ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 865 บิดเบือน
รองผู้นำเดชาพูดไม่ออกเลยสักคำ
ประหนึ่งสมองหยุดทำงานไปเสียอย่างนั้น จนเมื่อพวกเขาทั้งสองขึ้นไปบนรถ เขายังคงไม่กล้าที่จะเชื่อเรื่องพรรค์นี้
บรรพบุรุษท่านนี้ เขาต้องคุกเข่าให้จริงๆเสียแล้ว!
ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังไวท์ พาเลซ…..
เพียงแต่ว่า พวกเขาไม่มีทางรู้ว่า แสนดี ณ เวลานี้ จริงๆแล้วเขาไม่ได้ไปที่ไวท์ พาเลซ ยิ่งไม่ได้ไปหาปาเวซ
แต่เมื่อเขามาถึงตึกที่พลุกพล่านที่สุดในเมืองแล้ว เขาไปขึ้นลิฟท์ตรงขึ้นไปที่ชั้นบนสุด เพียงครู่เดียว ห้องทำงานที่กว้างขวางโอ่โถง ก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา
“คุณแสนรัก คุณมาแล้ว”
คนชุดดำซึ่งมารออยู่ที่นี่แต่แรก เมื่อเห็นว่าในที่สุดเขาก็มา จึงรีบไปเปิดประตูให้เขาอย่างพินอบพิเทา
แสนรักก้าวเท้าเข้าไปด้านใน
พื้นหินอ่อนที่บริสุทธิ์จนไม่มีตำหนิ ชุดเครื่องเรือนสีขาวอมเทา แม้แต่โต๊ะทำงานที่ใหญ่โตโอ่อ่า ล้วนแต่ทำมาจากไม้วอลนัทสีค่อนข้างเข้ม ห้องทำงานนี้ ตรงกระจกแบบฝรั่งเศสแผ่นมโหฬารนั่น ช่างคุ้นเคยเหมือนกับว่าเขาเคยเห็นที่นั่นมาก่อน
“ของหละ?”
แสนดีเดินไปใกล้โต๊ะทำงานนี้ เปิดสมุดบันทึกที่วางอยู่บนโต๊ะ เขาถามด้วยใบหน้าที่ราบเรียบไร้ความรู้สึก
คนชุดดำเมื่อได้ยิน จึงรีบนำถาดรูปตัวยูยื่นให้ “เสร็จหมดแล้วครับ เพียงแค่รอประกาศของคุณแสนรักครับ”
แสนรักรับแผ่นแทรกในสมุดบันทึกมาดู
ของสิ่งนี้ อันที่จริงแล้วนี่เป็นครั้งที่สองที่เขาให้คนนำออกมา ครั้งแรก คือตอนที่ศักดาตาย รวมถึงการตายของอีกสองคนด้วย
เพียงแต่เวลานั้น เขาเห็นว่าม็อกโกคิดโง่ๆว่าเขาไปตามเขาจริงๆ หลังจากนั้น จึงไปรอที่ชายแดนประเทศ N อยู่สองวันเต็มๆ ท้ายที่สุดยังไปหาเขาตรงที่ที่เขารอด้วยตนเอง
สุดท้าย ของสิ่งนี้ก็ไม่ได้นำออกมา
เขาสามารถทำให้เมืองหลวงฟ้าถล่มดินทลายได้ ให้ไอ้หมาสองตัวที่มีอิทธิพลมากที่สุดกัดกันเอง ท้ายที่สุดต่างก็ไม่มีจุดจบที่ดี แต่ว่า ม็อกโก ตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นผู้บริสุทธิ์
เขายังไม่อยากทำให้เขากลายเป็นเหยื่อ
ดังนั้น ครั้งนั้น เขาจึงล้มเลิกไปในที่สุด
แต่ตอนนี้…..
