ยั่วสวาทนายปีศาจจอมหิ่น - ตอนที่ 30
ตอนที่ 30 เขาจำเธอได้
ผู้หญิงคนนี้ มีเพียงยศพลเท่านั้นที่ครอบครอง
ผ่านไปสักพัก เขายิ้มมุมปากแบบเสียดสี “ขี้เหร่มาก ไปเปลี่ยนซะ.”
พนักงานยิ้มแล้วพูดอย่างไม่รู้สาว่า “คุณผู้ชายคะ คุณ ผู้หญิงใส่กระโปรงตัวนี้ดูสวยมากนะคะ”
ยศพลขมวดคิ้ว พูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยเกรงใจ “จะ สวยหรือไม่สวย ฉันหรือเธอเป็นคนตัดสินมิทราบ” พนักงานที่ไหนกล้ามากระเดื่องกระด้างขนาดนี้ พนักงาน รีบพูดขึ้นมาทันที “ต้องเป็นคุณชายตัดสินอย่างแน่นอนค่ะ แต่ว่า แต่ว่าไม่เป็นไรค่ะ ทางนี้ยังมีอีกหลายแบบให้เลือก
ค่ะ…”
“เอากระโปรงที่ปิดสนิทมิดชิดมาสองตัว ที่เว้าเยอะเกิน เหมือนตัวนี้ไม่ต้องเอาออกมาแล้ว”
ผู้หญิงของยศพล จะให้ผู้ชายคนอื่นเห็นได้ยังไง
ต้องอยู่ในที่มิดชิด ให้เขาชื่นชมและลิ้มลองได้เพียงแค่ คนเดียว
จารวียักไหล่ หล่อนไม่ได้สนใจ
ออนปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ชกท้ายก็เปลี่ยทางการสีชมพูอ่อนที่คอปกแบน และสวมรองเท้าคริสทัล อันสวยงามที่เข้ากับชุด ถึงแม้ว่าจะแต่งชุดแบบปกปิด แต่ ใบหน้าเล็กๆที่สวยงามใบนี้ ยังคงเปล่งประกายมีออร่า ดั่งแสงเงินแสงทองยามเช้า ดูมีความหวานความบริสุทธิ์ สามารถทำให้ผู้ชายใจเต้นได้เลยทีเดียว
ยศพลจับคางจารวีขึ้นมา
“จำไว้ล่ะ จากนี้ไปยิ้มให้ฉันได้แค่คนเดียว”
“เหอะ ปีศาจ!” จารวีกระซิบกระซาบเสียงเบาๆ
แต่ว่า ณ เวลานั้น ยศพลได้ไปชำระเงิน กระโปรง ทุกตัวที่จารวีได้ลองไปนั้น เค้าก็ซื้อมาทุกหมดทุกตัว ไม่ เว้นแม้แต่ตัวเดียว รวมถึงพวกรองเท้าและกระเป๋าถือผู้ หญิง
ตอนที่ออกมาจากในร้าน จารวีเปลี่ยนเป็นอีกคนไปโดย สิ้นเชิง
ในความสวยสะอาดบริสุทธิ์ บวกกับความสวยของผู้ หญิงนั้น ยิ่งทำให้ยศพลใจสั่น
ยศพลหันกลับไปยัดบัตรสีทองใส่ในมือของจารวี
“นี่ฉันให้เธอ วงเงินไม่จำกัด เอาไว้ไปซื้อของที่เธอ อยากได้ซะ”
วัยททท? ตาบ้านี่สมองมีปัญหารีไง นึกไม่ถึงเลยว่าจะ ให้เธอมากขนาดนี้
จารวียืนมือไปกด ด้วยสีหน้าที่มีความเด็ดเดี่ยว “ยศพล นายอย่าได้คิดเพ้อเจ้อใช้เงินมาซื้อฉัน”
ยศพลได้ยินเช่นนั้น ก็ยิ่งเริ่มรู้สึกอึดอัดใจ เขาคิดมา ตลอดว่า ผู้หญิงเนี่ยนะ ไม่ว่าจะสวย บริสุทธิ์ เสแสร้ง ยังไง ขอแค่ใช้เงินเปย์ก็เอาอยู่ มีความแตกต่างอยู่ที่แค่ ตัวเลขก็เท่านั้นเอง
ในสายตาของเขา ผู้หญิงที่มาหาก็แค่ให้เงินใช้มากใช้ น้อย แต่จารวีนั้นเป็นข้อยกเว้น
ยศพลมีเกิดความรู้สึกพ่ายแพ้ขึ้นมาอีกครั้ง ความมั่นใจ ที่อยู่ตรงนี้ถูกจารวีเหยียบย่ำอย่างสำเร็จ
ไม่เอา?”
“อืม ฉันไม่เอา ฉันไม่ได้ขาดเงิน…” จารวีพูดอย่าง สีหน้ามีเหตุผล พี่พินให้เงินติดกระเป๋าฉันทุกเดือนอยู่แล้ว ทุกปีก็ได้ทุน จากโรงเรียนไม่น้อยเช่นกัน
“รับไปซะ ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้เธอฟิน ณ ตอน นี้” น้ำเสียงของเขามีความอันธพาล และไม่ยอมให้เธอ ปฏิเสธง่ายๆ
อารวีด่อยตรับ นักตบวับ
๕บายพูดเองแล้วนะ นี่เป็นสิ่งที่นายยินยอมที่ให้ฉันเอง ดังนั้น จึงไม่มีข้อผูกมัดเงื่อนไขใดใดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และฉันก็จะ ไม่เป็นเพราะบัตรใบนี้ ขึ้นเตียงกับนาย!”
“จารวี..”
จารวียั่วยศพลโกรธสำเร็จอีกครั้ง ราวกับว่าการที่เขากับ เธอมีอะไรกันนั้น เป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกสะอิดสะเอียน ยศ พลคนนี้จำเป็นต้องมาพ่ายแพ้ขนาดนี้มั้ย
เขาทุบไปที่เบาะรถข้างหลังของจารวีหนึ่งหมัด กัดฟัน พูดเสียงต่ำ “ยัยนี่ เธอมันช่างไม่รู้อะไรเสียจริง”
จารวีมองตาเขาแวบหนึ่ง เตือนด้วยความหวังดีว่า “ซื้อเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว นายจะไปส่งฉันที่บ้านเลยใช่มั้ย”
ยศพลเกือบจะโกรธจนสับสน และเพิ่งนึกถึงเรื่องที่ต้อง ทำวันนี้ขึ้นมาได้
“มือถือไว้ค่อยซื้อพรุ่งนี้ ตอนนี้มีเรื่องจริงจังที่ต้องทำ…”
นายนี้ กลับไปกลับมาเอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆ ก็ พูดชัดเจนแล้วว่าจะซื้อมือถือ แล้วพอออกมาก็พาไปซื้อ เสื้อผ้าเป็นกองซะงั้น และยังไม่พาเธอไปส่งที่บ้านอีกต่าง หาก
“ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ตอนนี้ฉันโดดเรียนหลายวิชา
แล้ว.. ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป อับต้องเทียบไม่ทับแบ่ต”
ยศพลมองเธอด้วยสายตาราวกับหมาป่า ยิ้มแสยะ พลางหัวเราะ “เข้าเรียนน่ะเหร… พรุ่งนี้ฉันลักพาตัว อาจารย์มาให้ แล้วให้ เขามาสอนเธอแบบส่วนตัว แค่นี้ก็ ไม่มีปัญหาแล้วมั้ยล่ะ”
จารวีตกใจจนคางตก.. ที่จริงแล้วเธอนั้นดูถูกความ อันธพาลของยศพลต่ำไปซะแล้ว
ผู้ชายคนนี้ จริงๆแล้วแก่นแท้ของเขาคือนักเลง เป็น กากเดนมนุษย์ชั้นดีนี่เอง
รถของยศพลค่อยๆเข้าไปในประตูใหญ่ของโรงแรม
กุหลาบขาว
โรงแรมกุหลาบขาวเป็นโรงแรมระดับห้าดาวที่หรูหรา
ที่สุดในเมืองเอส
น้ำพุดนตรีที่ใหญ่โต มีน้ำกระเซ็นตั้งอยู่ในที่จอดรถ ขอโรงแรม พอมองจากที่ไกลๆก็เห็นแขกทยอยเข้าไปให้ ประตูของห้องจัดเลี้ยง
อยู่ดีๆ จารวีก็รู้สึกมีลางไม่ค่อยดี
วันนี้ยศพลซื้อเสื้อให้เธอกองโต ที่แท้ก็เพื่อจะพาเธอ มางานเลี้ยงนี่เอง
อา ไม่รู้เลยว่าเป็นงานเลี้ยงแบบไหน
ตอนเด็กๆ แม่มักจะพาเธอไปร่วมงานเลี้ยงมากมาย หลายรูปแบบ เธอเลยไม่รู้สึกว่าแปลกประหลาดและหวาด กลัวอะไร
แต่ตอนนี้ ใจเธอยังไม่พร้อมจะรับมือกับอะไรทั้งสิ้น
ยศพลยืนมองบรรยากาศงานอยู่ที่ประตู ผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่งดูท่าทางเป็นคนมีความสามารถเดินออกมา จากมุมมืด”ท่านประธานยศพล…
จารวีมองผู้หญิงคนนั้น ทันใดนั้นก็มีความรู้สึกเหมือน คุ้นเคยมาก่อน เหมือนกับว่าหล่อนจะเป็นเลขาที่ช่วยยศ พลถ่ายรูปในครั้งนั้น ก่อนหน้านี้ คนที่เธอเจอตอนอยู่ใน โรงพยาบาลก็คือหล่อนคนนี้ ผู้หญิงคนนี้อายุสามสิบกว่าปี แล้ว ดูเหมือนเป็นคนที่มีความสามารถ ดูเอาการเอางาน พอสมควร
เธอเดินตรงไปด้านหน้าของทั้งสองคน แล้วยิ้มให้กับ จารวี “สวัสดีค่ะ คุณจารวี”
จารวีไม่มีการตอบสนองกลับ เธอไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ ผู้ช่วยของคนชั่ว ก็คงไม่ได้ดีไปกว่ากันนักหรอก
ทัศนีย์รู้ว่าจารวียังรู้สึกไม่แสลงใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นคราว ก่อนอยู่ จึงขอโทษจารวีอย่างจริงใจ “ขอโทษค่ะ คุณจาร วี ฉันขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนั้น แต่ว่า ประธาน ยศพลชอบคุณมากจริงๆนะคะ”
พูดจบ หล่อนก็หยิบกล่องใบหนึ่งออกมาจากในกระเป๋า แล้วเปิดออกมา ซึ่งด้านในมีเครื่องเพชร
“ประธานยศพล เครื่องเพชรที่เอามาเหล่านี้ ให้เอาให้ คุณจารรีสวมตอนนี้เลยมั้ยคะ”
ทัศนีย์รวบผมของจารวีขึ้นอย่างปราดเปรียวว่องไว แล้ว ใช้กับรัตนากรติดที่ผม หลังจากนั้นก็สวมสร้อยเพชรอันดูมี ค่าและสร้อยข้อมือ
ในไม่ช้า ทั้งด้วของจารวีนั้นเต็มไปด้วยแสงดังไข่มุก ยิ่งทำให้ดูมีความเปล่งประกายมากขึ้น
ยศพลแสยะยิ้ม ไม่ใส่ยังจะดีกว่า ถอดออกให้หมด
เลย”
ทัศนีย์แสดงความเห็นอย่างชื่นชม “คุณจารวีดูบริสุทธิ์อยู่ แล้ว ถึงไม่ใส่อัญมณีก็เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในงานแล้ว”
คำพูดของทัศนีย์ทำให้ยศพลรู้สึกสุขกายสบายใจ พูดอย่างโอ้อวดโอหังว่า “นั่นมันก็แน่อยู่แล้วล่ะ”
