ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 937 อำนาจของคุณนายหญิงแห่งตระกูลเทวเทพ
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 937 อำนาจของคุณนายหญิงแห่งตระกูลเทวเทพ
“คุณมินตรา คุณช่างกล้าเสียจริงๆ กล้ามาตบคนถึงที่เดอะวิวซี คุณคิดว่าวันนี้คุณยกคนของตระกูลคุณออกมาแล้ว ตระกูลเทวเทพจะไม่กล้าทำอะไรคุณงั้นเหรอ?”
เธอโกรธถึงขีดสุด แต่ไม่มีสีหน้าท่าทางอะไรมากนัก เพียงแค่จ้องมองผู้หญิงคนนี้แล้วย้อนถามมาด้วยคำพูดนี้ทีละคำ
เมื่อเสียงจบลง ทันใดนั้น ห้องรับแขกก็เกิดความโกลาหล
“มินตรา นี่มันอะไรกัน? หล่อนอายุน้อยกว่า ทำไมถึงกล้าย้อนถามคำถามเหล่านี้กับเธอได้?”
“นั่นสิ หล่อนเพิ่งเข้าในตระกูลเทวเทพได้ไม่กี่วัน ก็ไม่เห็นเธออยู่ในสายตาขนาดนี้แล้ว มินตรา บ้านตระกูลเทวเทพนี่มันยังไงกันแน่? มันไม่ใช่เรื่องเลยจริงๆ คนอายุน้อยกว่าคนหนึ่งขี่ขึ้นมาบนหัวเธอแล้ว”
“มิน่าวันนี้เธออยากที่จะมา ที่แท้ก็ถูกรังแกแบบนี้นี่เอง”
“เสียมารยาท!”
เสียงตะโกนด้วยความโมโหเสียงสุดท้ายนี้ ก็คือมาจากคุณท่านของตระกูลโชคศักดานั่นเอง
ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความโกรธ สายตาที่แสนดุร้ายนั้น ก็เหมือนว่าจะจับเส้นหมี่กลืนกินไปทั้งตัว!
“แกคิดว่าแกเป็นใคร? ตระกูลเทวเทพไม่มีใครแล้วเหรอไง? หรือว่าไชยันต์ตาบอดแล้ว? ถึงได้ให้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเธอมาขวางและพูดจาหยาบคายอยู่ตรงนี้?”
“คุณท่านสมเกียรติ——”
คนที่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างพิมเจ้าถึงกับหน้าถอดสี
แต่การตอบสนองของเส้นหมี่นั้นเร็วกว่า ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไร เด็กสาวคนนี้ก็ตะโกนเสียงออกมา : “โยนพวกเขาออกไปให้หมด!”
เธอไม่มีแม้แต่จะอธิบายใดๆ สั่งคนให้ลงมือโดยทันที!
แม่ง!
พิมเจ้าถึงกับช็อกไป!
และคนตระกูลโชคศักดาเหล่านั้นก็ยิ่งเบิกตาทั้งคู่กว้างขึ้นอย่างเฉียบพลัน มองไปที่เธออย่างไม่น่าเชื่อเลย รวมทั้งคุณท่านของตระกูลโชคศักดา
ยัยเด็กเมื่อวานซืนคนนี้ มันกล้าที่จะให้คนจับพวกเขาโยนออกไป?
เธออยากลองดีงั้นเหรอ?
เรื่องแบบนี้ แม้แต่ไชยันต์เองก็ไม่กล้าทำ!
แต่ในความเป็นจริงคือ เส้นหมี่ที่ไม่ได้เห็นพวกเขาอยู่ในสายตา หลังจากที่อดทนถึงขีดสุดแล้ว เธอเห็นว่ากัปตันทีมองครักษ์เองก็ตกตะลึงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
เธอก็ตะคอกขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค : “ทำไมยังไม่ลงมืออีก? พวกนายลืมไปแล้วใช่ไหม? คุณท่านได้มอบเดอะวิวซีให้ฉันดูแลแล้ว?”
“ไม่….ไม่ลืมครับ!”
“งั้นพวกนายยังรออะไรอยู่? ยังไม่รีบจับพวกเขาโยนออกไป? เดอะวิวซีคือที่ที่ใครก็ตามจะเข้ามาทำอะไรป่าเถื่อนได้งั้นเหรอ?”
ประโยคสุดท้ายนี้ช่างดุดันและน่าเกรงขามที่สุด
กัปตันทีมองครักษ์ได้ยิน ก็ไม่พูดอะไรมาก โบกมือขึ้น ทันใดนั้น องครักษ์ทั้งหมดของเดอะวิวซีก็เข้ามา
นั่นเป็นถึงยอดฝีมือที่ไชยันต์ฝึกฝนมาด้วยตัวเอง หากพวกเขามาแล้ว คนเหล่านี้ก็ไม่มีสิทธิ์ขัดขืนใดๆ
ดังนั้นทุกคนในเดอะวิวซี ในที่สุดก็ได้เห็นและคลายความโกรธ เมื่อคนที่มาอาละวาดอยู่เป็นเวลานาน จนวิลล่าต้องกลายเป็นเหมือนสถานที่มีมลพิษทั้งหมดเหล่านั้นถูกจับโยนออกไปแล้ว
มันช่างสะใจเสียจริงๆ!
