ยั่วสวาทนายปีศาจจอมหิ่น - ตอนที่ 138
หลังออกจากร้านอาหาร ทั้งสองนั่งอยู่ในรถท่ามกลาง บรรยากาศที่มาค
3 รู้รึเปล่า ไม่ว่าจะทำยังไงกับพี่ รักของพี่ที่มีต่อก็จะไม่
เปลี่ยนแปลงไป แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิต ในโลกใบนี้ กาลเวลาสามารถเปลี่ยนได้แค่รูปลักษณ์ ภายนอกของฉันเท่านั้น แต่ยังไง ไม่สามารถเปลี่ยนหัวใจ
ของฉันได้
ในสถานีตำรวจ มนต์ตรีมีคนรู้จักที่สนิทอยู่ ก่อนหน้านี้ ก็ทักทายกันแล้ว ดังนั้นเขาจึงพาจารวีเดินเข้ามาถึงสถานี ตำารวจได้โดยตรง
ภายในสํานักงานเรียบง่ายแต่ใหญ่โต มีผู้ชายที่มีอายุน้ อยู่ร่างกายของเขาค่อนข้างท้วม หัวของเขาเกือบจะล้านทั้ง หัว มีผม กระจุกอยู่ข้างหูทั้งสองข้าง สวมเครื่องแบบครบชุด
มนต์ตรีเดินตรงไปข้างหน้า แล้วยื่นมือไปเช็คแฮนด์กับ
เขา
“คุณรามวัต ขอโทษที่มารบกวนนะครับ นี่คือคุณจารวี ผม เคยพูดถึงก่อนหน้านี้
นี่คือคุณธามวัต…
ที่แท้คุณรามวัตก็คือผู้อ่านวยการสำนักความมั่นคง สาธารณะแห่งเมืองเอส จารวีไม่เคยเจอตัวคนใหญ่คนโตใกล้ ตขนาดนี้ จึงรู้สึกเกร็งและประหม่าเป็นอย่างมาก
มนต์ตรีมีความสามารถเหลือล้นจริงๆ นึกไม่ถึงเลยว่าเส้น
สามของเขาจะมากมายขนาดนี้
“ชะๆ เชิญนั่งก่อนครับท่านประธานมนต์ตรี ก่อนหน้านี้ คุณชยนได้ติดต่อมาหาผมแล้วครับ บอกว่าคุณยายมนต์ตรี ต้องการจะตรวจสอบคดีนี้อย่างละเอียดนะครับ… “คุณราหวัด ไมหยั่งเลยแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้ามกลับดูอบอุ่นมาก
จาร เข้าใจเป็นอย่างดีว่าชื่อว่า ยินที่ออกมาจากปากของ เขานั้นคงจะเป็นนายกเทศมนตรีซยินผู้เป็นพ่อของสรีนวัลน์ ดูเหมือนว่าพ่อของเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งอีกครั้งและได้ เป็นเจ้าหน้าที่สําคัญของคณะกรรมการกลาง
เฮ้ ปรัณ นายช่วยพาคุณชายมนต์ตรีกับคุณจารวีไปดูตัวผู้ ต้องหาหน่อย ให้พวกเขาดูว่าใช่คนร้ายตัวจริงมั้ย”
ดูเหมือนว่าคุณธามวัต มีคนโทรเข้ามาไม่ขาดสาย จึงต้อง ให้ผู้ช่วยพามนต์ตรีและจารวีไปดูตัวคนร้ายที่ยิงปืนใส่ในวัน นั้น
ในห้องสอบสวน ถูกกั้นด้วยกระจกหนึ่งชั้น จารวีเพ่งมอง เข้าไปข้างในอย่างจริงจัง
ในห้องมีแค่ผู้ชายร่างสูงใหญ่ น่าจะเป็นผู้ที่ได้รับโทษ ทางอาญา บนร่างกายมีอาการบาดเจ็บ สวมเสื้อผ้าค่อนข้าง เรียบร้อย ปีนในลักษณะสิ้นหวัง
“ไม่ต้องกลัวนะ 5 เขามองไม่เห็นพวกเรา….
