ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 851 น้องสาวถูกรังแก
ดังนั้น ในเวลานี้หัวหน้าอายุรกรรมนำเอาผู้ป่วยคนนี้มอบให้กับเส้นหมี่ที่เพิ่งมาถึง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
เส้นหมี่รับประวัติผู้ป่วยคนนี้มา กลับพบว่า ชื่อที่เขียนอยู่ด้านบน เป็นชื่อของคนคนหนึ่งที่เธอรู้จัก
“ไวท์รอน? เขากลับมาแล้ว?!”
เธอมองดูชื่อนี้อย่างประหลาดใจ ภายในม่านตาคู่หนึ่งใสสะอาดดูสวยงาม ล้วนเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
หัวหน้าอายุรกรรมเห็นสีหน้าแบบนี้ของเธอ ก็ตะลึงเล็กน้อย : “คุณรู้จักเขา?”
เส้นหมี่พยักหน้า : “รู้จักสิ เมื่อก่อนเขารักษาตัวอยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ? โรคมะเร็งปอด ตอนนั้นที่ฉันอยู่แผนกผู้ป่วยใน ยังเคยเป็นหมอประจำของเขาสองวันตอนที่เขาแอดมิท”
“ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง งั้นก็ดีเลย ผมไม่ต้องพาคุณไป คนคุ้นเคยกัน คุณรับผิดชอบเขาก็เหมาะสมที่สุดแล้ว”
ทันทีที่หัวหน้าอายุรกรรมได้ยินคำนี้ ก็ยิ่งวางใจที่จะมอบคนคนนี้ให้เส้นหมี่รับผิดชอบ
เส้นหมี่ : “……..”
มองดูหัวหน้าอารุกรรมคนนี้ออกไป เป็นเวลานานมากที่เธอถือประวัติผู้ป่วยคนนี้อยู่ด้วยความเลื่อนลอย
ไม่ใช่สิ ไวท์รอนคนนี้ไม่ใช่ย้ายไปที่เมือง M แล้วเหรอ? ทำไมกลับมาอีกแล้วล่ะ?
หรือว่า เขารักษาทางนั้นแล้วยังไม่ดีขึ้นเหรอ?
เธอนึกถึงชายหนุ่มใบหน้าที่ผอมบางนั้น แต่บนใบหน้ามักจะมีรอยยิ้มอยู่เสมอ ถึงแม้ตอนนั้นที่เขาจากไป จะจากกันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ในฐานะหมอคนหนึ่ง เห็นว่าสถานการณ์ยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนักอึ้งในก้นลึกของหัวใจ
สิบกว่านาทีต่อมา คุณหมอนัทคนนั้นก็เดินมาหา
“มาม่า เมื่อสักครู่หัวหน้าบอกว่า ไวท์รอนทางนั้นให้ผมกับคุณรับผิดชอบใช่ไหม”
“อ่อ ใช่” เส้นหมี่รีบพยักหน้าตอบรับ
คุณหมอนัทที่เพิ่งมาทำงานได้ไม่นานเหมือนกันทักทายเรียกเธอให้ออกไป ทั้งสองคนจึงเดินไปที่แผนกผู้ป่วยในด้วยกัน
“มาม่า คุณจะต้องระวังไวท์รอนคนนี้ให้มากๆนะรู้ไหม? เขาไม่ใช่ผู้ป่วยที่จะดูแลเอาใจได้ง่ายๆ ถ้าหากคุณไม่ระวังทำให้เขาไม่พอใจล่ะก็จะลำบากมากเลยนะ”
ตอนที่เดินไป อาจจะเพราะสาเหตุที่ทุกคนต่างก็เป็นคุณหมอฝึกหัด หมอนัทคนนี้จึงเตือนเธออย่างหวังดี
เส้นหมี่ได้ยินแล้ว เลยย้อนนึกถึงตอนที่ตัวเองดูแลชายหนุ่มคนนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะเผยให้เห็นถึงความสงสัยเล็กน้อย
“เขาดูแลเอาใจยากเหรอ?”
“ใช่สิ คุณไม่รู้เหรอ? เมื่อก่อนเขาก็เคยรักษาตัวอยู่ที่นี่ ได้ยินมาว่า เพราะว่าความไม่พอใจของเขา มีหมอผู้ป่วยในหลายคนถูกไล่ออกกันหมด ฐานะแบบนี้อย่างเขา พวกเราไม่กล้าทำให้เขาไม่พอใจได้หรอก!”
“……”
เส้นหมี่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีอยู่พักหนึ่ง
เพราะว่าที่เธอจำได้ ครั้งก่อนชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายเหมือนที่เธอพูด
ในทางกลับกัน เมื่อตอนนั้นที่แสนรักมักจะหาเรื่องแกล้งเธอ เขายังมีท่าทีที่ดีต่อเธอมาก ในสองวันนั้น สามารถพูดได้เลยว่าเป็นที่ลี้ภัยแห่งหนึ่งให้กับเธอ
บางที นั่นอาจเป็นแค่ข่าวลือ?
