ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 895 ผู้ช่วย
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 895 ผู้ช่วย
อีกอย่าง เรื่องที่น่ากลัวที่สุด คือมีผู้ปกครองคนหนึ่งเริ่มยุยง: “คุณครูคะ นักเรียนแบบนี้ ฉันดูแล้วเรียกผู้อำนวยการมาจัดการเถอะค่ะ โรงเรียนสาธิตปฐมเขตทหารนี้ของพวกเรา ก็ไม่ใช่ว่าจะเข้ามาได้ตามใจชอบ”
“ฉันเห็นด้วยค่ะ คุณครู!”
มีคนเริ่มเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้อีก
เส้นหมี่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นแล้วก็จะโมโห
เธออยากจะเถียงว่าของเล่นนั้นเป็นของลูกชายตัวเอง แต่ในตอนนี้ มือเล็กคู่หนึ่งกลับจับเธอไว้
“พอเถอะหม่ามี๊ พวกเราไม่ทะเลาะกับเขาแล้ว เอาแบบนี้ ผมไปขอโทษเขาแล้วกัน” จากนั้นคิวคิวก็ก้าวเท้าน้อยๆ เดินไปหาเด็กชายที่ชื่อ ชาวี
เส้นหมี่มองดูด้วยความโมโห
กลับเห็นว่า หลังจากที่หนุ่มน้อยคนนี้เดินไป เขาเดินไปด้านข้างเด็กชายที่ยังมีน้ำตาอยู่
“เพื่อนชา ขอโทษด้วย เป็นความผิดของเราเอง เราไม่ควรแย่งของเล่นของนาย ยิ่งไม่ควรต่อยนาย หวังว่านายจะให้อภัยเราได้ ต่อไปเราไม่ทำแล้ว”
คิวคิวมองดูเพื่อนคนนี้ แล้วขอโทษอย่างจริงใจ
เด็กชายมองเขาอย่างลำพองใจ
“ก็ได้ ถ้านายลอดใต้เป้ากางเกงของฉันไปได้ ฉันก็ให้อภัยนาย”
“!!!”
นี่คือสิ่งที่เด็กคนหนึ่งพูดจริงๆ เหรอ?
เส้นหมี่เสียสติไปหมดแล้ว เธอเหลือบมองผู้คนโดยรอบที่ไม่คิดเช่นนั้น แล้วอยากจะเข้าไปลากลูกชายกลับมา ไม่ให้เขารับการดูถูกจากเด็กที่ไม่ได้รับการอบรบสั่งสอนแบบนี้
แต่คิวคิว กลับมองดูเด็กคนนี้แล้วยิ้ม
“ได้สิ แต่ว่า พรุ่งนี้นายต้องระวังหน่อยนะ ฉันจะเปิดเผยเรื่องที่นายตั้งใจลอกคำตอบของ น้ำแข็ง”
“…”
“แล้วยังมีอีก ของเล่นเป็นของนายหรือไม่? พวกเราทุกคนรู้ดี พี่ชายของฉันเล่นมันมาหลายปีแล้ว ด้านบนยังมีรอยฟันของเขาอยู่ ฉันไม่รังเกียจที่จะให้นายเอาออกมาอีกในวันพรุ่งนี้ แล้วให้เขากัดอีกครั้งต่อหน้าเพื่อนร่วมห้องทุกคน”
คำพูดนี้ของคิวคิวพูดเสียงเบามาก
เสียงเบาจนได้ยินกันแค่พวกเขาสองคน
นี่ก็คือไก่อ่อนที่ไม่ได้รับการสั่งสอน ถ้าหากไม่ได้พิจารณาว่าตอนนี้หม่ามี๊อยู่ที่นี่คนเดียว พวกเขากลัวว่าเธอจะตื่นตระหนก ไม่อย่างงั้นวันนี้สองพี่น้องจะต้องเอาเขาตายแน่นอน
เด็กชายหน้าซีดลงทันที
เขาไม่กล้าเอ่ยความต้องการใดๆ อีก แล้วลากมือพ่อของเขากลับไปด้วยใบหน้าตกตะลึง
ผู้ปกครองคนอื่นที่ล้อมรอบประตูห้องเรียนไม่ได้กินเผือก จึงทำได้เพียงกลับไปอย่างเสียอารมณ์ สุดท้ายเหลือเพียงเส้นหมี่แม่ลูก
“คุณแม่คิวคิวคะ ถึงแม้ตอนนี้คุณพ่อ ชาวีไม่ได้ติดใจเอาความแล้ว แต่เรื่องนี้ ฉันหวังว่าคุณจะให้ความสำคัญ พวกเขามาเรียนเอาความรู้ที่โรงเรียน ไม่ได้มาสร้างเรื่องทะเลาะวิวาท คุณว่าไหมคะ?”
