ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 791 ฮึ รินจังลูกรักทำได้เหมือนกัน
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 791 ฮึ รินจังลูกรักทำได้เหมือนกัน
แล้วรูปแบบก็ไม่ถูก ตรงนี้ตัวนึงตรงนั้นตัวนึง ถ้าเธอไม่บอกว่าตัวเองกำลังเขียนจดหมายอยู่ เธอนึกว่าเธอแค่กำลังวาดรูปกลุ่มไส้เดือนอยู่
“นี่คืออะไรหรอ?”
“พิษของแดดดี๊น่ะสิคะ…..”
เจ้าเด็กบอกกับน้าด้วยท่าทางตรงไปตรงมาว่าตัวเองกำลังเขียนคำว่า “พิษ” ตัวโตๆที่หมายถึงแดดดี๊
พิมแสงอยากจะหัวเราะก๊าก!
ดังนั้นตัวอักษรตัวนี้ที่เว้นห่างมีตัวกลมๆก็คือคำว่าพิษสินะ
เธอมองดูข้างล่างต่ออีก “แล้วตัวนี้ล่ะ?”
เจ้าเด็กหญิงตัวน้อยตอบอย่างภาคภูมิใจว่า “หนูไงคะ ‘นู’ ครูพวกเราสอนมาค่ะ มันก็หมายถึงตัวรินจังลูกรักนั่นเอง”
เธอพูดมาถึงตอนนี้แล้วก็จงใจโกยใบหน้าน้อยๆของเธอ
พิมแสง “……..”
ตรงนี้คือ ‘นู’ หรอ?
นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นเด็กไม่ตั้งใจเรียน และติดเล่นอีกต่างหาก!
พิมแสงดูต่อไปไม่ได้ รีบเดินออกมาจัดการกับธุระของตัวเอง เธอกลัวว่าดูต่อไปอีกจะทำให้เธอขำตายอยู่ตรงนี้
เธอเลยจัดการงานต่อ
แต่เธอนึกไม่ถึงว่า เธอกำลังยุ่งอยู่นั้น หลังจากผ่านไปหลายนาที เจ้าเด็กก็หยุดปากกาลงให้รู้สึกว่าตัวเองนั้นเขียนไม่เป็นตัวอักษรเอาซะเลย
“ถ้าพวกพี่ๆอยู่ก็คงดีน่ะสิ พวกเขาจะได้ช่วยรินจังเขียนได้”
เธอเศร้าซึมอย่างที่สุด คิดไปถึงภาพที่พี่ชายช่วยเธอเขียนการบ้านก็ให้คิดถึงมากยิ่งขึ้นไปอีก
แล้วตอนนี้จะทำไงล่ะ?
พวกพี่ๆก็ไม่อยู่แล้ว กิ๊บติดผมอันเล็กๆนั้นทำหายไปตอนที่ไปเจแปนอย่างไม่ตั้งใจ พวกพี่ๆไม่มีทางช่วยเธอได้อีก และเธอก็ไม่สามารถติดต่อกับแดดดี๊ได้อีก
เธอคิดถึงแดดดี๊มาก
แล้วก็หวังว่าแดดดี๊จะคิดถึงเธอเหมือนกัน
เจ้าเด็กนั้นหมอบอยู่บนโต๊ะคิดอยู่นาน สุดท้ายก็ปีนลงมา
ตอนที่พิมแสงมา ฟูกก็ไม่มีคนแล้ว
แต่เธอก็ไม่ได้คิดถี่ถ้วนว่าแม้ว่าโรงเหล้าที่ลานด้านหลังนั้นใหญ่ แต่ประตูใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าคณาธิปปิดไว้เพื่อไม่ให้หาพวกเธอเจอ นอกจากเขาก็ไม่มีใครสามารถเข้ามาได้
พิมแสงทำงานต่อไป
แต่เธอไม่รู้ว่าก้อนแป้งน้อยที่ในขณะนั้นกลับค่อยๆมาอยู่ที่ข้างๆเครื่องโทรเลขที่อยู่ในโรงเหล้า
จะโทรหาแดดดี๊ดีมั้ยนะ?
เจ้าเด็กย้ายโทรศัพท์มาไว้ หลังจากนั้นก็มุดแอบลงใต้โต๊ะ แล้วกดเบอร์ที่แดดดี๊นั้นแอบบอกไว้กับเธอ เธอจำตัวเลขไว้ในสมองเล็กๆของเธอได้
“ฮัลโหล…ฮัลโหล…..”
“おはようございます”
ในที่สุดก็โทรติด แต่ว่าเสียงที่ดังขึ้นนั้นเธอฟังไม่เข้าใจ
ดวงตากลมโตสุกใสของรินจังกระพริบปริบๆ “คุณอาหรอคะ?”