จารวีแอบด่าอย่างเงียบๆ หน้าไม่อายซะจริงๆ หล่อน
ไม่ได้ชมเขาซะหน่อย
สุดท้าย ทัศนีย์ให้บนคอที่ขาวผุดผ่องของจารวี สวม แค่สร้อยที่ฝังเพชรไว้เต็มหนึ่งเส้น
ตอนที่สวมสร้อยให้จารวี ทัศนีย์พูดเสียงต่ำว่า “คุณ
จารวีคะ ประธานยศพลนะ โปรดปรานคุณเป็นพิเศษเลย นะคะ เครื่องประดับชุดนี้ได้ยินว่าสืบทอดมาจากในวัง ประธานยศพลไม่เคยเอาออกมาแสดงให้ใครเห็นเลย”
จารวีใจเต้นเบาๆ ยศพลสนใจเธอขนาดนั้นเลยเหรอ
แต่ก็ช่างเถอะ เขาก็แค่เป็นคนรวย ตั้งใจที่จะเอาออก มาบ้าเห่อ
จริงๆแล้วเขาก็ไม่ได้แคร์เธอ แต่เขาแคร์หน้าตาของตัว เอง เพราะในเวลานี้ เธอเป็นผู้หญิงควงแขนของเขา ก็ เปรียบเสมือนเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ หรือไม่ก็เหมือนหมาตัว หนึ่งที่คอยเดินตามเขา
หลังจากที่จารวีแต่งหน้าเรียบร้อยแล้ว ยศพลก็มอง ดูตรวจเช็คจารวีอยู่หลายครั้ง ถึงจะเดินเข้าสนามอย่าง อลังการได้
ทัศนีย์เดินตามหลังพวกเขาช้าๆ เข้าไปในงานพร้อมกัน
เธอเป็นเลขาของยศพล มีหน้าที่รับผิดชอบในการช่วย เขาดูแลจัดการงานต่างๆ โดยเฉพาะ
บนพรมแดงที่สง่างาม เต็มไปด้วยกลีบดอกกุหลาบ แดง ในสถานที่นั้นถูกจัดแต่งไว้อย่างโรแมนติก ตรงมุมมี ลูกโป่งและพร็อบ ต่างๆตกแต่งประดับไว้มากมาย
ยศพลหยุดเดิน สายตามองไปยังคู่แต่งงานใหมที่อย่ บนเวทีในงานเลี้ยง มุมปากแฝงไว้รอยยิ้มที่ไม่ค่อยหวังดี
“ดูสิ ผู้หญิงคนนี้เธอน่าจะรู้จักนะ
ยศพลหัวเราะอย่างเยือกเย็น
จารวีก็มองไปตามเสียงพูดของยศพล
ในตอนนี้ บนเวทีในงานเลี้ยงนั้น มีเงาของคู่แต่งงาน
ใหม่
ฝ่ายชายรูปร่างดีหน้าตาหล่อเหลา ท่าทางอบอุ่น เสื้อสูทสีขาว ดูหล่อและสง่าราวกับเจ้าชายขี่ม้าขาว
สวม
ข้างกายเขา คือสุรีย์วัลย์ที่สวมชุดแต่งงานสีชมพู เธอ แต่งหน้าอย่างงดงาม มีเสน่ห์อย่างเห็นได้ชัดใบหน้าเต็ม ไปด้วยรอยยิ้ม ความสุขที่หอมหวาน
ในวินาทีนั้น หัวใจของจารวีเต้นเร็วอย่างหยุดไม่ได้
นั่นคือเขา เขาคือพี่มนต์ของเธอ
เธอหาเขาเจออย่างยากเย็น แต่เขากลับหมั้นกับผู้หญิง คนอื่นแล้ว?
นี่คือพระเจ้ากำลังแกลังเธออยู่งั้นเหรอ
คำพูดของยศพลยังดังมาใกล้ๆหูของเธอไม่อย่างไม่ ขาดสาย “เห็นรึยัง ผู้หญิงคนนั้นก็คือสุรีย์วัลย์ หล่อน เป็นคนที่จับเธอเข้าตารางไงล่ะ ที่รัก เธอว่าเราจะลงโทษ เธอยังไงให้สาสมดีล่ะ?”