“ใช่ค่ะ”
“ยังมีอีกเรื่อง เวลาเรียนพวกเขาไม่จริงจังเลยสักนิด คุณครูสอน พวกเขาก็เล่นอย่างอื่นอยู่ด้านล่าง คุณดูสิคะ การทดสอบครั้งนี้ ทั้งสองคน 0 คะแนน แม้แต่น้องสาวที่อยู่ห้องข้างๆ พวกเขา ก็ยังสอบได้สามสิบคะแนนกว่านะคะ”
“…”
เส้นหมี่เงียบไม่พูดจา
ส่วนสองหนุ่มน้อยที่ยืนอยู่ด้านข้าง กลับกุมหน้าผากของตัวเองด้วยมือน้อยๆ
น้องสาวซื่อบื้อ ทำยังไงดีนะ
สุดท้ายเส้นหมี่รับปากแล้วรับปากอีกกับคุณครูคนนี้ ถึงได้พาสองหนุ่มน้อยไปรับน้องสาวด้วยกัน จากนั้นแม่ลูกสี่คนออกจากโรงเรียน
“มา ลูกสองคนพูดมา ทำไมครั้งนี้ถึงได้สอบ 0 คะแนน?”
เมื่อออกมาหลังจากแม่ลูกสี่คนขึ้นรถ เส้นหมี่ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอขับรถไปด้วย จ้องมองตัวแสบสองคนในกระจกมองหลังแล้วจี้ถามไปด้วย
หนูรินจังได้ยิน ทันใดนั้นดวงตาดำองุ่นเหมือนกับคุณหนูใหญ่ถลึงตากลมโต!
พี่ชายสอบได้ 0 คะแนน?
จริงหรือเท็จ? นั่นก็ดีมากจริงๆ เลย ในที่สุดเธอก็ทำคะแนนได้มากกว่าพวกเขาครั้งหนึ่ง
“หม่ามี๊ นั่นเป็นโจทย์ปัญญาอ่อน ถ้าพวกเราตอบ ก็ถือว่าดูถูกไอคิวของพวกเรา”
“ลูกพูดอะไรนะ?”
เส้นหมี่โมโหจนเกือบจะเหยียบเบรกทันที
ยังมีอีก ในจอมแสบเหล่านี้ ยังมีคนที่ค่อนข้างเชื่อฟัง และก็มีเหตุมีผล
ชินจัง: “ชาวีคนนั้นเอากระดาษคำตอบของพวกเราไปซ่อนไว้ รอให้พวกเราจะตอบคำถาม กระดิ่งก็ดังขึ้น”
“พวกลูกไม่ได้บอกคุณครูเหรอ?”
“บอกแล้วครับ แต่ว่ามีประโยชน์ไหม?”
คิวคิวยักไหล่ ใบหน้าเสียดสี
เส้นหมี่โมโห เป็นเวลานาน เธอกำพวงมาลัย หน้าเขียวไปหมด
โรงเรียนบ้าบอนี่ สังคมเลวร้ายแบบนี้ พ่อของพวกเขาทำไมถึงพูดว่าเป็นโรงเรียนดีนะ? ให้พวกเขามาเรียนหนังสือที่นี่?
เส้นหมี่ที่ทั้งโมโหเดือดดาลตัดสินใจว่าหลังจากกลับไป จะต้องพูดคุยเรื่องนี้กับแสนรักสักหน่อย เธออยากให้ลูกๆ ออกจากโรงเรียนนี้ ไปที่ที่สภาพแวดล้อมสะอาดสะอ้าน
แต่ว่าที่เธอไม่รู้คือ ในตอนที่เธอพาลูกสองคนกลับมา
เธอขึ้นไปชั้นบน เด็กๆ กลับรวมหัวน้อยๆ อยู่ในห้องเด็ก
“คิดได้แล้วยังว่าวันพรุ่งนี้จะทำยังไง?”
“เอาตาย!”
ชินจังที่ใบหน้าเหี้ยมโหด คำพูดสองคำที่เต็มไปด้วยความอาฆาต เล็ดลอดออกมาจากไรฟันของเขา
คิวคิวได้ยินก็ยิ้ม: “ตกลง ถือว่าเป็นการแก้แค้นให้ทรานฟอร์เมอร์ของพี่ วันนี้ฉันไม่เคยโมโหขนาดนี้มาก่อน ยังให้ฉันลอดเป้ากางเกงเขา?”
เสียงดัง “กรอบแกรบ”
หนุ่มน้อยคนนี้ยกมือแล้วยัดมันฝรั่งในมือเข้าปากของตัวเอง
หนูรินจังกะพริบตาโตแววใสมองพี่ชายสองคน
พวกพี่ชายวันนี้ทำไมถึงโมโหขนาดนี้นะ?
วันนี้เธอผ่านไปอย่างดีมากเลย เพื่อนในห้องเล่นกับเธอ หลังจากที่พี่ชายช่วยคุณครูซ่อมโทรศัพท์ที่โดนไวรัสจากการดูวิดีโอเสร็จ ก็ดีกับเธอมากเลย
รินจังงุนงงเป็นอย่างมาก