ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 796 คนที่อิจฉาตาร้อนในโลกนี้มันเยอะ
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 796 คนที่อิจฉาตาร้อนในโลกนี้มันเยอะ
น่าจะประมาณชั่วโมงกว่าๆ ในที่สุดเธอก็มาถึงสนามบิน
“ฮัลโหล ฉันถึงแล้วนะ พวกคุณถึงแล้วหรือยัง?”
“ถึงนานแล้วคุณหนูใหญ่ คุณคณาธิปกระชับพวกเราว่าให้พวกเรารอคุณมาก่อนแล้วค่อยออกมา คุณรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวพวกเราไปเอาตัวคุณรินจังออกมาให้ค่ะ”
คนที่อยู่ในสายได้ยินเสียงของเธอก็ดีใจยิ่งนัก เธอบอกว่าเธอกำลังอยู่ข้างนอกสนามบิน พวกเธอเลยเอาเด็กออกมาทันที
ที่แท้คนพวกนี้ก็เป็นคนของคณาธิป
แสงดาวเลยเอารถจอดรอที่ปากประตูทางออก
แล้วก็เป็นไปอย่างที่คิดไม่ถึงสิบนาที คนที่สวมใส่ชุดพยาบาลก็อุ้มเด็กน้อยออกมา
“รินจัง”
แสงดาวเห็นเลยรีบเปิดประตู แล้วเดินเข้าไปรับอย่างดีใจ
ตอนนี้หนูรินจังตื่นขึ้นเรียบร้อยแล้ว พอออกมาก็เห็นป้า ดวงตากลมโตของเธอเบิกกว้าง “ป้าเป็นป้านั่นเอง….”
เธอดีใจสุดขีด แสงดาวยังไม่ทันใดได้เข้ามา เธอก็อ้าแขนน้อยๆเนื้อจ้ำๆที่อยู่ในมือของพยาบาลทั้งสองคนกางออก
แสงดาวเห็นก็วิ่งเข้ามาอุ้มเธอ!
“อึ้บ! หลานสาวของป้า ป้าคิดถึงหนูจังเลย มาให้ป้าหอมหน่อย!” หลังจากนั้นหันไปหอมที่ใบหน้ากลมๆขาวนุ่มของเธอแรงๆ
หนูรินจังหัวเราะชอบใจ……
นี่เป็นป้าของเธอ เธอหอมเธอ เธอย่อมต้องดีใจแน่นอน
สองคนป้าหลานได้แสดงความรักกันเรียบร้อยแล้ว แสงดาวเลยหันมามองที่พยาบาลสองคนที่มาส่งเธอ
“แม่ของเธอที่อยู่ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง?”
“ดีมากเลยค่ะ เมื่อวานทำผ่าตัดรักษารอบสองประสบความสำเร็จมาก ต่อจากนี้ก็รอให้บาดแผลหาย อีกไม่นานค่ะ ส่วนการผ่าตัดสองครั้งสุดท้ายนั้นเป็นการผ่าตัดเล็กไม่มีอะไรแล้วค่ะ”
คนทั้งสองกลัวว่าแสงดาวจะกังวลใจ จึงรีบรายงานการผ่าตัดของเส้นหมี่ให้เธอ
ตรงหน้านั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ยังไงก็ต้องระมัดระวังเอาไว้เป็นดี
แสงดาววางใจ อุ้มเด็กเตรียมเดินออกไป
“เออ คุณหนูใหญ่คะ คุณผู้ชายของพวกเรายังมีเรื่องให้พวกเราต้องพูดกำชับคุณค่ะ”
“ว่าไงนะ?”
แสงดาวได้ยินดังนั้นก็ให้รู้สึกไม่พอใจ เธอหยุดเดินด้วยความรู้สึกไม่สบอารมณ์
เธอไม่ชอบที่เจ้านั่นมาสั่งมาสอนเธอ ก็เห็นชัดๆอยู่แล้วว่าเธอเป็นพี่ แล้วต้องตกเป็นหน้าที่เขามาสั่งสอนเธอเมื่อไหร่กัน
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าพยาบาลสองคนกลับพูดขึ้นว่า
“คุณหนูใหญ่ คุณผู้ชายบอกว่าคนตระกูลเทวเทพ พวกเราควรจะพูดให้น้อยลงหน่อย พวกเขาไม่เหมือนคนธรรมดา คุณอยู่ที่นี่ถ้าขืนพูดมากเกินไปจริงๆ พวกเขาไม่ปล่อยคุณไว้แน่!”