มนต์ตรียืนปลอบเธออยู่ข้างๆ
เดินเข้าไปใกล้ๆกระจกอย่างช้าๆ เดินไปข้าง
หน้าเพื่อมองให้ชัดขึ้น อีกฟากของห้องพูดอะไร บางอย่าง ทันใดนั้นผู้ต้องหาคนนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา
จารวี แล้วรีบพยักหน้า ใช่ เขาคนนี้แหละ
แม้ว่าวันนั้นเขาจะใส่แว่นกันแดด แต่โครงร่างและท่าทาง การเดินแบบนี้ทําให้เธอจําได้ในทันที
ผู้คนอยู่ในสภาวะหวาดกลัว ฉันมักจะความทรงจํา
หน้าฉันได้อย่างลึกซึ้ง มนต์ตรีโอบไหล่ของ”ไม่เป็นไรแล้วนะ พวกเรา
ออกไปกันเถอะ”
ในห้องพักของพยาน ถ้วยพลางมองไปที่
มนต์ตรี
ไม่ทันไร ปรัณ แบกกองเอกสารเดินเข้ามาในห้อง
“พวกเราสืบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ผู้ชายคนนี้คือ เรโนลต์ ไกย์ เป็นชาวปาโบล เมื่อสามปีก่อนเป็นทหารกอง กําลังพิเศษ เขาเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัท แห่งหนึ่งในกรุงปารีส …”
เลื่อนกองเอกสารไปอยู่ตรงหน้าของมนต์ตรี จารวี หันมองผ่านไปสองสามรอบ บนเอกสารเป็นภาพถ่ายจากทาง ด้านหน้าและด้านข้างของเรโนลด์
” พวกเราสอบสวนเบาแล้ว แต่เขาไม่ปริปากพูดอะไรออก มาสกค่า เขาได้รับการฝึกมาอย่างให้ทนทานต่อการถูกทรมาน แต่ว่า พวกเราพบบันทึกการเข้ามาในประเทศของ เขา เขาเขียนว่า ประสงค์ในการเดินทาง การมาเพื่อท่อง เทียว นอกจากนี้เรายังพบบันทึกการเข้ามาในประเทศของผู้ สมรู้ร่วมค้ดของเขาอีกด้วย ที่น่าสนใจ อ ทั้งสองคนส่วนแร เคยเป็นทหารกองกำลังพิเศษและได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี เยี่ยม แต่ตอนนี้ทั้งคู่ก็ได้ผันตัวมาเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภัยของบริษัทแห่งหนึ่งครับ
จารวีเอ่ยปากถามด้วยความแปลกใจ “ผู้สมรู้ร่วมคิดยัง อยู่ในเมืองเอสมัยคะ”
มีผู้ต้องหาสองคน หนีไปหนึ่งคน และถ้าคนคนนี้ยังอยู่ใน เมืองเอสละก็ จารวีจะต้องตกอยู่ในภาวะวิกฤติอีกครั้งเป็นแน่
มนต์ตรีลูบหลังมือของเธอเบาๆ เพื่อปลอบเธอไม่ให้กล้า ผ่านทางสีหน้าท่าทาง
ในตอนนั้น ยศพลอยู่ในห้องทํางานของบริษัท ST กรุ๊ป
จํากัด
นิรันรีบเดินเข้ามาในห้องทํางานของยศพล “คุณขาย ครับ มีบางอย่างผิดปกติครับ”
“อะไร” ยศพลเงยหน้าที่นําทะมึนขึ้นมา แล้วมองนิรันด้วย สายตาเยือกเย็น เขาคลายมือออกแล้วทําสีหน้าไร้ความรู้สึก
“จะมีคนจากสถานีตำรวจเข้ามาตรวจสอบเราครับ เนื่องจากสงสัยว่าบริษัทพวกเราเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม ครับ”
ยศพลกระพริบตาเล็กน้อย “พวกแกทําความสะอาดหมดจดแล้วไม่ได้
ร่มเกาหัว “มือนกับนาฬิกาข้อมือ เจอหน้าตึกของ บริษัท แล้วส่งให้ตำรวจครับ..
เจ้านาฬิกาข้อมือตัวปัญหา ที่แท้ก็เป็นของชาวต่างชาติ คนนั้นนั่นเอง
“ม้วงงอะไรอยู่ล่ะ ที่นี่ฉันเป็นคนคุม ไม่ต้องรอให้พวกมันขึ้น มาหาหรอก แกต้องไปสถานีตำรวจกับฉัน”
ยศพลเอาหัวพิงกับพนักพิงของโซฟา ค่อยๆหมุนเก้าอี้ไป มา แววตามองตรงออกไปที่จุดที่อยู่สุดสายตา ซึ่งอยู่ด้านนอก ของกระจกบานใหญ่ของห้องทํางาน
อาคารสำนักงานแห่งนี้เป็นอาคารสำนักงานที่สูงที่สุดใน เมืองเอส ถ้าอยู่บนยอดตึกนี้ก็จะสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของ เมืองเอสได้ทั้งเมือง
ยศผลค่อยๆบันกายขึ้น ทั้งสองมือล้วงเข้าไปในกระเป๋า กางเกงแล้วยืนชมวิวทั้งเมืองอันสวยงามของเมืองเอส
ใบหน้าที่หล่อเหลา ค่อยๆมีเงามืดเข้ามาบดบัง
ที่นี่จะมีเรื่องอะไรที่เขายศพลคนนี้จัดการไม่ได้
ในสถานีตำรวจ ปรัณยังคงแนะนำจารวีต่อไป “…เช้าวัน นี้พวกเราเจอศพคนคนหนึ่งที่ชายหาด เป็นศพที่ถูกฆ่าตาย ก่อนจะนำมาทิ้ง หลังจากการระบุตัวตนของศพแล้วก็พบว่า ศพศพนั้นก็คือผู้สมรู้ร่วมคิดของเรโนลต์ครับ
ชาอย่างนั้น พวกเขามาทําอะไรที่นี่ ทำไมต้องโจมตีดิน
ชาวต่างชาติสองคนที่เคยเบินทหารกองรบพิเศษ เดินท มาหมื่น เพียงเพื่อจะฆ่าจารวี เรื่องนี้มันไม่สมเหตุสมผลเอา ซะเลย จาระไปหาเรื่องขัดคอใครเข้าให้แล้วงั้นเหรอ
ปเคาะไปที่โต๊ะอย่างแรง “ นี่คือจุดสำคัญครับ แม้ว่า เขาทั้งสองจะแจ้งไว้ว่าเดินทางเข้ามาเพื่อการท่องเที่ยว แต่ ก็ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนในเมืองเอสเลย อีกทั้งยังพักอยู่ใน โรงแรมเติมมาตลอด โรงแรมแห่งนั้นอยู่ไม่ไกลกันกับ Versai วิลล่า ที่คุณจารวี เคยอาศัย จากการวิเคราะห์ เป้าหมายหลัก ของพวกมันก็คือการลงมือกับคุณจารวิ คุณจารวีช่วย ก ดีๆได้มั้ยครับ ว่าช่วงนี้คุณไปทําอะไรให้ใครแค้นเคืองรึเปล่า ครับ”
แค้นเคือง จารวีขมวดคิ้วจนชิดติดกัน เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด กับคุณลุง เปล่า ไม่ เป็นไปไม่ได้หรอก คุณพ่อคงไม่ทําแบบ นี้หรอก
ฉันคิดไม่ออกค่ะ พวกคุณยังมีข้อมูลอะไรอีกมั้ยคะ”
“อืม ผมเพิ่งจะลืมพูดไปเรื่องหนึ่งครับ พวกเขาทั้งสอง เพิ่งเข้าทำงานที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทST กรุ๊ปจํากัดใน ประเทศฝรั่งเศส และในเมืองเอสก็มีบริษัท ST กรุ๊ปจํากัด เหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าสองบริษัทนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร ตอนนี้พวกเรากำลังเตรียมที่จะส่งคนไปยังบริษัทSTกรุ๊ป จํากัดในเมืองเอส เผื่อจะได้เบาะแสใหม่เพิ่มเติมครับ”
ในหัวสมองของจาร ไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้เลยจริงๆ ก่อน หน้า ยศพลก็เคยพูดกับเธอแล้ว
มีคนมากมายที่ ศผลทําให้เขาขุ่นเคืองใจ คน แค้นยศ พล เลยเข้ามาทําร้ายคนรอบข้างแผล ทําแบบนี้ ของคน นั่นก็คงจะถูกส่งมาเพื่อหาช่วยเขาแน่ๆ
มนต์ตรีมองจารที่กําลังคิดอะไรบางอย่างมาเนิ่นนาน แล้ว ดูเหมือนว่าจะใจลอย เขาเลยถามชื้นมาว่า ” กำลัง คิดอะไรอยู่น่ะ”
จารวีเหมือนกับได้สติดินมา วีคิดว่า บางทีสองคน ม อาจถูกส่งมาเพื่อลอบทําร้ายยศพลก็ได้ไม่แน่ว่าอาจเป็นการ แก้แค้นทางธุรกิจ
มนต์ตร้สายหัว “ตอนแรกพี่ก็คิดแบบนี้เหมือนกัน แต่ว่า ทั้งสองคนนี้ไม่ใชคนของเมืองเอสนะ พวกนักธุรกิจ ยศพล ทำให้ขุ่นเคืองใจก็น่าจะมีแต่นักธุรกิจในเมืองเอส และพวก เขาก็คงไม่จําเป็นที่จะต้องจ้างอดีตทหารกองรบพิเศษมาฆ่า หรอก”
“ที่พี่พูดหมายความว่าอะไรน่ะ
5 พี่คิดว่า อาจจะยังฟังไม่ชัดเจน สองคนนี้เป็นคนของ สํานักงานใหญ่ของบริษัทSTกรุ๊ปจํากัดในประเทศฝรั่งเศส ซึ่ง เป็น บริษัทของพ่อของยศพล พวกเขาไม่ใช่คนอื่นคนไกลกัน ไม่น่าจะเป็นการแก้แค้นยศพลหรอก เป้าหมายของพวกเขา น่าจะเป็นวี และคนที่สั่งให้พวกเขาลงมือก็คือพ่อของยศพล ไม่มีคนในครอบครัวของเขา”
เดิมทีมนต์ตรีไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดคำเหล่านี้อกมา เขาไม่ อยากเห็นจาร เสียใจ
แต่ว่าเขาก็ยินยอมที่จะพูดออกมามากกว่าที่จะเห็นจารหลงทางกับความรักในจินตนาการ โดยที่ไม่ระมัดระวัง และเพิกเฉยต่อกับอันตรายใกล้ตัว เรื่องนี้ทำให้เขาเจ็บปวด
เป็นไปตามคาด หลังจากจารวีได้ฟังคําตอบของมนต์ตรี ตกใจ และมองมนต์ตรีอย่างงุนงง
เธอแสดงสีหน้าออกมาไม่ถูก เป็นพ่อของยศพลงั้นเหรอ พ่อของเขาส่งคนมาฆ่าเธอ
จารวีใจเค้นรัวเพิ่มขึ้น หายใจเร็วและหนักมากขึ้น ไม่น่า แปลกใจที่ช่วงนี้ยศพลไม่อนุญาตให้เธอออกจากบ้าน
ก่อนหน้านี้ที่ยศพลบอกกับเธอว่าถูกคนแก้แค้นเพราะ เรื่องธุรกิจล้วนแต่เป็นการโกหกเธอ
เขารู้เรื่องทั้งหมดอยู่แล้ว รู้มาตั้งแต่ต้น เขารู้เรื่องทุกอย่าง แต่เขาปิดบังเธอมาโดยตลอด ไม่เคยบอกเธอเลยแม้แต่ค่า เดียว
ใบหน้าเล็กๆของจารวีค่อยๆซีดเซียว แววตาเธอมีแต่ ความว่างเปล่า งงงวย
3 วี วีเป็นอะไรไปนะ”
มนต์ตรีพยุงจารวีขึ้นมาจากอาการวิงเวียน แล้วเอ่ยปาก ถามด้วยความวิตกกังวล พอเห็นว่าจารวีไม่มีการตอบสนอง ใดๆ เขาก็หันไปพูดกับปริณด้วยความรีบร้อน “พวกคุณช่วย เรียกหน่วยแพทย์ฉุกเฉินมาให้หน่อยได้มั้ยครับ”
ไม่ต้องค่ะ พีมนต์ ไม่เป็นไร…”เสียงของจารวีแหบแห้ง เธอข้าปากพูดแต่ละตัวออกมาอย่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรง
เรื่องนี้มันกะทันหันเกินไป เธอไม่เคยคิดที่จะจัดการกับ เรื่องนี้มาก่อนเลย
.อย่ากลัวไปเลย อยู่ตรงนี้ พี่จะไม่ยอมให้เกิดเรื่อง
มนต์ตรีสุขุมและเอาใจใสเธออย่างดี เขาพยุงเธอมานั่งลง อย่างรีบร้อน เป็นเวลานานจาร จึงยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
เธอยื่นมือออกมาแล้วค่อยๆดันมือของมนต์ตรีออกไป
” มนต์ว่า ต้องกลับบ้านแล้ว ถ้ากลับข้าน้าอา คงจะ กระวนกระวายใจแย่
ใบหน้าของมนต์ตรีเต็มไปด้วยความกังวลและห่วงใย แต ก็ไม่น่าจะเปลี่ยนใจจารวีได้ ปรัณ รวบกวนคุณไปบอกคุณ รามวัดให้ทีว่าผมต้องไปก่อนแล้ว ไว้คราวหน้าผมจะขอโทษ เขาเอง
พูดจบเขาก็พยุงจารวีที่อ่อนเปลี้ยออกไปข้างนอก
ทั้งร่างของจารวีเหมือนกับเดินอยู่ในมหาสมุทรที่กว้างสุด ลูกหูลูกตา ก้าวเท้าลึกบ้างตื้นบ้าง ในใจของเธอยุ่งเหยิงไป หมด
ถ้าพ่อของยศพลต้องการจะฆ่าเธอจริงๆ แล้วเธอจะทำยัง ไง เธอกับลูกจะต้องทำยังไง
บ้านโพธิสูงและบ้านพูลสวัสดิ์มีความแค้นต่อกัน เป็นไปตามคาดเลยว่าไม่มีทางจะดับไฟแค้นนี้ได้
เธอคือคนในบ้านพูลสวัสดิ์ที่สมควรตาย
สุดสายตาของเธอเห็นเป็นสีเทาหม่น เหมือนกับว่ามีใคร บางคนใช้มือเต็ดเอาความหวังออกมาจากชีวิตของเธอแล้ว
ทันใดนั้นมนต์ตรีก็หยุดเดิน
“คุณชายยศพลครับ พวกเราไม่ต้องโทรบอกคุณธามวัด ล่วงหน้าก่อนเหรอครับ ”
บศพลก้าวเข้ามาข้างใน ตำรวจทุกคนรู้ว่ายศพลเป็นใคร จึงไม่มีใครกล้าหยุดเขา
นิรันรีบวิ่งมาอยู่ข้างกายของยศพล และพูดอะไรบาง อย่างโดยไม่มีท่าทีจะหยุด
ยศพลตอบกลับไปอย่างขี้เกียจ ไม่ต้องหรอก ธามวัต ได้คอนโดชุดของฉันไปสองห้องละ เขาคงไม่กล้าดาเนินคดี กับฉันหรอก…
เสียงที่ดังลั่นหยุดลงไปเฉยๆ ดวงตาสีดำของยศพลจ้อง มองไปที่ที่ห่างออกไปไม่ถึงสามสิบก้าวอย่างเงียบเชียบ
ตรงนั้นมีชายหญิงวัยหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ฝ่ายชายดูเป็นคนที่ ดูแลเอาใจใส่และสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลา ฝ่ายหญิงสวย และอ่อนหวาน ฝ่ายขายประคองร่างที่ดูอ่อนแออย่างเป็นห่วง และเอาใจใส่ พวกเขาไม่ได้สังเกตคนรอบข้าง เดินผ่านเขา ไปอย่างใกล้ชิดสนิทสนม ถ้าหากผู้ชายที่อยู่ตรงนั้นเป็นคนอื่นก็คงดูไม่สําคัญอะไร แต่ผู้ชายคนนั้นกลับเป็นมนต์ตรี คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งของเขา ตลอด และฝ่ายหญิงก็คือจารวี ภรรยาของเขา ของยศพล…
ทันใดนั้นใบหน้าของยศพลก็ถูกปกคลุมไปด้วยความมืด โดที่ดูหยิ่งผยอง ดวงตาสีดําทั้งสองมืดมนน่ากลัวราวกับคุก เว้นพูดออกมาเบาๆด้วยความตกใจ “คุณจารวี…” ยศพลรีบ ยังออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนเสือนักล่าที่วิ่งเข้าไปโจมตีด้วย ความเร็วเทียบเท่ากับสายฟ้า
จารวียังไม่ทันดึงสติกลับมาได้ ทันใดนั้นก็มองเห็นเงามืด ของยศพลยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าเธอ จากนั้นก็ออกหมัดใส มนต์ตรีไปที่หนึ่ง