ยั่วรักประธานเย็นชา (NC+) - ตอนที่211 บ้าไปแล้วจริงๆ?
ตอนที่211 บ้าไปแล้วจริงๆ?
เสียงร้องเรียกของจาริณีเรียกสายตาของผู้คนที่อยู่ทาง เดินทันที และนัฐพงษ์ที่แอบดูทั้งหมดอยู่เงียบๆมาตลอด เวลานี้เหมาะที่จะเลือกปรากฏตัวออกไป ใบหน้าที่เต็มไป ด้วยความกังวลพุ่งเข้าไฟในห้องพักผู้ป่วย หลังจากนั้น ไม่ พูดสักคำหยิบเข็มฉีดยาด้ามหนึ่งขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อ ฉีด ลงไปหลังคอของปาลี
ตอนยาที่อยู่ในเข็มฉีดยาเข้าสู่ตัวนั้น เดิมทีปาลีที่ยังมี อาการฮิสทีเรียไม่หยุดกัดดนุพลนั้น จู่ๆก็สงบลงไป สอง ขาอ่อนแรง สองตาปิดลง ร่างอ่อนลงไปในอ้อมกอดของดน พล แบบนั้นเหมือนกับหลับไปอย่างกระทันหัน
“นายทำอะไรเธอ?”
การกระทำที่ต่อเนื่องของพงนั้นค่อนข้างรวดเร็ว ดนุพล ไม่ทันที่จะห้าม ทำได้แค่ถามอย่างเป็นกังวล
“ไม่ต้องกังวล ฉันก็แค่ฉีดยาระงับประสาทให้เธอ นี่จะช่วย ควบคุมอาการป่วยของเธอได้”
นัฐพงษ์ตอบด้วยสีหน้าจริงจัง เมื่อเห็นดนุพลถูกข่วนถูก กัดทั้งตัว เขาก็พูดว่า “นายโดนเธอทำร้ายจนเป็นแบบนี้แล้ว รีบตามฉันออกไปจัดการทําแผลเถอะ”
“ไม่ ฉันไม่อยากห่างเธอ ถ้านายจะจัดการก็จัดการที่นี่”
ดนผลค่อยๆวางปาลีลงบนเตียงผู้ป่วย ถึงแม้ว่าตอนนี้ปาลี จะสลบไสลไปแล้วไปแล้ว แต่ว่าเขาก็ยังคงอยากจะเฝ้าอยู่ ข้างกายเธอ
นัฐพงษ์จะไปขัดดนุพลก็ไม่ได้ ทำได้แค่ให้ปิยะกับธามอ อกไปก่อน หลังจากนั้นเรียกคนหยิบน้ำยาฆ่าเชื้อมาจัดการ กับร่างกายที่เป็นแผลพวกนั้นของดนุพล
“คุณลุง คุณป้า หนูต้องไปดูน้องชายที่โรงพยาบาลอีก แห่ง หนูไปก่อนนะคะ พรุ่งนี้หนูจะเข้ามาเยี่ยมปาลีอีกรอบ”
ปิยะมองเวลาทุกวันเวลานี้เธอจะต้องไปอยู่เป็นเพื่อนบรร ยาน้องชายเธอ และน้องชายของเขาก็รอเธอไปหาอยู่ทุกวัน เธอจึงไม่ไปไม่ได้แล้ว
ธามพยักหน้าอย่างหมดแรง “โอเค งั้นไปเถอะ ฝาก ทักทายน้องชายแทนพวกเราด้วยนะ
เวลานี้ ทันใดนั้นธวัฒน์พูดกับปิยะว่า “ฉันจะไปเยี่ยมนรร ยากับคุณ ครั้งล่าสุดที่ไปเยี่ยมเขาก็ตั้งแต่เดือนที่แล้วนุ่น”
เพราะว่าเคยไปมาหาสู่กับปิยะมาหลายปี ธวัฒน์กับนรรยา ก็เลยรู้จักกัน เจ้าหนุ่มน้อยชอบเขามาก
ถึงอย่างไรเขาอยู่ที่นี่ต่อก็ไม่มีประโยชน์อะไร ไม่ว่าปาลีจะ ตื่นหรือสลบไสลก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องมายุ่ง
“งั้นโอเค ไปกัน!”
