ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 974 ฉีกด้วยมือ
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 974 ฉีกด้วยมือ
เขาคนนี้แม้ว่าตอนอยู่ที่บ้านจะเลอะเลือนไปบ้าง แต่สำหรับเรื่องการปกป้องประเทศก็ไม่มีใครสามารถลบคุณงามความดีของเขาได้ เขานำกองกำลังเป็นหมื่นๆพันๆคนมาหลายสิบปี ทุกหยดเลือด ทุกหยาดเหงื่อก็รินไหลเพื่อประเทศนี้ไม่ใช่เหรอ?
สิ่งที่ประชาชนต้องการ สิ่งที่ทุกคนคาดหวัง
ถ้าหากแม้แต่เขาก็ถูกนับให้อยู่ในแผนการสมรู้ร่วมคิดนี้ ถ้าไม่ใช่เป็นการขุดฝังตัวเองแล้วจะเรียกว่าอะไร?
แสนรักออกจากที่นี่ด้วยความรู้สึกหนาวไปทั้งตัว
ในห้องสอบสวนประพิศที่ถูกกดหัวตำหนิ จ้องมองแผ่นหลังนี้ที่เดินออกไปจนลับตาถึงจะละสายตากลับมา
จากนั้นใบหน้าก็ผุดรอยยิ้มเย้ยหยันขึ้นมาทันที
“ไชยันต์ แกมีลูกที่ดีจริงๆ”
“แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ชอบความเจริญก้าวหน้าทางตำแหน่งราชการเหมือนแก ไม่อย่างนั้นด้วยความสามารถและมือของเขา ในใต้หล้านี้คนเหล่านั้นจะมีโอกาสได้เข้ามาก่อความวุ่นวายได้อย่างไร?”
—
ตอนที่แสนรักออกจากไวท์ พาเลซด้วยความโกรธที่ยังไม่มอดดับ เขานึกว่าเส้นหมี่จะรอเขาอยู่ข้างนอก
ผลลัพธ์…
“นายท่าน ออกมาแล้วครับ คุณชายเล็กออกมาแล้วครับ”
เมื่อรองผู้นำเดชาที่ยืนรอตรงหน้ารถยนต์คันสีดำทางเก่าที่ผลิตในประเทศอยู่นานแล้วเห็นเขาเดินออกมา ก็โบกมือแล้วเรียกด้วยความดีใจทันที
ใบหน้าที่หล่อเหลาของแสนรักยิ่งบึ้งตึงกว่าเดิม
เขาก้าวยาวเดินเข้าไป แต่กลับพบว่าไม่นานผู้เฒ่าที่ใช้ไม้เท้าลงมาจากรถ
“ฉันได้ยินมาว่าแกไปเจอประพิศ? เขาคุยอะไรกับแก? ทำไมมาถึงไม่บอกฉันก่อน? แกรู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน? ถึงได้กล้าดีมาที่นี่คนเดียว?”
ในที่สุดไชยันต์ก็เจอลูกสารเลวคนนี้ จึงด่าออกมาทันที
รองผู้นำเดชาเห็นดังนั้นก็หน้าซีดทันที
นายท่านนะนายท่าน ตอนก่อนมาก็ตกลงกันไว้ดิบดีแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่อารมณ์เสีย จะถามดีๆไม่ใช่เหรอ?
เฮ้อ!
“นายท่าน ใจเย็นก่อนเถอะครับ คุณชายเล็กเขา…”
“จะกลัวอะไร? ตอนนี้ก็ไม่ได้กำลังยืนอยู่ตรงหน้าดีๆหรอ?”
รองผู้นำเดชายังไม่ทันจะพูดจบ เสียงเย็นชาของผู้ชายก็เข้ามาขัดจังหวะ ไม่ได้แย้ง แต่แค่ทนไม่ไหวเท่านั้น
รองผู้นำเดชานิ่งอึ้งไป
รวมถึงไชยันต์ที่อารมณ์เต็มไปด้วยความโมโห หลังจากได้ยินประโยคนี้ก็สำลัก คำพูดที่เหลือก็ติดอยู่ที่ลำคอ
ปฏิกิริยาตอบสนองดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
สุดท้ายทั้งสามก็ขึ้นรถที่ผลิตในประเทศคันนี้ อาจเป็นเพราะปกติเคยชินกับการนั่งรถหรู ตอนที่นั่งแสนรักก็แสดงอาการไม่พอใจนักบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาอย่างเห็นได้ชัด
“เอ่อ…ขอโทษนะครับคุณชายเล็ก ปกตินายท่านมักจะนั่งรถแบบนี้”
“…”
หลังจากเงียบไปไม่กี่วินาที ในที่สุดชายหนุ่มก็ถามด้วยใบหน้าสงบ “ใครบอกว่าฉันอยู่ที่นี่? หมี่ล่ะ?”
