ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 953 ภรรยาต้องการคำปลอบ
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 953 ภรรยาต้องการคำปลอบ
ไม่ใช่ นี่มันอะไรกัน
เพื่อป้องกันไม่ให้เธอไปที่เรด พาวิเลี่ยน เขาถึงกับบังคับขู่เข็นเธอ นี่มันเกินไปหน่อยมั้ย
หลังเส้นหมี่รู้ตัวก็โผล่หัวออกมาจากรถทันที เธอต้องการอธิบายให้เขาฟัง
แต่เธอพบว่าแค่เวลาที่นิ่งอึ้ง ผู้ชายคนนี้ก็ได้เปิดรถ และพาเด็กอีกสามคนออกมาแล้ว
“หม่ามี๊ แด๊ดดี้ดุมาก แง~~~”
เด็กน้อยก็รู้สึกเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรินจังที่อ่อนไหวที่สุด หลังจากที่ถูกอุ้ม และยัดเข้าไป เธอก็เข้าไปในอ้อมแขนของแม่พร้อมดวงตาที่มีน้ำก๊อกใหญ่ไหลออกมา ใบหน้าแดงก่ำ
เส้นหมี่ “…”
ชินจัง “แด๊ดดี้ทำอะไร แด๊ดดี้ต้องคุยกับหม่ามี๊ฝห้เข้าใจ แทนที่จะใช้วิธีรุนแรงแบบนี้!”
อิคคิวเป็นคนสุดท้ายที่ถูกอุ้มออกมา หลังจากที่ถูกผลักเข้าไปในที่นั่ง ใบหน้าเล็กๆก็พูดด้วยความโมโหเช่นกัน “ใช่แล้ว แด๊ดดี้จะใช้กำลังข่มผู้หญิงไม่ได้ หม่ามี๊จะเสียใจนะ”
เด็กสองคนเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ไม่สนใจใบหน้าทะมึนทึงของเขาเลย แถมยังสอนบทเรียนให้เขาในที่สาธารณะ
แสนรักหน้าตึง
เขาอยากจะตบ และสั่งสอนเด็กสองคนนี้ ทั้งๆที่รู้ว่าสถานการณ์ข้างนอกเหมือนอยู่ในกองไฟ แต่ก็ไม่ห้ามแถมยังไปอยู่ฝั่งเดียวกับหม่ามี๊อีก
แถมยังหลับหูหลับตามาด้วยเหมือนคนตาบอด!
เป็นเพราะถูกขังในเดอะวิวซีนานเกินไปเลยว่างมากหรอ
แต่ในท้ายที่สุด หลังจากที่เขาเหลือบมองตาโตๆและตาเล็กๆทั้งสี่คู่ในรถที่มองมาอย่างไม่พอใจแล้ว ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจอย่างพ่ายแพ้
“คุณไม่เหมาะที่จะไปงานวันนี้”
“ทำไม”
เส้นหมี่กอดลูกสาวของเธอและถามด้วยความเสียใจในทันที
แน่นอนว่าเธอรู้ว่างานศพวันนี้จะค่อนข้างวุ่นวาย แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะห้ามพวกเธอแม่ลูกไป แถมยังมาพาตัวกลับไปที่เดอะวิวซีหรือเปล่า
“คนจำนวนมากจากทำเนียบขาวจะมา และทหารรุ่นใหญ่จำนวนมากก็จะมาด้วย เมื่อคนเหล่านี้มา สื่อก็จะตามไปด้วย”
“…”
ในที่สุดเส้นหมี่ก็พูดไม่ออก
แม้แต่สื่อก็ยังต้องมาด้วย
มันเกินคาดของเธอจริงๆ ด้วยวิธีนี้ มันจะไม่เป็นการขยายเรื่องอื้อฉาวของตระกูลเทวเทพของพวกเขาให้สมบูรณ์หรือ
และหากเธอไปในฐานะที่เป็นภรรยาของเขา คนเหล่านี้จะไม่ปล่อยเธอไปอย่างแน่นอน พวกเขาจะจับเธอมาเพื่อตอบคำถาม และขุดคุ้ยทุกรูปแบบ!!!
