ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 989 จับกุม
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 989 จับกุม
“ผมซื้อมาจากนักสะสมที่สะสมชิ้นส่วนรถยนต์แบบนี้ตอนที่อยู่ยุโรปเหนือ”
“จริงเหรอ?”
“จริงครับ ที่บ้านผมมีอีกเยอะถ้าคุณชอบคุณเอาไปประกอบเองได้เลยนะ ชอบแบบไหนก็เลือกได้ตามใจคุณเลย
ลูกข้าราชการพูดเยินยอและสุภาพ
เยสเข้!
หล่อนถูกจับกุมแล้ว หล่อนโยนกระเป๋าในมือไปให้ชายคนนั้น และถอดรองเท้าส้นสูงต่อหน้าเขา
หล่อนถือรองเท้าคู่นั้นและขึ้นไปบนรถคันนั้น
เหตุการณ์นั้นสามารถทำให้คนตายได้เลย
ภายใต้แสงแดดอันเจิดจ้า เท้าที่เปลือยเปล่าของหญิงสาวและร่างกายที่ชั่วร้ายราวกับนางฟ้าที่ตกลงสู่โลกประกอบกับการแต่งหน้าโทนดาร์กของหล่อน แวบแรกที่เห็นหัวใจเต้นราวกับจะหยุดเต้นอย่างไรอย่างนั้น
ลูกข้าราชการถึงกับกลืนน้ำลาย
เมื่อคนในรถอเนกประสงค์สีดำที่อยู่ตรงข้ามถนนเห็นอย่างนั้น ชายที่จับพวงมาลัยก็เห็นเขาหดตัวลง
“กร๊อบ”
เสียงกระดูกลั่นจนน่ากลัว
ชายที่นั่งอยู่เบาะหลังรถพูดว่า:“พล……พลตรี……”
“ลงไป!”
เขาเป็นเหมือนน้ำแข็งที่ควบแน่นเป็นเวลาหลายพันปี อ้าปากพูดทีไรก็มีแต่สองคำนี้ที่พูดออกมา
คนที่นั่งอยู่ข้างหลังก็สะดุ้งตกใจกลัว
น่ากลัวจริงๆ!
แม้พลตรีคนนี้จะพาพวกเขาไปที่แนวหน้า และได้พบกับผู้ก่อการร้ายเหล่านั้น แต่ก็ไม่ทำให้เขาโมโหขนาดนั้น การแสดงนี้เหมือนจะกินคนทั้งคน
หนังศีรษะของสมาชิกทีมกองกำลังพิเศษชา
“ฮือ——”
เมื่อลงไปแล้ว รถอเนกประสงค์ก็เหยียบคันเร่งเลี้ยวไปทางโรงภาพยนตร์ไล่ตามรถฮัมเมอร์แต่งไป
พลตรีกำลังคิดจะทำอะไร?
คนนั้นคือผู้ต้องสงสัยในคดีลักลอบขนอาวุธขนาดใหญ่ในปัจจุบันใช่ไหม?
——
30นาทีต่อมา เขตพื้นที่บ้านพักครอบครัวในเมืองเอก
แสงดาวขับรถฮัมเมอร์คันนี้ เมื่อได้ยินวาริชที่อยู่ข้างพูดว่ามาถึงหน้าบ้านเขา
“คุณแสงดาวถึงแล้ว พวกเราลงไปดื่มน้ำชาหน่อยไหม?”