เขากวาดตามองไปที่ของสิ่งนั้นอีก ครู่เดียว จึงดึงออกมาอย่างเรียบเฉย
“เริ่มเลยเถอะ”
“ครับ คุณแสนดี”
คนชุดดำนำถาดตัวยูกลับไป เพียงครู่เดียว เขาก็ออกไปทำงานชิ้นนี้
เมืองที่อบอุ่นและงดงามสดใส ใครๆต่างไม่คาดคิด ว่าอีกไม่นาน แรงสั่นสะเทือนเลือนลั่นของการโค่นล้มกำลังใกล้เข้ามาแล้ว…
อาร์เจวาย
ปาเวซคงคิดไม่ถึงว่าสวรรค์ชั้นสูงสุดกำลังจะเปลี่ยนแล้ว
เขา ณ เวลานี้ กำลังนั่งอยู่ในศาลาที่รายล้อมไปด้วยดอกไม้สีสันสวยงาม เพลิดเพลินไปกับอาหารชั้นเลิศที่อยู่เบื้องหน้าอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“คุณไม่ทานจริงเหรอ? ปลาตุ๋นน้ำแดงจานนี้ เป็นปลาที่ผมเลี้ยงมาหลายปีเชียวนะ อ้วนท้วนสดใหม่ เลี้ยงตามธรรมชาติไม่มีมลพิษ คนภายนอกอยากทาน ก็ไม่ได้ทานนะครับ”
เขาทั้งคีบปลาตุ๋นน้ำแดงซึ่งมีกลิ่นหอมหน้าตาน่าอร่อยที่อยู่เบื้องหน้า และชักชวนผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามอย่างอดทน
นี่คือผู้หญิงที่สวยงามมากคนหนึ่ง
เธอมีผมสีดำขลับสั้นเกลี่ยบ่าปัดไปด้านหลัง เผยให้เห็นหน้าผากที่อิ่มเอิบและเกลี้ยงเกลา ผิวพรรณเพราะไม่ได้เจอแสงอาทิตย์มานาน จึงขาวซีดเหมือนไม่สบาย แต่โครงหน้าที่สวยงามประณีต กลับดึงดูดผู้คนเป็นอย่างมากเช่นเดิม โดยเฉพาะนัยน์ตาอันกระจ่างใสคู่นั้น แม้ว่าตอนนี้จะมีความขุ่นเคืองอยู่ แต่ช่างใสประดุจโปร่งแสงจากทะเลทราย ทำให้ผู้คนมองแล้วเหมือนมีประกายของนางฟ้า
ผู้หญิงคนนี้ ช่างสวยจริงๆ!
ปาเวซคีบเนื้อปลามาชิ้นหนึ่งวางไว้ในจานใกล้ๆเธอ
แต่ว่า ผู้หญิงคนนี้กลับไม่แม้แต่จะเหลือบมอง เธอพยายามอีกหลายครั้ง เมื่อไม่มีทางจะปฏิเสธ เธอจึงจ้องเขาอย่างขุ่นเคือง
“ปาเวซ นายจะทำอะไร? นายอย่าลืมฐานะของนายสิ เป็นถึงลูกชายของประธาน กลับทำเรื่องผิดกฎหมายเช่นนี้ นายไม่กลัวว่าจะมีคนรู้เหรอ?”
เธอด่าเขาอย่างเดือดดาล ตัวทั้งตัวสั่นเทิ้มเล็กน้อยอยู่บนเก้าอี้
ใช่แล้ว นี่เป็นเรื่องที่เธอไม่คาดคิดมาก่อนเลย
คนผู้นี้ เห็นชัดอยู่ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอเป็นคนใกล้ตายที่เป็นโรคซึ่งรักษาไม่หาย เขาถึงขนาดฆ่าตัวตายต่อหน้าเธอ แต่ว่าหลังจากเมื่อเธอมาแล้ว เขากลับทำเรื่องเช่นนี้กับเธอ
เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?
หญิงสาวทั้งประหลาดใจทั้งโกรธเคืองจนดวงตาเขียวปั๊ด
แต่ปาเวซผู้นี้เมื่อเห็นท่าทางที่หงุดหงิดของเธอแล้ว กลับหัวเราะ
“หมอคิตตี้ คุณไม่ต้องกลัว ผมไม่ทำร้ายคุณหรอกครับ ที่ผมทำเช่นนี้ เพียงแค่อยากรั้งให้คุณอยู่ที่นี่สักหลายวันหน่อย”
“อะไรนะ?” หญิงสาวยิ่งทวีความโกรธ “รั้งให้อยู่หลายวัน? นี่นายบ้ารึเปล่า? จะรั้งให้ฉันอยู่ที่นี่หลายวันหน่อย นายต้องทำเพียงนี้เชียวหรือ?”
“แน่นอนครับ ผมชอบให้คุณหมอคิตตี้อยู่กับผมตลอดเวลา ตอนแรกใครให้คุณปฏิเสธตอนผมให้คุณพักที่นี่ละ? ผมบอกแล้ว ว่าคุณพาลูกสาวของคุณมาอยู่ด้วยกันที่นี่ได้”
ชายหนุ่มที่ใบหน้ามีรอยยิ้มอันอ่อนโยน ซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเอ่ยออกมาเบาๆ
แวบหนึ่ง พูดยังไม่ทันขาดคำ หญิงสาวตรงนี้เมื่อได้ฟัง ความรู้สึกอันน่าสะพรึงกลัวสายหนึ่ง ได้บังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
เขาเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ!
เธอไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง เพราะกลัวว่าจะไปทำให้คนบ้าผู้นี้โกรธ แล้วจะเอาชีวิตเธอ
แต่เมื่อปาเวซเห็นเธอไม่ส่งเสียงใดๆ ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ : “คุณทำไมไม่พูดอะไรเลย? อันที่จริง ที่ผมรั้งให้คุณอยู่ที่นี่ ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลนะ คือผมอยากให้คุณเห็นชัดเจนว่าไอ้บ้านั่นที่มาจากตระกูลเทวเทพ เขาไม่ได้มีคุณอยู่ในใจจริงๆ”