ในที่สุดเส้นหมี่ก็รู้สึกเสียวซ่าที่หนังศีรษะของเธอ
“พวกเขา…ทำไมพวกเขาถึงต้องโหดเหี้ยมขนาดนี้”
“โหดเหี้ยม” ริมฝีปากบางของชายผู้ยืนอยู่นอกรถเหยียดยิ้มเยาะเย้ย
“ตระกูลเทวเทพหยิ่งผยองมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขาที่จะโหดเหี้ยม มีกี่คนที่ถือว่าพวกเขาเป็นหนามแทงตาของพวกเขา ด้วยโอกาสที่ดีเช่นนี้ ไม่โง่ไปหน่อยหรอ หากพวกเขาไม่เหยียบ”
“…”
เส้นหมี่ไม่สามารถส่งเสียงอะไรออกมาได้เลย
สิ่งสำคัญที่สุดของการต่อสู้แย่งชิงอำนาจไม่ใช่สิ่งที่สมองของเธอจะจินตนาการได้
แต่……
เส้นหมี่มองชายคนนั้นอย่างเงียบๆ
หากเธอจำไม่ผิด ดูเหมือนนี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาคุยกับเธอเกี่ยวกับเรื่องใหญ่ๆหลังจากที่พวกเขาแยกทางกัน เพราะก่อนหน้านี้เขาปฏิบัติกับเธอเหมือนเด็กๆเสมอ
ไม่บอกอะไรเธอเลย
ไม่แม้แต่จะบอกเธอ
แล้วทำไมเขาถึงกล้าพูดอีกครั้ง ในคิ้วที่หล่อเหลานั้นมีความอ่อนโยน และความอดทนปรากฏอยู่
มือของเส้นหมี่ที่กอดลูกสาวค่อยๆกระชับขึ้น ในอกของเธอดูเหมือนว่ามีบางอย่างแยกออกจากกัน และกระแสน้ำอุ่นก็ไหลออกมา และแม้แต่หลอดเลือดก็ยังอบอุ่น
“ตกลง ฉันจะพาเด็กๆกลับไปที่เดอะวิวซี ปิดประตู ไม่ออกไปไหน”
“อืม”
ในที่สุดแสนรักก็พอใจ ขณะที่เขาก็กำลังจะปิดประตูรถ
“แต่สามี…คุณต้องดูแลตัวเองให้ดีๆนะ ลูกและฉันอยู่บ้านรอคุณกลับมา” ทันใดนั้นเส้นหมี่ก็นั่งตัวตรง เอื้อมมือออกไปคว้าแขนของเขาผ่านหน้าต่าง
เขาตะลึง
มันเป็นแรงที่เขาสามารถสะบัดให้หลุดได้อย่างง่ายดาย
แต่ในขณะนี้เขาถูกดึงด้วยนิ้วที่เรียวยาวเหล่านี้มันเหมือนว่าจะมีพลังเวทย์มนตร์มหาศาล ทำให้เขาแทบจะอยากขึ้นไปในรถทันที
แล้วกลับบ้านกับครอบครัวของเขา
ไม่ใช่เดอะวิวซี แต่เป็นเมืองA ที่เรืองรอง กลับบ้านของพวกเขา
แต่……
“เข้าใจแล้ว ผมจะโทรหาคุณ”
ในที่สุดเขาก็ส่งเสียง “อืม” จางๆ จากนั้นก็เหลือบมองนิ้วเรียวที่รั้งเขาไว้ และยกเท้าถอยออกไปเบาๆ
เส้นหมี่ “…”
เป็นเวลาสามนาทีเต็มๆที่เธอเฝ้าดูเงาของเขาเข้าไปในรถคันข้างหน้า ส่วนทุกคนนั่งอยู่ในรถคันนี้ ไม่ขยับไปไหน
รินจังต้องม้วนตัวเข้ามาในอ้อมแขนของพี่ชาย เพราะหม่ามี๊ยืดขึ้น เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว เธอก็ก้มกอดคอพี่ชาย และปิดตา
“จูบหรือยัง พวกเขาจูบกันหรือยัง”
“…”
ชินจังนั่งตัวแข็งทื่อ และหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดออกมาด้วยใบหน้าและหูที่แดงก่ำ “ไม่…”
รินจัง “โถ่!”
อิคคิวด้านข้างแทบขำเป็นบ้าเป็นหลัง “การปฏิวัติยังไม่ประสบความสำเร็จ สหายยังคงต้องทำงานหนัก พี่ชายคุณทำได้ดีมากเมื่อกี้ ในตอนนี้ฉันคิดว่าคุณสามารถพยายามได้อีกอย่างไม่ลดละ!!”
ชินจัง “…”