ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 909 จูบ
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 909 จูบ
“หืม?”
เส้นมาประหลาดใจมาก:“งั้น…..งั้นทำไมเขาถึงได้มาหาฉันล่ะ? ถ้าเขาอยากจะดูแล ตระกูลเทวเทพคนตั้งมากมายต่างก็ทำได้ ยกตัวอย่างเช่นแม่ของม็อกโก ถ้าไม่ได้ก็พิมเจ้าคนนั้น ฉันรู้สึกว่าต่างก็ทำได้”
“พวกเธอ?”
คาดไม่ถึง ชื่อของสองคนนี้ออกมาจากปากของเส้นหมี่ คนที่อยู่เบื้องหน้าคนนี้พ่นลมออกจากจมูกแล้วยิ้มออกมาเย้ยหยัน
“มินตรานั้นเป็นคนอย่างไรคุณยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ? จากนั้นพิมเจ้า เธอเป็นสายเลือดรอง เดิมไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาดูแลตระกูลเทวเทพ อีกทั้งความสามารถของเธอก็แค่นั้น”
แสนรักพูดไป น่าจะนึกถึงเรื่องงานเลี้ยงครั้งที่แล้ว สีหน้าของเขายิ่งดูปรามาสเป็นอย่างมาก
เส้นหมี่เข้าใจแล้ว
เข้าใจก็ส่วนเข้าใจ สำหรับเรื่องนี้ เธอก็ยังไม่สามารถยอมรับได้
แน่นอน ถ้าเธอรู้ว่า ตอนนี้ไชยันต์ นำเอาพวกเขาของสามีภรรยามาเป็นมาเป็นหนึ่งในรายชื่อที่เป็นความหวังของตระกูลเทวเทพในอนาคต เป็นไปได้ว่า เธอจะสามารถเข้าใจได้
โดยเฉพาะแสนรัก เป็นจุดสำคัญที่เขาต้องการอบรมสั่งสอน
หลายปีมานี้ตั้งแต่เขาเกษียณออกมาทำงานเบื้องหลังตระกูลเทวเทพเสื่อมถอยตกต่ำ เขามองดูอยู่ตลอด แต่ว่า ไม่ว่าเขาจะให้วุฒิพลมาทำงานในตำแหน่งในค่าย หรือว่าการเลื่อนตำแหน่งของม็อกโก สถานการณ์เหล่านี้ ก็ไม่ได้ทำให้ดีขึ้นแม้แต่น้อย
วุฒิพลนั้นบ้าระห่ำมั่นใจในตัวเอง แบกชื่อตระกูลของตัวเอง ในค่ายทหารดูเหมือนว่าจะฟังคำพูดของเขา
แต่ความจริงแล้ว คนที่นับถือเขาจริงๆน้อยมาก
ทว่าจุดนี้ ตั้งแต่เขาเกิดเรื่องขึ้น ในตอนที่เข้าล้อมแสนรัก คนตายมากขนาดนั้น ในค่ายทหารไม่มีใครมาออกหน้าแทนเขาสักคน แล้วก็ไวท์ พาเลซด้านโน้นเห็นคนล้มยิ่งเหยียบซ้ำ
ก็สามารถมองออกแล้ว
ดังนั้น เขาไม่เพียงไม่สร้างชื่อเสียงให้ตระกูลเทวเทพ อีกทั้งยังดึงตระกูลเทวเทพให้ต่ำลง
สำหรับม็อกโก
เขามีความสามารถ น่าเสียดาย นิสัยของเขาซื่อสัตย์และใจดีมากเกินไป ไม่กล้าตัดสินใจไม่ห้าวหาญพอ เมื่อมาอยู่ในเกม แบบนี้จะสามารถเล่นชนะคนของไวท์ พาเลซเหล่านั้นที่มีแผนการล้ำลึกได้อย่างไร
อย่างนี้ ตระกูลเทวเทพอยู่ในมือเขา จะมีโอกาสกลับมาเจริญรุ่งเรืองได้อีกอย่างไร?
สามารถรักษาเอาไว้ได้แบบนี้ ก็ดีเท่าไหร่แล้ว
สุดท้ายแสนรักไม่ได้ขัดขวางเส้นหมี่เรื่องรับมือต่อเรื่องนี้ ข้อแรก เขากำลังจะกลับไปแล้ว ไม่ว่าเขาอยากจะสร้างเรื่องอะไร เขาอยู่ข้างเธอ เขาทำอะไรไม่ได้หรอก
อีกทั้งข้อสองเพราะว่า……
“แสงดาวเป็นบ้าอะไรอีก?”
“หืม?”