เขากังวลกับเรื่องนี้มากกว่า
แต่รองผู้นำเดชาไม่รู้ว่าเส้นหมี่ไปไหน เขาจึงตอบแค่คำถามแรกของเขา โดยบอกว่าไพบูลย์เป็นคนบอกพวกเขา
ที่แท้หลังจากที่พวกเขาสองสามีภรรยาออกไป ไพบูลย์ยังคงกังวลว่าอาจจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ดังนั้นจึงโทรบอกไชยันต์อีก จากนั้นไชยันต์ก็รีบมาอย่างร้อนใจ
แสนรักฟังจบก็ไม่มีกะจิตกะใจกังวลเรื่องอื่น เขารีบหยิบโทรศัพท์กดโทรออก
“ฮัลโหลค่ะพี่?”
เสียงที่นุ่มนวลสดใสของหญิงสาวดังขึ้นจากในโทรศัพท์ ราวกับว่าบรรยากาศที่คับแคบในรถก็ดีขึ้นอย่างมากในทันใด
หน้าผากที่ย่นจากการขมวดคิ้วแสนรักก็คลายลงบ้างแล้ว เขาถือโทรศัพท์แล้วถามว่า “เธอไปไหนมา? ทำไมถึงไม่รอฉันข้างนอก?”
“เอ๊ะ?”
เส้นหมี่ที่อยู่ในสายได้ยินจึงรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “ฉันขอโทษนะพี่ เมื่อกี้ฉันเพิ่งรับสายของน้าแจ๋ว ป้าบอกว่าป้าพิมเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยที่สมรมณ์วัลย์”
“สมรมณ์วัลย์?”
ทันทีที่ชายหนุ่มได้ยินชื่อสถานที่ คิ้วที่เพิ่งคลายก็กลับมาขมวดอีกครั้ง
ที่นั่น เขาไม่คิดว่าจะเป็นสถานที่ที่ดีอะไร
แต่หญิงสาวในสายกลับปลอบเขาว่า “ใช่ ไม่เป็นไรค่ะพี่ แค่ปัญหาเล็กๆเท่านั้น ป้าพิมไม่ค่อยเข้าใจ ดังนั้นฉันเลยมาช่วย ไม่ต้องห่วงนะคะ”
เธอยังคงกลัวว่าเขาจะกังวล
แต่ความจริงคือตอนที่เธอรับสาย ในสวนของสมรมณ์วัลย์ เธอกำลังเหยียบกระถางดอกไม้ที่ถูกเตะล้ม แล้วก็จับหางแส้ยาวเอาไว้แน่นด้วยมือข้างหนึ่ง
ซึ่งมันถูกเธอจับได้ตอนดึงไปทางพิมเจ้า
สุดท้ายชายหนุ่มก็เชื่อเธอ หลังจากกำชับเธอแล้วก็วางสาย
เส้นหมี่เก็บโทรศัพท์ ดวงตาถึงจะกลับมาเย็นชาอีกครั้ง ใบหน้าเล็กที่เมื่อกี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มแสนสวยกลับมาเย็นชาในทันที
“ฉันจะบอกเธอให้นะนีรวรรณ ถ้าวันนี้เธอใช้แส้เฆี่ยน ฉันรับรองได้เลยว่าต่อจากนี้อย่าหวังว่าเดอะวิวซีจะให้เงินเธออีก!”
“แค่เธอเนี่ยนะ?”
พอนีรวรรณที่ถือแส้อยู่ในมือได้ยินประโยคนี้ก็ยิ้มเยาะแล้วเฆี่ยนอย่างแรง!
ทันใดนั้นหลังจากที่เส้นหมี่รู้สึกเพียงเจ็บแปลบตรงฝ่ามือที่จับอยู่ของเธอเท่านั้น แส้ยาวถูกดึงออกจากมือของเธอพร้อมกับเสียง “เพี๊ยะ”
ชั่วพริบตาก็ถูกกระแทกเข้าไปบนร่างของพิมเจ้า
“โอ๊ย–”
พิมเจ้าที่เดิมเป็นผู้หญิงที่ร่างกายอ่อนแอ เธอสามารถต้านทานแส้นี้ได้ที่ไหนกัน?
สิ้นเสียงกรีดร้อง เธอกุมหน้าแล้วล้มลง หลังจากนั้นไม่นานเลือดสีแดงสดก็ไหลลงมาจากง่ามนิ้วของเธอ