เส้นหมี่ไม่ได้ไปคิดถึงสิ่งเหล่านี้ และเดินตรงไปถึงยังโซนห้องผู้ป่วย VIP ของแผนกอายุรกรรมพร้อมกับหมอนัทคนนี้
หลังการผ่าตัด 24 ชั่วโมง ผู้ป่วยจะยังคงสลบอยู่ ฉะนั้น เมื่อสองคนนี้มาถึง มองเห็นคนในห้องไอซียู นอกจากท่อที่เสียบไว้เต็มร่างกาย บนใบหน้ายังมีหน้ากากออกซิเจน เขานอนแน่นิ่งไม่ขยับอยู่ตรงนั้น มองดูแล้วไม่มีความโกรธใดๆเลย
“ได้ยินว่า ดูแล้วไม่น่ารอด การผ่าตัดครั้งนี้ ก็เพียงแค่จัดการกับเลือดที่ออกภายในเท่านั้น จุดที่โรคมันลุกลามเหล่านั้น คือไม่สามารถกำจัดออกได้”
หมอนัทเข้ามาเห็นฉากฉากนี้ ก็ไม่รู้ว่าเพราะเห็นดวงตาคู่นั้นของชายหนุ่มคนนี้ที่ปิดสนิททั้งสองข้างหรือไม่? โครงหน้าที่สวยงาม ขนตาดกหนาก็ยิ่งเหมือนกับพัดเล็กๆที่แขวนห้อยอยู่ตรงเปลือกตา
เธอถึงกับถอนหายใจอย่างเสียดาย
อารมณ์ของเส้นหมี่เองก็ไม่ค่อยดีนัก โดยจากมุมมองของหมอแล้ว
ทั้งสองคนได้ลงทะเบียนข้อมูลจากเครื่องทดสอบทุกรายการของผู้ป่วยคนนี้อย่างละเอียด ไม่นานนัก หมอนัทถือข้อมูลเหล่านี้ออกไปแล้ว ในขณะที่เส้นหมี่ยังคงอยู่ในห้องไอซียูแห่งนี้ เพื่อรอให้ผู้ป่วยคนนี้ฟื้นขึ้นมา
นี่ก็เป็นกฎข้อหนึ่งที่ไม่ได้เขียนไว้
ว่ากันว่า ก็เพราะภูมิหลังครอบครัวของผู้ป่วยคนนี้ ญาติผู้ป่วยเรียกร้องอย่างแรงกล้าต้องให้คุณหมอเฝ้าดูเขาอยู่ในห้องไอซียูนี้ จนกว่าเขาจะฟื้น
เส้นหมี่ย้ายเก้าอี้ตัวหนึ่งมานั่งอยู่ริมหน้าต่างเพื่อรอ
แต่ที่เธอคิดไม่ถึงก็คือ ช่วงเวลาที่เธออยู่ในห้องไอซียูนี้เพื่อรอคนป่วยฟื้น โรงเรียนประถมทางนั้น หนูรินจังที่ถูกส่งไปที่นั่น เพราะว่าปัญหาการสอน เธอกลับทะเลาะกับคุณครูขึ้นมา
“ข้อนี้ไม่ใช่แบบนี้ ครูของหนูบอกแล้วว่า ไม่สามารถใช้วิธีแบบนี้สอนเด็กๆได้ ลูกเป็ดมันบินได้ แต่ไม่สามารถใช้ในโจทย์วิชาคณิตศาสตร์ เด็กๆ จับได้กี่ตัวก็คือเท่านั้น ส่วนที่เหลืออยู่บินไปหมดแล้วไม่ได้!”
เธอยืนโกรธอยู่ด้านหน้าแท่นบรรยาย ถึงแม้ว่าถูกคุณครูลงโทษให้ยืนอยู่ตรงนั้น ก็ยังคงโต้เถียงกับคุณครูด้วยดวงตาคู่แดงๆที่เปียกน้ำตา
ที่แท้คือ กำลังเรียนวิชาคณิตศาสตร์ โจทย์ที่คุณครูสอนคือข้อลูกเป็ดกลุ่มหนึ่งถูกเด็กๆ สองสามคนจับไปกี่ตัว จากนั้นจะยังเหลืออยู่อีกกี่ตัว
สำหรับโจทย์ข้อนี้ การสอนของในประเทศสอน คือสุดท้ายวิ่งหนีไปหมดแล้วจริงๆ
เพราะว่า ลูกเป็นคือสัตว์มีชีวิต ไปจับมัน หากทดสอบด้านความคิด ลูกเป็ดที่เหลือเหล่านั้นก็แน่นอนว่าต้องหนีไปหมด
แต่การศึกษาที่หนูรินจังได้รับมาตั้งแต่เข้าโรงเรียนไม่ใช่แบบนี้ เธอกับพี่ชายทั้งสองคนเริ่มต้นจากถูกส่งไปเรียนที่โรงเรียนประถมเอ็มไพร์ แห่งเมืองA นั่นคือโรงเรียนประถมที่ดีที่สุดภายใต้หิรัญชากรุ๊ป คุณครูที่รับเข้ามาล้วนแต่เป็นครูต่างชาติเป็นหลัก
จนกระทั่งต่อมา พวกเขาถูกส่งไปที่มัลดีฟส์ คุณครูส่วนตัวที่เชิญมาประจำที่บ้านก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย