ยั่วสวาทนายปีศาจจอมหิ่น - ตอนที่ 71
นิรันเดินเข้ามาจากด้านนอก
“คุณชายครับ มีข่าว…
“ข่าวอะไร”
“คืออย่างนี้ครับ คืนที่คุณจารวีหายสาบสูญไป ได้เกิดการยิง ต่อสู้กัน มีเรือที่ล่องอยู่บนทะเลผ่านมาลำหนึ่ง ถ้าหากคุณจารวียังไม่ ตายละก็ อาจจะถูกเรือลำนั้นพาไปด้วยก็ได้ครับ”
ในดวงตาของยศพลจุดประกายไฟขึ้นมาทันที “เรืออะไร และ
เขาเป็นใคร”
บนใบหน้าของนิรันไม่แสดงออกถึงความหวังใดๆ
“เรือลํานั้นเป็นเรือล่องทะเล บนเรือมีนักท่องเที่ยวอยู่ประมาณ ยี่สิบคน แต่มีคนรายงานมาว่าบนเรือมีคนร้ายซ่อนตัวอยู่ในนั้น ก็เลย มีการแจ้งให้ตำรวจลาดตระเวนไปจัดการกวาดล้าง แต่ว่าคนร้ายคน นั้นได้จับนักท่องเที่ยวเป็นตัวประกัน และหลบหนีไปจากที่นี่.
“รู้ชื่อของคนร้ายคนนั้นหรือเปล่า”
“ไม่ทราบแน่ชัดครับ ว่ากันว่าเป็นคนที่ค่อนข้างโหดเหี้ยมอำมหิต คนหนึ่ง ตอนนั้น มีสองคนที่ถูกยิงเสียชีวิตครับ
ยศพลรู้สึกหัวเสีย เขารู้ว่าคนที่มีนิสัยบุ่มบานแบบนี้คงจะไม่ หลงเหลือความเป็นมนุษย์อยู่แล้ว
ถ้าเกิดว่าจารวีตกไปอยู่ในเงื้อมมือของเขาจริงๆ ก็มีแนวโน้มไป ทางร้ายมากกว่า เสียอีก
ยังจะมัวยืนงงอะไรอยู่อีก รีบไปเตรียมเรือสิ แล้วก็เตรียมบอดี้ ” การดให้พร้อมด้วย พวกเราต้องออกเดินทางเดี๋ยวนี้”
นิรันสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง “ต้องติดต่อทหารขายแผนก่อนหรือเปล่า
ครับ
“จะบ้าหรือไง ทางที่ดีไม่ต้องให้ทางรัฐบาลรับรู้ จะได้ไม่ต้องมามี
ปัญหาภายหลัง
คนร้ายก็ถือว่าเป็นศัตรูกับรัฐบาล หากเจอกันก็คงจะเกิดเรื่อง แน่ๆ เพื่อที่จะรับประกันว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด เขาจำเป็นจะต้อง ออกโรงด้วยตนเอง
นิรันทำงานด้วยความรวดเร็ว ผ่านไปสามชั่วโมงเขาก็เตรียม บอดี้การ์ดหลายสิบคนไว้บนเรือเรียบร้อย และเตรียมออกเรืออยู่ริม ชายฝั่งทะเล
จารวีรู้ดีว่าตัวเองสู้ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ จึงตัดสินใจนอนพัก
รอจนกว่าร่างกายจะฟื้นตัวดีแล้ว ค่อยหาโอกาสหนีเอาตัวรอด
ก็แล้วกัน
ตอนที่กำลังนอนหลับสบาย จู่ๆประตูห้องก็ถูกถีบเข้ามา
ผู้ชายที่โหดเหี้ยมคนนั้นยืนอยู่ที่หน้าประตู
“มาน มาล้างแผลให้ฉันใหม่ แล้ว ก็ฉีดยาฆ่าเชื้อให้ด้วย
รูกระบอกปืนยังคงถูกชี้เล็งมาที่เธอ จารวีไม่กล้าผลีผลาม เดิน ออกจากห้องไปโดยดี เธอค่อยๆเดินไปตามทางเดิน แต่จู่ๆก็มีเสียงเด็กร้องให้เบาๆดังออกมาจากห้องโดยสารห้อง
หนึ่งที่ปิดสนิทอยู่
จาร หันหลังกลับทันที “มีเด็ก…”
ผู้ชายคนนั้นเลื่อนปากกระบอกปืนไปที่เอาของเธอ “อย่ายุ่ง ไม่เข้าเรื่อง ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าเธอ” จารวีหยุดอยู่หน้าประตูไม่กล้า เต้นต่อ
คุณไม่กล้าฆ่าฉันหรอก ถ้าเกิดว่าคุณฆ่าฉันตาย ก็ไม่มีใครช่วย
ชีวิตคุณ
จารีวีดึงตันหยุดอยู่ตรงหน้าประตูที่มีเสียงเด็กร้องไห้ดังออกมา
ผู้ชายคนนั้นค่อยๆเลื่อนปากกระบอกปืนจากเอวลงไปที่ขาของ
“ถ้าฉันยิงไปตรงนี้สักนัดหนึ่ง เธอคิดว่ายังไงล่ะ”
จารวีสะดุ้งทันที เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้พูดเล่นแน่ๆ
“อย่าเพิ่งบุ่มบ่ามสิ ฉันก็แค่อยากช่วยเด็กเท่านั้นเอง ขอร้องล่ะ…”
ผู้ชายคนนั้นรู้สึกหงุดหงิดจนเริ่มดึงไกปืน “ถ้ายังไม่หยุดพูดฉัน
จะยิงทันที”
“โอเคๆ ฉันจะฉีดยาให้คุณ”
จารวีมองไปที่ห้องนั้นอีกรอบ แต่สุดท้ายก็ต้องตัดใจ
เธอเดินเข้าไปในห้องของผู้ชายคนนั้น ทำตามขั้นตอนเมื่อเช้า ล้างแผล ทายาและฉีดยาฆ่าเชื้อให้เขา
จารวีรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะกลายเป็นพยาบาลเข้าไปทุกที ตอน ที่ฉีดยาก็ทำอย่างระมัดระวัง ครั้งแรกรู้สึกที่ฉีดยาให้เขาเธอรู้สึกกลัว มาก แต่พอครั้งที่สองเธอกลับไม่รู้สึกกลัวเท่าไรแล้ว
หลังจากฉีดยาเสร็จ จารวีก็เห็นว่ามีคราบเลือดอยู่บนเสื้อด้าน หลังของเขา มันแนบติดไปกับร่างกาย ดูน่ากลัวมาก เขาให้เธอล้าง แผลแค่ที่เขนกับบนไหล่ แต่ไม่ได้ให้เธอแตะที่ด้านหลังเลยแม้แต่นิด เดียว
“เอ่อ… บนเสื้อคุณมีคราบเลือดติดอยู่ ถ้ายังไม่เปลี่ยนเสื้อ อาจ จะติดเชื้อเอาก็ได้นะ ถึงตอนนั้นฉันก็คงช่วยชีวิตคุณไว้ไม่ได้เหมือน กัน”
เธอ
” เธอมายุ่งอะไรด้วย ออกไปได้แล้ว! “ผู้ชายคนนั้นนั่งบนโซฟา ค่อยๆปิดตาทั้งสองข้างลง สีหน้าท่าทางทรมาน ผมที่รกรุงรังและ ในหน้าที่ขีดเผือด
จารวีเดินออกมาจากห้องค้นหาเสื้อที่สะอาด ดื้อดันเดินไปหยุด ยืนอยู่ตรงหน้าเขา “ฟังนะ คุณจะอยู่หรือตายมันไม่เกี่ยวกับฉัน แต่ถ้า หากว่าคุณตาย ฉันก็คงออกจากมหาสมุทรนี่ไม่ได้
ผู้ชายคนนั้นลืมตามอง เส้นเลือดในดวงตาแดงก่ำ เหมือนกับงู พิษ จ้องมองมาที่เธอ
คุณผู้หญิง หลีกไป ! ”
จารวียื่นมือไปดึงกระดุมเสื้อที่ขาดออกจากตัวเขา มือขวาของ ผู้ชายคนนั้นยังคงถือปืนอยู่ ส่วนข้างซ้ายขยับไม่ได้เลยแม้แต่นิด เดียว ถึงแม้ว่าจะโมโหมากขนาดไหน แต่เขาก็ไม่ได้ใช้กำลังกับจาร
คราบเลือดที่แห้งกร้งทําให้เสื้อเชิ้ตติดเข้าไปกับเนื้อด้านหลัง ของเขา จารวีค่อยๆดึงออก ทําให้เขาเจ็บจนสะดุ้งออกมา “ขอโทษ เดี๋ยวฉันไปหยิบมีดมาตัดตรงนี้ออก เสื้อมันติดไป
เข้าไปข้างในแผลแล้ว”
ผู้ชายคนนั้นไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรออกมา จารวีก็รีบเอามีดตัด อย่างรวดเร็ว หลังจากตัดเสร็จแล้ว จึงค่อยๆถอดเสื้อออก
แผ่นหลังที่ล่ำสันก๋าย่าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นเหมือนกับผ่าน สมรภูมิรบมาอย่างหนัก บาดแผลที่เหมือนกับถูกมีดเล่มยาวฟันพาด ลงมา ถึงแม้ว่าจะไม่ลึกมากเท่าไร แต่แผลใหม่แผลเก่าปะปนกันมั่ว จนทําให้คนที่เห็นตกใจมากทีเดียว
จาร สูดลมหายใจเข้าปอด เธอเผลอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
“กลัวหรอ คุณผู้หญิง เธอไม่เคยเห็นแผลแบบนี้ใช่ไหม”
“อืม ไม่เคย…” จารวี มเล็กน้อย เมื่อได้สติ ก็รีบทายาให้เขา
ยังไงสะก็เป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ตอนที่จารวีกำลังลงมือทายา
มือของเธอสั่นไม่หยุด ร่างกายบาดเจ็บหนักขนาดนี้ ผู้ชายคนนี้มีชีวิต อยู่ได้ยังไงกัน?