วาริชลูกข้าราชการรู้สึกมีความสุข
เพราะเขาลักพาตัวผู้หญิงคนนี้มาที่บ้านเขา และในขณะนั้นพ่อของเขาก็รอเขาอยู่ในบ้านแล้วแทบจะไม่ต้องคิดก็รู้
แต่เมื่อหล่อนมองไปรอบๆของวิลล่านั้นก็ไม่ได้รู้สึกสนใจและละสายตากลับมา
“ดื่มชาอะไร?โรงจอดรถของคุณอยู่ที่ไหน? พวกเรารีบเอารถไปจอดก่อน”
“ได้…ได้สิ โรงรถอยู่อาคารทางโน้น”
วาริชชี้ไปที่โรงรถอย่างผิดหวัง
เมื่อพูดจบ เท้าขาวและทาเล็บสีดำของผู้หญิงคนนั้นเหยียบคันเร่ง และรถก็ตรงไปที่นั่นทันที
วาริชคอแห้งไปชั่วขณะ
ตระกูลโชคสกุลเป็นครอบครัวที่น่านับถือในเมืองเอก พ่อของวาริชเป็นคนใหญ่คนโต นับได้ว่าเป็นรองบัญชาการเลยก็ว่าได้ แม่ของเขาสอนที่มหาวิทยาลัยและเป็นบุคคลระดับศาสตราจารย์ด้วย
ครอบครัวอย่างนี้ คงไม่ได้แย่ขนาดนั้น
ดังนั้น เมื่อแสงดาวตามวาริชไปที่โรงรถ เขาเปิดประตูและเห็นว่าวิลล่าทั้งหมดถูกรื้อถอนและกลายเป็นห้องโถงนิทรรศการชิ้นส่วนยานยนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งน่าทึ่งมาก
“ฐานะทางบ้านคุณไม่เลวเลย”
แสงดาวเห็นแบบนี้แล้วก็แสดงสีหน้าเห็นด้วย
หล่อนจะไม่แปลกใจเลย เพราะเมื่อเทียบกับตระกูลหิรัญชาสิ่งของเล็กๆน้อยๆนี้เทียบอะไรไม่ได้อะไรเลย
เมื่อวาริชได้ยิน ยิ่งทำให้เขากำลังจมากขึ้น
“เป็นสิ่งที่ผมอยากซื้อเองทั้งหมด พ่อแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมสามารถพูดได้ว่าผมได้สะสมชิ้นส่วนดั้งเดิมทั้งหมดสำหรับรถยนต์ราคาแพงทุกประเภทในโลกนี้”
“จริงเหรอ?”
พอแสงดาวได้ยินก็รู้สึกมีความสุขขึ้นอีกครั้ง ตื่นเต้นมากจนไม่ได้สวมรองเท้าเข้าไป แล้ววิ่งไปแตะชิ้นส่วนพวกนั้นแล้วมองดู
วาริชถือรองเท้าส้นสูงราวกับเป็นผู้ติดตาม และเขาก็เดินตามอย่างมีความสุข
“ใช่ ผมก็เลยบอกคุณว่าคุณสามารถประกอบรถอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ”
“จริงๆแล้วฉันอยากประกอบรถแรงเลอร์”
“รถแรงเลอร์?”
“ใช่ ฉันอยากไปทะเลทรายและถิ่นทุรกันดาร พูดสั้นๆคือฉันต้องการรถที่พาฉันไปได้ทุกที่”
เมื่อผู้หญิงคนนี้พูดแบบนี้ เธอพับแขนเสื้อและมองดูชิ้นส่วนอันวิจิตรตระการตาในโรงรถ และในที่สุดก็มีความเศร้าอยู่ในดวงตา
ใช่ ไปทะเลทรายและถิ่นทุรกันดาร
มีเพียงแค่ทางเดียวคือออกไปจากที่นี่และไปที่ที่ไม่มีใครรู้จัก สองสามปีหล่อนก้อาจจะดีขึ้นแล้ว
“แท้จริงแล้วเป็นแบบนี้นี่เอง ไม่มีปัญหาเลยผมมีชิ้นส่วนทั้งหมดอยู่ที่นี่ เดี๋ยวผมพาไปดูแต่ก่อนไปดุคุณต้องสวมรองเท้าก่อน เดี๋ยวคุณอาจได้รับบาดเจ็บ”
ใบหน้าของวาริชแดงอีกแล้ว เขาโน้มตัวลงพร้อมกับรองเท้าส้นสูง เขาคุกเข่าต่อหน้าผู้หญิงคนนี้อย่างสุภาพบุรุษ
แสงดาว:“……”
ร่างกายหล่อนแข็งทื่อ ถึงได้รู้สึกตัวว่าลืมใส่รองเท้า
“ฉันทำเองได้”
“ไม่ไม่คุณแสงดาว ให้ผมทำดีกว่า ที่นี้ไม่ปลอดภัย และไม่มีที่นั่งด้วย คุณยืนอยู่เฉยๆเดี๋ยวผมช่วยคุณเอง”
หลังจากนั้นชายที่สวมแว่นตาคนนี้ก็ยื่นมือไปที่เท้าของหล่อน
แสงดาวก็ขยับหลบ