ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 999 เมื่อควรจะปล่อยมือก็ควรจะปล่อยไป
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 999 เมื่อควรจะปล่อยมือก็ควรจะปล่อยไป
“คุณคือใคร?”
แสงดาวที่ดื่มไปค่อนข้างเยอะ เงยหน้าขึ้นจ้องถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธออย่างไม่พอใจ
ชายคนนั้นเมื่อเห็นเช่นนั้น เขารีบแนะนำตัวเอง: “คุณแสงดาว นี่ผมเอง ผมคือวาริช ยังจำผมได้ไหม?”
วาริช?
ตาบ้านี่คือใครกัน?
คนที่คุณหนูดาวไม่ใส่ใจ ยิ่งเมาแล้ว ก็คงยิ่งจำไม่ได้เข้าไปใหญ่
ตอนท้าย ก็เป็นเขาที่คอยพยุงเธอที่เมาไม่รู้ตัวออกมาจากบาร์นั่น
“คุณหนูดาว คุณเมาแล้ว ผมส่งคุณกลับเอง”
“ฉัน……ฉันไม่กลับ ฉันจะไปหาไอ้ตาบ้านั่น แม่ง ไม่เห็นหัวตระกูลหิรัญชาของพวกฉัน? อยากมาก็มา อยากไปก็ไป วันนี้ฉันจะฆ่ามันให้ตาย!”
แล้วก็เดินโซซัดโซเซจะมุดเขาไปที่รถของตัวเอง
วาริชเมื่อเห็นแบบนั้น ไม่มีหนทางอื่นแล้วจึงพาเธอขึ้นรถ เขาขับรถตามคำชี้โบ๊ชี้เบ๊ของเธอ จนมาถึงคอนโดหรูใจกลางเมือง
“คุณหนูดาว ใช่ที่นี่ไหมครับ?”
“ใช่ บล็อก 18เลขที่2503 เป็นที่ไอ้ตาบ้านั่นอยู่ ฉันจะไปหาเขา”
เธอเดินโซเซเข้าไป
วาริช ที่เดินตามเธอไป ยังรู้สึกไม่วางใจ
วาริชกลับมาคราวนี้ เขามาอย่างหลบๆซ่อนๆ เพราะเขาได้ข่าวมาว่านายทหารผู้นั้นไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เขาเดินทางไปที่ประเทศZ กลับมาไม่ได้ช่วงเวลาหนึ่ง
ดังนั้นเขาจึงรีบกลับมาจากต่างประเทศ
แต่เมื่อเขาเพิ่งกลับมาถึง ไม่ง่ายที่เขาจะหาเมืองนี้เจอ มาถึงก็เจอสภาพแสงดาวที่กำลังเมามาย
“ปังๆๆ——”
เมื่อแสงดาวขึ้นมาถึงหน้าบ้านของคณาธิป เธอก็ใช้มือทุบประตูทันที
เสียง “ปังๆๆๆ” ดังขึ้น ทางเดินของทั้งชั้นต่างก็ได้ยินเสียงนั้น
คณาธิปออกมาเปิดประตู——
“คนชื่อคณาธิป! ฉันได้ยินมาว่าคุณจะวางมือไม่ทำแล้ว? คุณได้เผยธาตุแท้ออกมาแล้ว ไม่อยากครอบครองกิจการของตระกูลหิรัญชาแล้วรึ? จะหนีกลับญี่ปุ่นของคุณแล้วใช่ไหม?”
แสงดาวที่เมามายจนไม่รู้ทิศไม่รู้ทาง เมื่อเห็นเงายืนอยู่ตรงหน้า เธอรีบชี้นิ้วไปที่จมูกคณาธิปและเริ่มด่าไม่หยุด
สีหน้าคณาธิปถอดสีขึ้นทันที
เขาจ้องไปที่เธอและวินาทีนั้นเขาระเบิดอารมณ์ออกมา: “หญิงบ้า ออกไปให้พ้น!”
เขารีบปิดประตู
แต่ว่า แสงดาวท่าทีเร็วกว่าเขา ไม่ทันที่เขาจะปิดประตูเสร็จ แสงดาวที่สวมรองเท้าส้นสูงรีบถีบประตูออก!
“ปัง——”
พริบตาเดียว เสียงดังขึ้นกว่าเดิมอีกครั้ง!
ประตูถูกเธอถีบออก “โคร่ม” เสียงประตูนั้นกระแทกไปที่หน้าผากของคณาธิปอย่างจัง
“โอ๊ย! คุณเป็นอะไรหรือเปล่า? มีเลือดไหลออกมาด้วย!!”