“……”
แสงดาวได้ยินดังนั้น วินาทีแรกคิดอยากที่จะด่ากลับไป
ไอ้สารเลวนั่นกล้าที่จะมาสั่งสอนเธอหรอ?
แต่เมื่อเธอขบคิดสักพัก สีหน้าก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นดูไม่ได้ สุดท้ายเลยไม่ได้พูดว่าอะไรอีก
คณาธิปสายตาเฉียบคมจริงๆ เขามองปราเดียวก็มองทะลุปรุโปร่งถึงพี่สาวต่างแม่ หลายวันที่เธออยู่ที่นี่เธอพยายามใช้ทุนทรัพย์ของตัวเองมาเอาอกเอาใจคนตรพกูลเทวเทพก็เพื่ออะไรกัน?
ดังนั้นตอนนี้เขาแค่กำลังเตือนเธอ
คนบางคนก็จิตใจคับแคบมาตั้งแต่เกิด ในสายตาไม่เคยปล่อยใครไป แล้วเธอไปแตะของๆพวกเขา พวกเขาจะปล่อยเธอไปหรอ?
ไม่อย่างแน่นอนล่ะ!
ในตระกูลราชวงศ์ที่เทียบกับตระกูลหิรัญชาซับซ้อนกว่าสอบเท่า คนก็มากกว่าสิบเท่า ถ้าคุณเป็นอย่างนี้ต่อไป รอให้ถึงตาคุณก็ไม่เหลือแม้เศษเสียว
และจุดนี้เองคณาธิปก็ชื่นชมมาจากเนติแม่ของเขา
สงครามของผู้หญิงเป็นอะไรที่น่ากลัวที่สุด!
สุดท้ายแล้วแสงดาวเดินจากไปด้วยใบหน้าอึมครึม
และพอเธอจากไปก็เป็นไปตามที่คณาธิปคาดไว้ รถBuickคันสีดำที่ตามเธอมาจอดอยู่ไม่ไกลก็ค่อยๆลดหน้าต่างลง
“เธอมารับเด็กจริงๆด้วย ทำไมนะ เด็กคนนี้เป็นคนที่คุณผู้ชายตระกูลเทวเทพต้องการไม่ใช่หรอ ถ้ามารับก็ต้องเป็นคนของคุณท่านไชมารับสิ เธอมารับทำไมกัน?”
“อีกอย่างน่าสงสัยนะ ทำไมเธอถึงสนิทสนมกับเด็กคนนี้มากขนาดนั้น? ดูสิท่าทางที่กอดกันเมื่อกี้นี้ดูไม่เหมือนไม่รู้จักกัน”
ใบหน้าที่เผยออกมาให้เห็นนั้นเป็นใบหน้าที่สวยงดงาม เครื่องประดับที่สวมใส่นั้นก็ดูแพงมีราคา ดูก็รู้ว่าเป็นหญิงสาวตระกูลคนมีเงิน
ตอนนี้จ้องมองแสงดาวที่จากไปแล้วถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ
ได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงหน้าสลวยที่นั่งอยู่เบาะหลังพูดด้วยเสียงเยือกเย็นขึ้นว่า
“แสดงว่ามันต้องมีอะไรน่ะสิ”
“แล้ว….เธอจะทำยังไงต่อ?”
คุณหนูคนนี้ ถูกเธอหัวเราะใส่จนรู้สึกขนหัวลุก
เธอเป็นอะไรไป?
ทำไมหัวเราะเสียงดังน่ากลัว?
เธอหันมามองเธอ
“สืบสิ! เธอช่วยฉันหานักสืบส่วนตัวที่เก่งๆ แล้วสืบความสัมพันธ์ของเด็กนี่กับผู้หญิงคนนั้นให้ฉัน ฉันจะดูสิว่าแสงดาวใส่หน้ากากอะไรไว้กันแน่?”
เด็กผู้หญิงคนนี้พูดอย่างไม่ปกปิดความร้ายกาจ
น่ากลัวเสียจริง
เพราะดวงตาเดิมที่อ่อนโยนน่ารัก ในเวลานี้ก็เปลี่ยนเป็นความร้ายกาจเฉียบคม มองแล้วชวนให้รู้สึกขนลุก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เธอมองรถของแสงดาวเคลื่อนจากไป…..