ปิยะรู้ว่าเวลานี้จิตใจของธวัฒน์ไม่ค่อยโอเคนัก ยิ้มพลาง พยักหน้า สองคนก็ออกจากโรงพยาบาลไป
พอเห็นปิยะกับธวัฒน์ออกไปแล้ว จาริณีก็นั่งไม่ติด ยกมือ ดีไหล่ธามแล้วพูดว่า “ปาลีเข้าโรงพยาบาลเนี่ย รฐากับน้อง ขวัญคงยังไม่รู้ ถึงยังไงที่นี่ก็ไม่ห่างจากที่พวกเขาอยู่ ฉันจะ ไปบอกเขาสักหน่อย”
พูดเสร็จ ก็ลุกขึ้นออกไป
“หยุด!”
ใบหน้าถมึงของธาม ความคิดนั้นจาริณีทำไมเขาจะไม่รู้ ตะโกนออกไปว่า “คุณไม่อยากอยู่เฝ้าปาลีที่นี่ล่ะก็ ฉันก็ขึ้ เกียจจะสนใจคุณแล้ว แต่ว่าสถานการณ์ตอนนี้ปาลีไม่จำเป็น ต้องเอาไปบอกให้พวกเขาทั้งสองรู้ ฉันจะไม่ยอมให้พวก เขาทั้งสองมาโรงพยาบาลแล้วกระทบต่อสภาพจิตใจปาลี แน่ๆ คณไปเถอะ”
“คุณเนี่ยแก่จะลงโลงอยู่แล้ว…… ฉันจะไป ฉันไปแน่ๆ ปาลีไม่ใช่ลูกของฉันซะหน่อย ทำไมฉันจะต้องเฝ้าเธอด้วย ล่ะเหอะ!”
จาริณีที่ถูกมองออกโกรธจนต้องสะบัดหนี หมุนตัวออกไป อย่างโกรธฉุน
ไม่บ่อยที่จะเข้าเมืองสักครั้ง แน่นอนว่าเธออยากจะไปช็อป ปิ้งกับขวัญชีวี เพราะว่าสินค้าดีๆในเมืองเนี่ยมีเยอะมาก เธอจึงไม่อยากเสียเวลาไปกับที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาล
มองไปยังแผ่นหลังของจาริณีที่พูดเหตุอย่างเต็มปากเต็ม นําห่างออกไป ธามส่ายหัวไปมา นัยน์ตาผิดหวัง ไปได้ก็ดี ถ้าจาริณีอยู่ที่นี่ก็มีแต่จะเพิ่มความยุ่งยากใจให้เขา
ด้วยเหตุนี้ ผู้ชายสองคนที่ปาลีรักที่สุดบนโลกนี้ ธามและ ดนุพลก็คอยผลัดเปลี่ยนกันดูแลปาลี
ธามรับผิดชอบกลางวัน เพราะว่ากลางวันดนุพลจะต้องไป ทํางาน และส่วนดนุพลจะรับผิดชอบเฝ้าตอนกลางคืน
เวลาผ่านไปเร็วมาก แค่แป๊ปเดียวก็สิบวันแล้ว
ในสิบวันนี้ ปาลีก็ยังกินยังดื่มแต่ว่ากลับไม่พูดอะไรเลย ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำนอนอยู่บนเตียงไม่ขยับ ดวงตากลมโต มองไปยังฝ้าเพดานอย่างวางเปล่าไร้วิญญาณ ไม่มีจุด โฟกัส ใครเรียกเธอ เธอล้วนไม่ตอบไม่สนใจ
แบบนั้นก็เหมือนกับกลายเป็นคนปัญญาอ่อนไปแล้ว
ดนพลกับธามทั้งกลางวันกลางคืนคอยพูดเป็นเพื่อนปาลี พยายามที่จะให้ปาลีคุยกับพวกเขา แต่ว่าปาลีก็ไม่มีแม้แต่จะ เอ่ยปากพูด
ดนุพลเคยสงสัยว่าร่างกายของเธอจะมีปัญหา แต่พงกลับ พูดว่าร่างกายของปาลีแข็งแรงเร็วมาก สิ่งที่มีปัญหาคือ สภาพจิตใจของเธอ
จากความหมายประโยคนี้ ก็พูดได้ว่า…ปาลีเป็นบ้า
ดนุพลไม่เชื่อ แต่สีหน้าที่ไม่ขยับนั้นของปาลี ชัดเจนแล้ว ว่าแม้แต่เขาก็ไม่รู้จักแล้ว ดนุพลจนปัญญา ทำได้แค่เชิญ จิตแพทย์ของปาลีม แต่ว่าต่อให้จิตแพทย์ที่เก่งกว่านี้ คน ป่วยที่ไม่ยอมขยับไม่ยอมพูดตรงหน้า นั่นก็หมดหนทางเช่น กัน