วาริช ที่ยืนอยู่ข้างหลังเมื่อเห็นเช่นนั้น ร้องออกมาด้วยเสียงตกใจ
แสงดาวที่เมามากเมื่อเห็นเลือดออกเป็นทาง ในที่สุดเธอก็หยุดลงมา
แต่คณาธิปไม่ได้แสดงอาการตระหนกเท่าใดนัก เขาเอามือจับหน้าผากที่ถูกกระแทกจนมีเลือดไหล เข้าเอามือห้ามเลือดไว้ แล้วใช้สายตามองไปที่พวกเขาอย่างเยือกเย็น และหันหลังกลับเข้าห้องไป
วาริช: “……”
แสงดาว: “……”
เหมือนเธอจะสร่างเมาไปบ้าง
หลังจากนั้นสิบกว่านาที ในห้องคอนโดนั้น แสงดาวนั่งอยู่บนโซฟาอย่างหมดสภาพ มองดูคณาธิปที่จัดการแผลจนเสร็จ เธอจ้องไปที่เขา
“คุณกำลังทำอะไร? ฉันได้ยินเส้นหมี่พูดว่าอีกสามวัน คุณจะกลับไปญี่ปุ่น?”
“ใช่”
“ทำไม?”
“กลับก็คือกลับ ไม่มีเหตุผลอะไรมากมาย? พูดถึงเมื่อตะกี้คุณก็พูดแล้วนิ? ที่นี่เป็นที่ที่ผมครอบครองมาตลอด ตอนนี้น้องชายคุณกลับมาแล้ว ผมจะคืนให้เขา คุณควรจะดีใจเสียมากกว่า?”
คณาธิปพูดเหน็บแนมขึ้นมา เขาเลียนแบบน้ำเสียงของแสงดาวที่ทำกับขาเมื่อสักครู่
ช่วงเวลาในหนึ่งปีที่ผ่านมาของพวกเขา ปฏิกิริยาของแสงดาวที่มีต่อเขา ก็มักจะเป็นแบบนี้เสมอ ถึงแม้เขาจะมีศักดิ์เป็นน้องชายในสายเลือดเดียวกันก็ตาม
แต่ในสายตาของเธอ ไม่เคยมีเขาเลย
ตั้งแต่พบหน้ากัน เธอไม่เคยแสดงสีหน้าที่ดีต่อเขาเลย หรือไม่ก็จะพูดถากถาง ประชดประชันว่าถ้าไม่มีเขาก็คงไม่มีหิรัญชากรุ๊ปในทุกวันนี้
แต่ตอนนี้เมื่อเขาจะกลับไปเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมเธอกลับไม่ดีใจ?
“ฉันจะดีใจหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับคุณ เรื่องที่คุณต้องทำตอนนี้คือ ทำหน้าที่ของคุณให้ดีก็พอ!” คำพูดที่แสงดาวพูดนั้นเธอใช้น้ำเสียงเหมือนออกคำสั่ง
“………”
คณาธิปตะลึงไปชั่วครู่ หรืออาจเป็นเพราะเขาคาดไม่ถึงว่าเธอจะพูดจาเช่นนี้ออกมา
ให้เขาทำหน้าที่ตัวเองให้ดี?
หน้าที่อะไร?
ช่วยจัดการเรื่องของในตระกูลหิรัญชางั้นหรือ? แต่ก่อนหน้านั้น ทุกคำพูดของเธอก็จะไล่ให้เขากลับญี่ปุ่นไป? เธอแสดงสีหน้าที่เกลียดชังเขาเข้าถึงกระดูกตลอดมา เธอทำเหมือนกับว่าเขาได้แย่งสมบัติของตระกูลหิรัญชาไป
คณาธิปไม่นั่งเจรจาต่อ
ตอนนี้ วาริช เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างชัดเจนขึ้น เขาจ้องมองคณาธิปที่มีผ้าปิดแผลอยู่บนหน้าผาก ที่เดินเข้ามาด้วยท่าทีที่อึดอัด
“ท่านประธาน คุณอย่าถือสาเธอเลย วันนี้เธออารมณ์ไม่ค่อยดี เธอนั่งดื่มในบาร์หนักไปหน่อย พูดจาอาจจะบุ่มบ่ามไปบ้าง พวกคุณอย่าทะเลาะกันอีกเลย เป็นพี่เป็นน้องกันแท้ๆ พวกคุณว่าไหม?”
“……”
เมื่อถึงเวลานี้ คณาธิปเพิ่งรู้สึกว่าในห้องนี้ยังมีคนอีกคนหนึ่ง
วาริช?
คนนี้เป็นคู่นัดบอดของตระกูลเซิ่นในเมืองเอก?
เขาเปลี่ยนจุดสังเกตไปที่เขา มองดูคนซื่อบื้อที่ยังคอยพูดจาแทนแสงดาว เขาไม่ได้รู้สึกขำตัวเองเลยเหรอ
“คุณรู้ไหมว่าทำไมเธอต้องดื่มเหล้า?”
“ไม่……ไม่รู้สิ”
วาริช พยักหน้าอย่างซื่อๆ
คณาธิป: “……”
เขาเงียบไปสักพัก คณาธิปยังคงมองไปที่สายตาอันไร้เดียงสาของเขา และหยุดชะงักคำพูดที่เกือบจะหลุดออกมาแล้ว
“คุณชอบเธอเหรอ?”
“ช……ชอบ” วาริช ตอบพูดออกอย่างติดอ่าง
คณาธิปยิ้มและพูดว่า: “ชอบใช่ไหม? ยอมรับทุกอย่างของความเป็นเธอได้ไหม? ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดี?”
“ผมยอมรับ!”
วาริชตอบอย่างเด็ดขาดอีกครั้ง!