ยั่วรักประธานเย็นชา (NC+) - 115 ไม่ใช่น้องสาวเธอ
ตอนที่115 ไม่ใช่น้องสาวเธอ
ขวัญชีวีคาดไม่ถึงว่าที่ปาลีจะตบเธอ ทำให้รู้สึกงงงวยไป ชั่วขณะและจึงระเบิดความโกรธออกมาทันที
“ฉันทำอะไรก็ต้องให้เธอจัดการ เธอจะทำไหม กล้าตบฉัน เธอมีหลักฐานอะไรถึงมาตบฉัน”
ขวัญชีวีจ้องไปที่ปาลีด้วยท่าทางที่แข็งกร้าวและยกมือขึ้น เพื่อตบปาลึกลับ
ปาลีจึงยกมือขึ้นมาทันทีและปัดมือของขวัญชีวีกลับไป อย่างแรงและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ฉันแค่อยากปลุกพี่ ด้วยการตบนี้ ไม่ใช่ว่าพี่คบกับรฐาอยู่เหรอ? ตอนนี้พวกพี่ไม่ ได้แต่งงานกันอยู่เหรอ? ทำไมพี่ถึงไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นใน บริษัท? พี่ต้องการที่จะทำอะไร? ”
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน นี้มัน ร่างกายของฉัน ฉันจะไปกับใครก็ได้ อย่าคิดนะว่าผู้หญิงทุก คนต้องเป็นเหมือนเธอ อนุรักษ์นิยมเป็นเหมือนของโบราณ บอกเลยนะเธอนะOutแล้ว” ขวัญชีวีกัดฟันอย่างแรงไม่ได้ คิดที่จะลงมืออีก เธอเองก็กังวลว่าหากทำให้ปาลีโกรธแล้ว ปาลีจะประกาศบอกเรื่องของเธอในวันนี้ออกไป จนถึงตอนนี้ เธอก็ไม่อยากจะทำงานต่อที่บริษัทCLกรุ๊ปแล้ว
ปาลีส่ายหัว ไม่อยากจะเชื่อว่าขวัญชีวีจะพูดออกมาตรงๆ และถอนหายใจออกมาเบาๆ “ฉันได้แค่พูด จิตใจของพี่ได้ เปลี่ยนไปเน่าแฟะแล้ว ในอนาคตอย่าบอกใครว่ารู้จักกับฉัน ฉันไม่มีพีสาวแบบพิ
พูดเสร็จปาลีก็หันหลังจะเดินออกไป
“เธอยังไม่ได้รับปากว่าจะไม่บอกเรื่องวันนี้กับใคร
แต่ขวัญชีวีก็เข้ามาขัดขวางไม่ให้ปาลีเดินไป
ปาลีแย้มยิ้มหยัน “รับปาก? ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องรับ ประกันอะไรกับเธอ ฉันเองไม่อยากรู้ว่าผู้ชายคนนั้นที่ทำ เรื่องบ้าๆแบบนั้นกับพี่เป็นใคร ฉันไม่สนใจที่จะมีส่วนร่วมใน เรื่องเน่าเหม็นพวกนี้กับพี่ ตาของฉันต้องแปดเปื้อนเพรา ฉันไม่ต้องการให้ปากของฉันสกปรกเพราะพี่ด้วย!
พูดเสร็จก็ไม่สนใจขวัญชีวีอีก เอี้ยวตัวหลบและเดินผ่าน ขวัญชีวีออกไป
จนกว่าปาลีจะเดินห่างออกไป กิตติซึ่งซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลก ปรากฏตัวขึ้นมาและมองตามแผ่นหลังของปาลี และสัมผัส คางพลางที่ใช้ความคิด
เขาไม่ได้ดีไปกว่าขวัญชีวีแต่เขาเป็นคนฉลาด จากทั้ง คำพูดและการแสดงออกของปาลีเขาเกือบจะแน่ใจว่าปาลี ไม่เห็นหน้าเขากับขวัญชีวีจริงๆ แต่ขวัญชีวีก็เองโง่ที่ปาก พล่อยจนหลุดปากออกมาเอง ตัวเองเปิดเผยตัวเอง ยังดี ยัง ดีที่เขาเองไม่ได้แสดงตัวออกไปด้วย
“ตามผมมาที่สำนักงาน! ” กิตติคว้าแขนของขวัญชีวีและลากขวัญชวเขาไปทลฟด ตอนนี้เรื่องนี้ได้ถูกขัดจังหวะโดยฉับพลัน ไม่สบายใจจริงๆ ตอนนี้อาจจะยังไม่มีอะไร แต่แน่นอนว่าความสุขดูถ้าจะต้อง จบลง ยิ่งกว่านั้นเขาต้องสั่งสอนขวัญชีวีหญิงผู้โง่เขลาคนนี้ ให้ดี เพื่อที่จะไม่เปิดเผยเขาด้วย
หลังจากที่ปาลีออกมาจากบริษัทแล้วก็รีบตรงไปที่โรง พยาบาลเอกชลของนัฐพงษ์ทันที
แต่ดูแล้วจาริณีไม่พอใจการกับการมาทักทายนี้ ธามได้ เปลี่ยนจากชุดเครื่องแบบของโรงพยาบาลเป็นชุดของตัว เองแล้วและนั่งอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่ไม่ได้แสดงความ รู้สึกอะไร
หลังจากที่รักษาในโรงพยาบาลมาแล้วหนึ่งเดือนอาการ บาดเจ็บของธามก็หายเป็นปกติแล้ว
“พ่อคะ ไม่ใช่ว่าอีกสามวันถึงจะออกจากโรงพยาบาลได้เห รอคะ ทําไมพ่อ….”
ปาลีถามออกมาด้วยความประหลาดใจ เมื่อธามและจาริณี แสดงท่าทางว่าอยากจะออกไปจากโรงพยาบาลแล้ว
ธามไม่แปลกใจที่เห็นว่าปาลีมาเยี่ยม เพราะทุกวันนี้ที่เขา มาอยู่ที่โรงพยาบาล ปาลีก็จะมาหาวันละหนึ่งหรือสองครั้ง ไม่เคยขาด แต่ขวัญชีวีไม่ได้เห็นเธอมาได้สามถึงห้าวันแล้ว
เพียงแค่นี้เขาสามารถดูออกว่าลูกสาวสองคนของเขา คน ไหนเป็นลูกที่กตัญญูจริงๆ
แม้ว่าธามจะรับรู้เรื่องนี้ แต่เมื่อมั่นใจแล้ว ก็ช่วยดนุพลอยู่
ได้ดี
เมื่อลืมตาขึ้นก็มองไปที่ปาลีด้วยสายตาที่แสดงถึงความ รักใคร่พลางถอนหายใจ “อาการบาดเจ็บบนร่างกายของพ่อ หายดีแล้ว สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ วันนี้พ่อกับแม่ ของลูกไม่อยากอยู่ที่โรงพยาบาล และยังวางแผนที่จะอยู่ใน ชนบทด้วยกัน วันเวลาของคนหนุ่มสาวของลูก ตัวเองเป็น คนกำหนด จะดีหรือแย่นั้นขึ้นอยู่กับวาสนาของพวกเธอเอง”
ถ้าหากไม่ใช่ณัฐพงษ์เป็นคนที่ทำการรักษาเขา ธามคิดว่า จะออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่สิบวันก่อนแล้ว นอกจากนี้ธาม ยังมีความคาดหวังเล็กๆน้อยๆในใจของเขานั่นคือวิสาข์ เขา หวังว่าจะพบกับวิสาข์มาเยี่ยมตัวเอง แต่น่าเสียดายที่เขา เฝ้ารอทุกคืนมาตั้งสามสิบวันแล้ว วิสาข์ก็ไม่เคยมาเลย
ธามอดไม่ได้ที่จะเลิกหวังแล้ว
และเขาตัดสินใจที่จะกลับไปยังชนบท ประการแรกเขาไม่ ต้องการทำตัวเองลุ่มหลงและหลงผิดในตัววิสาข์ ประการ ที่สองคือเรื่องการยกเลิกงานแต่งงานของรฐากับปาลีและ ตามมาด้วยเรื่องการแต่งงานของขวัญชีวี เขาไม่อาจจะ ทําใจยอมรับได้แต่การคัดค้านก็ไม่เป็นผล เพราะได้รับการ สนับสนุนจากจาริณี เขาจึงไม่เห็นหนทาง เลยว่าจะกลับไป ยังชนบทและดำเนินชีวิตในฐานะเกษตรกรที่ซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งจาริณีปฏิเสธไปตั้งแต่แรก เธอชอบความคึกคักและ ความเจริญรุ่งเรืองในเมืองใหญ่ หากจะต้องกลับไปยังสถาน ที่ใช้ชีวิตยากลำบาก แต่ธามได้ตัดสินใจแล้วและได้พูดคำ พูดที่โหดร้ายออกมาว่าหากเธอไม่กลับเขาจะกลับไปคน เดียว จะปล่อยให้เธออยู่กับขวัญชีวี
พอจาริณีได้ฟังก็เกิดความลังเลไม่แน่ใจ ตั้งแต่ที่ธามบาด เจ็บจาริณีก็รับรู้ว่าขวัญชีวีลูกสาวคนที่สองของเธอนั้นแม้จะ ดูว่าเธอปากหวานราวกับน้ำผึ้ง แต่ความจริงเป็นคนที่เห็นแก่ ตัวมาก พอแก่ตัวลงก็อยากที่จะพึ่งพาเธอ แต่ดูท่าคงไม่มี ทางอื่น
ในที่สุดคิดว่าจาริณีก็ตัดสินใจที่จะกลับไปชนบทกับธาม ดังสำนวนที่ว่าตาแกยายแก่ เมื่อแก่ตัวขึ้นธามก็คืออีกครึ่ง หนึ่งของเธอ