉันอยู่ที่นี่คนเดียว ฉันกลัวจะก่อเรื่อง”
“เธอก่อเรื่องด้วยหรือ?”
“แน่นอนสิ นายก็ดูเมื่อกี้นี้สิ ฉันเกือบจะสร้างปัญหาแล้วไหมล่ะ?”
แสงดาวจับผมของตัวเอง แล้วยิ้มออกมาอย่างละอาย
ม็อกโก “……”
นี่พระอาทิตย์ขึ้นจากทิศตะวันตกหรือไง คุณหนูตระกูลหิรัญชาที่ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองทำผิดพลาด กลับพูดออกมาเองว่าตัวเองก่อเรื่อง
ม็อกโกเพียงแค่เหอะๆออกมา แล้วเดินไป
เมื่อแสงดาวเห็นดังนั้น ก็รีบตามไป “นายพูดออกมานะ เหอะๆนี่มันหมายความว่าอะไร? ฉันจะบอกให้นะ ถ้านายไม่อยู่ที่นี่ ด้วยนิสัยของฉัน ฉันไม่รับประกันนะว่าฉันจะไม่ทำให้ปู่ของนายโกรธ”
“……”
ผ่านไปเป็นเวลานานมากๆ ขวัญเมืองยืนมองแผ่นหลังของทั้งคู่อยู่ตรงประตูห้องครัวนิ่งๆ ไม่ขยับไปไหนเลย
และใบหน้าของเธอ ก็ซีดขาวราวกับหิมะไป
ที่จริงเธอเข้าใจแจ่มแจ้ง ความรู้สึกที่คิดไม่ซื่อที่เธอซ่อนไว้ในใจนั้น มันไม่มีบทสรุป ผิดทั้งสถานะและผิดประเพณี
แต่ว่า เมื่อเธอเห็นเขาพูดคุยหัวเราะกับผู้หญิงคนอื่นแล้วพากันดินจากไปจริงๆ หัวใจของเธอก็เหมือนถูกมีดกรีด เจ็บจนเธอแทบจะหายใจไม่ออก
ชีวิตของเธอ ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
เธอกลับไปที่ห้องครัวอย่างสลด……
ตอนที่ไชยันต์ลงมา ม็อกโกก็ได้รออยู่ที่นอกห้องสมุดของเขา โดยมีแสงดาวอยู่ด้วย
“คุณปู่ครับ แสนรักเป็นอย่างไรบ้าง?”
“จะเป็นยังไงได้ล่ะ? นี่เพิ่งสองวันแรก ยังต้องสู้อีกเยอะ!”
ไชยันต์ที่เพิ่งลงมาจากชั้นบน ด้วยความเหนื่อยล้า เขากวาดตาไปที่หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหลานของตน แล้วพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีมากๆ
เมื่อม็อกโกเห็นดังนั้น ก็รีบช่วยพูดขึ้นมา “เมื่อกี้แสงดาวไม่เข้าใจสถานการณ์ ก็เลยบุ่มบ่ามไป คุณปู่อย่าโกรธไปเลย ที่เธอมาครั้งนี้ ก็เพราะรู้ว่าที่บ้านเราขาดคนที่รู้ความเคยชินในการใช้ชีวิตของเขา ก็เลยโทรหาผม ขอมาดูแลเขา”
พูดได้สวยหรูจริงๆเลยนะ
แสงดาวหันไปมอง เมื่อเห็นชายที่ยืนอยู่ข้างตัวเอง กำลังช่วยแก้ตัวให้เธออย่างตั้งใจแล้ว
เธอก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ
ไชยันต์ “เธอยิ้มอะไร?”
แสงดาวส่ายหน้า “เปล่าค่ะ คุณท่าน เพื่อแสดงการขอโทษของฉันเมื่อกี้นี้ เอาแบบนี้ ฉันขอเชิญชวนให้ดื่มสักหน่อย โจโอของโยโกคาอุเป็นไงคะ?”
“เธอว่าไรนะ?” ดวงตาของตาเถ้าเบิกกว้างขึ้นมาทันที
ส่วนม็อกโก หัวใจของเขาก็เหมือนถูกส่งขึ้นสวรรค์อีกครั้งในวิต่อมา เป็นเวลานาน ที่เขารู้สึกแขนขาของตัวเองเย็นไปหมดแล้ว!
นี่มันเวรกรรมอะไรของเขากัน?!!
“โยโกคาอุไงคะ คุณท่านจำไม่ได้แล้วหรือ? สมัยที่พวกท่านออกรบ ชื่นชอบเหล้าไหที่นั่นอย่างมากเลยนี่คะ”
“……”
“แต่ว่าตอนนี้ที่นั่นไม่ได้ผลิตเหล้าแล้ว กลายเป็นเมืองใหญ่ไปแล้ว เพราะฉะนั้น โจโอที่ฉันเป็นคนทำ อาจเป็นสูตรพิเศษ แล้วยังอาจจะเป็นอันที่พวกท่านดื่มในตอนนั้นด้วย”
แสงดาวขมวดคิ้วครุ่นคิด พยายามนึกอายุของเหล้านี้
สุดท้าย เธอเพิ่งพูดจบ ตาเถ้าคนนี้ก็ตบโต๊ะเสียงดังทันที แล้วยืนขึ้นอย่างตื่นเต้น
“เธอแน่ใจนะ?”
“แน่ใจสิ พูดแบบไม่ปิดบังเลยละกันค่ะ ฉันมีห้องเก็บไวน์อยู่ห้องหนึ่ง เพราะว่าตอนนั้นชอบดื่มเหมือนกัน ก็เลยมีเก็บไว้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นโจโอ แพร์ไวท์ ด็อกติ้ง……จริงสิ แล้วก็มีเหล้าอีกชนิดหนึ่งที่ไม่รู้ว่าชื่ออะไร ขวดแก้วสีเขียว ไม่มีรสอะไร กักตุนไว้ตั้งหลายปียังเป็นสภาพนั้นเหมือนเดิมคิดว่าจะโยนทิ้งแล้ว”
“กล้าดีอย่างไร!!” ไชยันต์ปริปากด่าเสียงดังในที่สุด “ไอ้คนไร้สมอง นั่นคือที่สุดของเหล้า!! ไม่สามารถหาได้แล้ว!!!”
“……”
ภายในห้องสมุด เงียบสงัดลง
และม็อกโก ก็จ้องผู้หญิงคนนี้อย่างอึ้งทึ่งเป็นครั้งแรก ราวกับเห็นผี รู้สึกไม่รู้จัก
ที่เธอพูด……เป็นความจริงหมดเลยงั้นหรือ?
ทำไมเขาถึงไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้มาก่อนเลย?
แต่ความจริง นั่นเป็นเพราะเขาแค่ไม่ได้รู้จักผู้หญิงคนนี้จริงๆเท่านั้น
แสงดาวเป็นใครกัน?
แสงดาวเป็นคุณหนูของตระกูลหิรัญชา เธอไม่ได้ไม่รู้หนังสือไม่มีปัญญาจริงๆ กลับกันเลย เธอเคยบริหารหิรัญชากรุ๊ปอยู่หลายปี คนที่สามารถบริหารจัดการหุ้นของเอ็มไพร์ที่ยักษ์ใหญ่ขนาดนั้นได้ จะไร้ความสามารถหรือ?
แล้วสิ่งที่เธอครอบครองอยู่จะน้อยไปกว่าใคร?
ในตอนที่ม็อกโกดึงสติกลับมาได้ แสงดาวและตาเถ้าก็ได้ไปที่แอลดับบิวทาวน์ด้วยกันแล้ว
ไม่นาน ไหเหล้าที่เปื้อนโคลนอยู่สองไห ก็ถูกส่งมาพร้อมกับรถที่ขับเข้ามา มันถูกยกไปที่แอลดับบิวทาวน์
“เป็นโจโอจริงๆด้วย ยัยหนู ฉันดูถูกเธอเกินไป” หลังจากที่ไชยันต์เห็นเหล้าสองไหแล้ว ก็จำได้ทันที ทันใดนั้น ดวงตาของเขาที่มองไปยังหญิงสาวก็ปรากฏความตกตะลึงขึ้นมาแวบหนึ่ง
แสงดาวยิ้มขึ้น
หยิบชามขึ้นมา เธออุ้มไหขึ้นมาแล้วเทชามทั้งสอง
“คุณท่านชมมากเกินไปแล้วค่ะ ไม่ว่าอย่างไร ก่อนที่น้องชายฉันจะบรรลุนิติภาวะ ก็เป็นฉันที่ช่วยคุณพ่อบริหารจัดการตระกูลของเรา สิ่งที่มีอยู่มันก็ไม่ได้แปลกประหลาดอะไรเท่าไรนัก เพราะฉะนั้น เหล้าชามนี้……”
เธอยกชามเหล้าขึ้น
เมื่อไชยันต์เห็นดังนั้น ก็ยกชามขึ้นตาม
“เหล้าชามนี้ ฉันขอชนเพื่อแสดงความเคารพ น้องชายฉันนิสัยไม่ค่อยดีนัก เพิ่งมาอยู่ใหม่ ถ้าหากทำให้คุณท่านโกรธ อย่างไรก็ขอให้เห็นแก่ที่พวกเราตระกูลหิรัญชาเลี้ยงเขามาอย่างยากลำบาก อย่าทำให้เขาลำบากใจ”
ผู้หญิงคนนี้ หลังจากที่ยกชามเหล้าขึ้น เปล่งกล่องเสียงประชด กล้าพูดสิ่งเหล่านี้ออกมา
ไชยันต์อึ้งไป
ม็อกโกที่ยืนอยู่เมื่อได้ยินดังนั้น ก็มองไปที่เธออย่างกะทันหัน แล้วแสดงสีหน้าตกตะลึงอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูกออกมา
นี่เธอบ้าไปแล้วหรือ?
กล้าแสดงความเป็นผู้ปกครองในฐานะตระกูลหิรัญชาต่อหน้าคุณท่าน แล้วยังพูดว่าตระกูลหิรัญชาของพวกเขาเลี้ยงดูให้เติบโตอย่างยากลำบาก
ม็อกโกเริ่มรู้สึกคิดผิดอย่างที่สุดที่มาเธอมาที่นี่