“なに?”
“คุณอา หนูรินจังเองนะคะ จำหนูไม่ได้แล้วหรอคะ?” เจ้าเด็กได้ยินเสียงนั้นก็ฟังไม่ออกอีก ทันใดนั้นดวงตากลมโตก็แดงขึ้นทันใด
แต่จริงๆแล้วเธอไม่รู้ว่าที่นี่คือเจแปน ถ้าเธอโทรตามเบอร์โทรศัพท์ที่แสนรักได้ให้ไว้กับเธอนั้น มันไม่ได้ใส่เลขเบอร์โทรระหว่างทางไกลระหว่างประเทศ
ก็ถือว่าฟลุคที่โทรติด และก็เป็นได้แค่เบอร์โทรศัพท์ที่ของเจแปนเท่านั้น
“คุณอา หนูคิดถึงคุณอา คุณอา…. ไม่คิดถึงหนูแล้วหรอคะ ลืมหนูไปแล้วหรอคะ?”
ก้อนแป้งน้อยที่พยายามมาหลายวันเพื่อให้ได้ติดต่อกับแดดดี๊ หลังจากได้ยินเสียงในสายก็ให้หมดหวัง เธอรู้สึกเสียใจน้ำตาไหลริน
คนที่อยู่ในสาย “…….”
ผ่านไปสักพักเหมือนมีคนเข้ามา หลังจากนั้นก็มีเสียงนึงดังขึ้น
“สวัสดีคะ ไม่ทราบว่าใครพูดสายคะ?”
“ฮึ้ม?” เจ้าเด็กได้ยิน ในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นอย่างดีใจ
“หนูเองค่ะ หนูรินจังเอง คุณเป็นเพื่อนของแดดดี๊หนูมั้ยคะ?”
เธอได้ยินเสียงเป็นเสียงผู้หญิง เลยไม่ได้เรียกว่าคุณอาแต่กลับถามถึงแดดดี๊แทน
แต่น่าเสียดายที่ผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างงุนงง
“ขอโทษนะจ้ะ แต่น้าไม่ใช่ พ่อของหนูคือใครหรอจ้ะ?”
“แดดดี๊ของหนูใช้เบอร์นี้ แดดดี๊ให้เบอร์นี้กับหนู เขาบอกว่าถ้าหลังจากนี้หนูจะโทรหาก็ให้โทรเบอร์นี้ได้ค่ะ”
หนูรินจังคิดไปถึงภาพที่ตัวเองอยู่ในอพาร์ทเม้นต์แล้วถูกแดดดี๊พาตัวไป และพูดย้ำอย่างเก็บความเสียใจไว้อีกครั้ง
คนที่อยู่ทางนั้นได้ยินก็ให้เข้าใจ
เด็กผู้หญิงคนนี้น่าจะโทรผิดเบอร์
แล้วเธอต้องการจะโทรเบอร์ทางไกลระหว่างประเทศหรอ?
ที่บ้านเธอไม่มีใครอยู่หรอ? เธอเลยโทรไม่เป็น ที่บ้านของเธอเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?
เจ้าของเบอร์ก็ถือว่าเป็นคนที่มีน้ำใจมาก บวกกับมาจากประเทศเดียวกันอีก ดังนั้นเธอเลยตัดสินใจช่วยเจ้าเด็กหญิงคนนี้
“โทรหาได้จริงๆจ้ะ หนูอย่าเพิ่งใจร้อนนะ เดี๋ยวน้าจะติดต่อแดดดี๊ของหนูตอนนี้เลย ให้เขาโทรหาหนูดีมั้ยจ้ะ?”
“ขอบคุณค่ะคุณน้า”
เจ้าเด็กหญิงดีใจนัก เธอพูดขอบคุณคุณน้าในโทรศัพท์เสียงใส หลังจากนั้นก็วางสายลง
ตอนนี้ก็ดีแล้วมีคนช่วยเธอส่งข่าว
เธอออกมาจากในห้องด้วยท่าทางกระโดดโลดเต้น
พิมแสงเดินเข้ามาพอดีเลยเห็นฉากนี้เข้า เธอชะงัก “เป็นอะไรไป ทำไมมีความสุขอย่างนี้?”
เจ้าเด็กเชิ่ดหน้ากลมๆด้วยความภาคภูมิ “จดหมายที่หนูเขียนถึงแดดดี๊ได้ถูกส่งไปแล้ว หึ!”
พิมแสง “…….”
เอาเถอะ ได้ “ส่ง”ไปแล้ว ขอแค่เธอไม่เหมือนเมื่อหลายวันก่อนที่ตะโกนร้องเรียกจะหาหม่ามี๊ แดดดี๊ก็พอแล้ว
พิมแสงไปทำงานต่ออีก