ทันใดก็เปลี่ยนเรื่องไปไกลมาก เส้นหมี่ที่กำลังเดินอยู่ไม่หยุดลงไม่ได้แล้ว
“เธอ……วันนั้นที่บาร์เธอได้รู้ว่านิษาเป็นคู่หมั้นของม็อกโก หลังจากนั้นก็ผิดหวังเสียใจเป็นอย่างมาก อยากจะนำบาร์ของเธอ……มอบให้ฉัน พูดว่าไม่ต้องการแล้ว”
“หึหึ……”
น้ำเสียงอันนี้ ร่างของชายหนุ่มเยือกเย็น เย็นจนทำให้คนสั่นเทา
ทันใดเส้นหมี่ก็เข้าใจแล้ว บาร์แห่งนี้เธอเอามาไม่ได้ ถ้าเอามาแล้ว ไม่แน่ว่าสุดท้ายแล้วคนที่จะถูกลอกหนังออกมาคือเธอ
เส้นหมี่ออกมาจากค่ายทหารแล้ว
เดิมอยากจะกล่าวลาดีๆ แต่ว่า เธอพึ่งจะก้าวออกมา ชายหนุ่มคนนี้ดูนาฬิกาข้อมือแวบหนึ่ง หันหลังกลับก็ไปแล้ว
ไอ้คนนี้!
เส้นหมี่โมโหนิดหน่อย เธอจึงเดินตามมา หลังจากนั้นยื่นมือไปจับแขนของเขาเอาไว้!
“……”
“พี่ชาย……”
เธอจู่ๆก็พึมพำเหมือนละเมอหนึ่งประโยค หลังจากนั้น ที่หน้าประตูใหญ่ของสถานที่ที่เป็นตัวแทนของพลังและอานุภาพของประเทศชาติ เขย่งเท้าขึ้นมาภายใต้แสงแดดอันแรงกล้า จูบไปที่ริมฝีปากของชายหนุ่ม
บรรยากาศแข็งตัวแล้ว
เวลา ก็เหมือนกับว่าได้หยุดลง
ใครก็คาดไม่ถึง ในขณะที่แสนรักเปลี่ยนไปเป็นอีกคน เรื่องราวของพวกเขาก็กลายเป็นอีกแบบแล้ว คนที่แสดงความรักออกมา ก็ยังคงเป็นหญิงสาว
อายุสิบแปดในปีนั้น เธอเป็นคนคิดริเริ่ม แต่งงานกับเขา
หลังจากนั้นแปดปี เป็นคนเลือกมาอยู่ข้างๆเขาเอง อีกทั้งริเริ่มจูบเขาก่อน ก็ยังคือเธอ
ร่างกายสูงสง่าของแสนรักนิ่งไปแล้ว!
เหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างระเบิดออกมาจากในสมอง นัยน์ตาทั้งสองที่ดำเหมือนกับหยกสีดำเบิกกว้าง เขารู้สึกถึงความหอมหวานนุ่มละมุนจากริมฝีปาก
เขาเปลี่ยนเป็นว่างเปล่า
ความรู้สึกแบบนี้ ทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นเคยแบบนี้?
แล้วก็เมื่อสักครู่เธอ……ทำไมถึงเรียกเขาว่าพี่ชาย?
ใบหน้าของเขาเหมือนกับถูกน้ำแข็งห่อหุ้มเอาไว้ แต่ในนัยน์ตาลึกๆ ภาพในช่วงเวลาต่างๆได้แสดงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทันใดนั้นฉายขึ้นมามากกว่าเดิมแล้ว
“พี่ใหญ่ คุณทานส้มไหม? ฉันให้คุณ”
“พี่ใหญ่ มี……มีหมากำลังไล่ตามฉัน……”
“……”
“พี่ใหญ่ ขอโทษนะ หมี่ทำให้คุณเป็นแบบนี้ พี่ชาย……”
“พี่ชาย ฉันจะปกป้องคุณเอง”
“แสนรัก ฉันยินยอมแต่งงานกับคุณ ทั้งชีวิตนี้ ไม่ว่าจะยากจนหรือร่ำรวย ไม่ว่าจะสุขสบายหรือว่าทุกข์ยาก ฉันจะรักคุณตลอดไป ฉันจะภักดีต่อคุณ”
……
สุดท้ายในตอนที่เส้นหมี่ผละออกจากชายหนุ่ม เดิมทีไม่กล้ามองสีหน้าของเขา เธอหน้าและหูแดงระเรื่อใจเต้นระห่ำ เหมือนกับว่าทำเรื่องน่าอายยังไงอย่านั้น
เธอวิ่งออกไปทันที
แม้แต่เธอวิ่งออกไปแล้วชายหนุ่มยังยืนแข็งทื่ออยู่ที่นั่น จนสุดท้าย สิบนิ้วของเขาที่อยู่ด้านข้างสั่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ดวงตาทั้งสองปะทุอย่างบ้าคลั่ง หางตาก็เริ่มแดงฉาน……
เธอไม่เห็นสักนิด