“เส้นหมี่ แกมันคนชั้นต่ำ แกมีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉันออกไป? ฉันก็เป็นคนของตระกูลเทวเทพ ฐานะฉันยังสูงกว่าแกอีก แกมีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉัน?”
ตอนที่มินตราโดนจับโยนออกไป ก็ยังกรีดร้องตะโกนโวยวายอยู่ตรงนั้นตลอดเวลา
เส้นหมี่เห็นแล้วก็เลยเดินเข้ามาหา : “ก็ใช้สิทธิ์ที่ฉันได้รับประทับตราเป็นคุณนายหญิงแห่งตระกูลเทวเทพ เหตุผลนี้พอแล้วยัง?”
“แก——”
“ยังมี……” เส้นหมี่จ้องมองไปที่ข้างกายของผู้หญิงคนนี้ที่ถูกทีมองครักษ์จับมัดออกมาจนหมดสภาพเหมือนกัน กลับยังคงโกรธและด่าทออยู่อย่างคุณท่านของตระกูลโชคศักดา
เธอหัวเราะเยาะ
“ถ้าหากไชกุทำร้ายสามีฉันคือเรื่องจริง คุณสบายใจได้ ฉันจะทำให้เขาหย่ากับคุณก่อนที่เขาจะตายอย่างแน่นอน จะไม่ให้ลำบากไปถึงตระกูลโชคศักดาของพวกคุณ เพื่อให้คุณมินตรายังสามารถแต่งงานใหม่ได้อีกครั้ง”
“!!!!”
ไม่มีคำพูดไหนที่จะโหดและร้ายแรงไปกว่าคำนี้อีกแล้ว
มินตรากรีดร้องเสียงหลง : “แกนังคนชั้นต่ำ ฉันจะฆ่าแก……”
อย่างไรก็ตาม เธอยังไม่ทันที่จะก้าวขาข้างหนึ่งออกมา ทีมองครักษ์ด้านข้างที่ยืนจับเธออยู่ก็รีบลากตัวเธอกลับไป จากนั้น จนกระทั่งเธอถูกโยนไปไว้ด้านนอก ก็ยังคงเต็มไปเสียงกรีดร้องร่ำไห้โหยหวนของเธอ
ดังนั้นจึงพูดได้ว่า การรับมือกับคนอย่างนี้ก็ไม่จำเป็นใช้เหตุผลกับพวกเขาเลย
โยนออกไปต่อหน้า คือวิธีแก้ไขที่ดีที่สุด
ในที่สุดเดอะวิวซีก็เงียบสงบลง
พวกคนใช้รวมทั้งทีมองครักษ์ที่กลับมา หลังจากที่เห็นฉากนี้แล้วก็ถอนหายใจด้วยความรู้สึกโล่งใจ มองไปยังคุณนายหญิงผู้อ่อนเยาว์คนนี้ ในใจก็ยิ่งรู้สึกชื่นชมนับถือ
“คุณผู้หญิง เรื่องในวันนี้ โชคดีที่มีคุณ ไม่อย่างนั้น ผมยังไม่รู้เลยว่าจะจัดการยังไงดี”
กัปตันทีมองครักษ์จัดการเรื่องเสร็จแล้วก็เดินมาตรงหน้าเธอ เกาศีรษะด้วยความเขินอาย
เส้นหมี่ยิ้มให้
แน่นอนว่าเธอเข้าใจ กัปตันคนนี้ยังไงก็คือลูกน้องของเดอะวิวซี หากจะต้องลงมือกับคนในครอบครัวของเจ้านาย นั่นคือทำไม่ได้เลยจริงๆ
“จัดการเสร็จก็ดีแล้ว ใช่สิ ไวท์ พาเลซทางนั้นมีข่าวอะไรมาบ้างไหม? สถานการณ์เป็นยังไงบ้างแล้ว?”
เส้นหมี่ยังคงสนใจเรื่องนี้มากกว่า
กัปตันคนนี้ได้ยิน สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที : “ยังไม่มีข่าวส่งมาเลยครับ แต่ก่อนที่จะไป พันโทม็อกกี้ได้สารภาพกับคุณท่านเรียบร้อยแล้ว คุณผู้หญิง สบายใจได้ครับ คุณชายเล็กต้องไม่เป็นอะไรครับ”
เส้นหมี่ : “…..”
ทันใดนั้น นิ้วมือเรียวเล็กทั้งห้านิ้วก็กำหมัดแน่น!
ที่แท้ ไชกุคนนี้ก็มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ด้วยจริงๆ
เธอโกรธเป็นอย่างมาก
แต่ เธอก็ไม่สามารถไปได้ในเวลานี้ เมื่อสักครู่ที่มีคนกลุ่มนั้นสร้างความวุ่นวาย เดอะวิวซีจำเป็นต้องมีคนคอยบัญชาการ
อีกอย่างก็คือ ไวท์ พาเลซคือสถานที่อะไร นั่นคือสถานที่ศูนย์กลางรัฐบาลของประเทศ คนธรรมดาสามัญคนหนึ่งอย่างเธอ จะสามารถเข้าไปได้ตามอำเภอใจงั้นเหรอ?