ตอนนี้งานเลี้ยงเพิ่งจะเริ่มขึ้น แต่ภายในงานก็มีคนมา จากมากมายหลายที่ทยอยเข้ามาเพื่อแสดงความยินดี
“ขอแสดงความยินดีสำหรับการแต่งงานของประธานมนต์ ตรีกับคุณสุรีย์วัลย์..
ไม่ว่ายศพลจะถามไปกี่คำจารวีก็ไม่ตอบสนอง พอหัน ไปก็เห็นว่าจารวีหน้าซีดเผือก สีหน้าแววตาไร้ความรู้สึก ทำตัวเหมือนคนโดนผีเข้า
เขาจึงยื่นมือไปแตะที่หน้าผากของเธอ “เธอป่วยรี
เปล่า?”
จารวีได้สติกลับคืนมา เธอสายหัวอย่างสับสนแล้วพยัก หน้าอย่างรวดเร็วฉับไว
“ฉัน ฉันปวดท้องมากเลย…”
ยศพลขมวดคิ้วอันหล่อเหลา ยัยนี่ จะถึงจุดไคลแมกซ์ แล้วเชียว ทำไมต้องหนีด้วยเนี่ย…
“พาเธอไปส่งที่ห้องน้ำ”ยศพลพูดเสียงต่ำกำชับทัศนีย์
“ไม่ต้องๆ แค่เข้าห้องน้ำเอง เดี๋ยวฉันก็กลับมา..”
จารวีหันไปยิ้มให้ยศพล แล้วหันตัวเดินไปทางห้อง รับรอง
ตอนที่เดินอยู่ฝีเท้าของเธอก็อ่อนปวกเปียกเหมือนกับ เดินอยู่บนสำลี
นี่มันไม่ใช่เรื่องจริง มันต้องไม่ใช่เรื่องจริง ไม่กี่วันก่อน พี่มนต์ยังเรียกหาเธอที่มัลดีฟส์อยู่เลย เขาบอกว่าเขากำลัง ตามหา เธอ เขาบอกว่าเขารักเธอ เขาบอกว่าเขาจะรอ เธอ..
แต่ว่า ในชั่วพริบตา เขาก็จูงมือกับผู้หญิงคนอื่น
ในใจของจารวีทุกข์ทรมาน ภายในเวลาผ่านไปไม่นาน เธอรู้สึกเหมือนศตวรรษแห่งความโรแมนติกได้หายไป
ตั้งแต่เล็กจนโต คนที่เธอเชื่อใจมากที่สุดก็คือเขา คน ที่เธอรักมากที่สุดก็คือเขา คนที่คิดถึงตลอดเวลาก็คือเขา
แต่ว่า เขาไม่ต้องการเธอแล้ว…
ชีวิตของจารวีราวกับว่าตกอยู่ในภาวะสับสนมึนงงที่หา ทางออกไม่ได้
ในห้องน้ำ เธอเปิดก๊อกน้ำให้แรงที่สุด แล้วล้างหน้า
ของตัวเองอย่านา
“คุณ คุณเป็นอะไรรึเปล่า?”
มีเสียงที่อบอุ่นดังมาจากทางด้านหลังของเธอ
จารวีหันไปอย่างนิ่งๆ สายตาทั้งสองคู่จ้องมองกัน จาร วีนิ่งไปราวกับโดนฟ้าผ่า อะไรมันจะบังเอิญได้ขนาดนี้
ยิ่งเป็นคนที่คิดถึง ก็ยิ่งหาไม่เจอ
ยิ่งเป็นคนที่ไม่อยากจะเจอหน้า ก็ยิ่งปรากฏตัวให้เห็น ตรงหน้า
จารวีกัมหน้าด้วยความสับสน “ขอโทษค่ะ ฉัน…”
มีมือใหญ่กอดเธอไว้แน่นจากข้างหลัง “วี วีของพี่ พี่ รู้ว่าเป็นวี วีอย่าไปนะ…”
มนต์ตรีคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าจะได้เจอจารวีที่นี่
ในวินาทีที่ได้เห็นหน้าของเธออย่างชัดเจน ในสมอง ของเขาก็ว่างเปล่าไปชั่วขณะ
เขาจำเธอได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะไม่พบเจอกันมาสิบปี แต่เขาก็ยังจำโครงหน้าของเธอได้