พอทายา และเปลี่ยนเสื้อให้เขาเสร็จแล้ว จารวีถึงจะหลบออก
ผู้ชายคนนั้นปิดตาลง เอนตัวพิงโซฟา จนดูเหมือนว่าจะหลับไป
จารวีผลักประตูเปิดออก มือเท้าสั่นเดินไปทางที่มีเสียงดังออก
มา
แล้ว
มา
เธอหยุดยืนที่หน้าประตูห้องนั้น เคาะประตูเบาๆ ด้านในไม่มี การเคลื่อนไหวใดๆ
“หนูน้อย รีบเปิดประตูเร็วเข้า พี่สาวมาช่วยแล้วจ้ะ” จารวี พยายามใช้เสียงให้เบาที่สุด เธอไม่อยากทำให้ปีศาจตนนั้นตื่น
ไม่นาน ก็มีเสียงปลดล็อคประตูเบาๆ ใบหน้าน้อยๆก็ค่อยๆโผล่
ออกมา
เด็กผู้ชายประมาณสี่ห้าขวบคนหนึ่ง ใส่ชุดสูทเด็ก รูปร่าง หน้าตาน่ารัก ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความหวาดกลัว สายตาจ้อง มองมาที่เธออย่างขี้ขลาด
จารวีผ่อนลมหายใจออกมา นั่งยองๆพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย
“เด็กน้อย หนูชื่ออะไรจ้ะ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่คนเดียวล่ะ เดี๋ยวพี่ สาวพาหนูไปหาอะไรกินนะ”
จารวียังพูดไม่ทันจบ จู่ๆเด็กน้อยก็ส่งเสียงพูดอย่างตื่น ตระหนก “คุณลุง….”
จารวีรู้สึกตัวก็หันกลับไปมอง เห็นปากกระบอกปืนจ่ออยู่ที่
ศีรษะของเธอ
“เธออยากตายใช่ไหม” เสียงโหดเหี้ยมเอ่ยขึ้น
คุณลุง? ผู้ชายคนนี้เป็นคุณลุงของเด็กคนนี้อย่างนั้นหรอ? นี่ มันเรื่องอะไรกัน?
จารวีหันหลังกลับอย่างลนลาน ” หลานชายคุณหรอ คุณใช้ ปืนต่อหน้าเขาแบบนี้ ไม่กลัวว่าเขาจะตกใจกลัวเอาหรอ”
“กลับไปที่ห้องของเธอสะ ไม่อย่างงั้นฉันจะตัดขาเธอทิ้ง
เสียงเย็นเฉียบ เอาเธอหนาวสะท้านไปทั้งตัว
“โอเค ยังไงสะก็หลานของคุณ ไม่เกี่ยวกับฉัน ไปก็ไป ทำดีไม่ได้ ดีจริงๆ”
พอกลับมาถึงห้องตัวเอง ผู้ชายคนนั้นก็ตามมาปิดประตูห้อง อีกครั้ง แถมยังใส่กุญแจล็อคเพิ่มอีกด้วย
ในเวลากลางคืน จารวีได้ยินเสียงหวูดแตร พร้อมกับเรือที่กำลัง โยกไปมา ก็ตกใจมาก เครื่องยนต์ของเรือลำนี้กำลังทำงานอยู่หรอ
เธอรีบวิ่งออกมาทันที ยังไม่ทันยืนคงที่ ตัวเรือก็โยกอย่าง รุนแรง ทำให้เธอล้มลงไปกองกับพื้นเรือ
จารวีลุกขึ้นมา ก็ยื่นมือไปกดที่ปุ่มกุญแจล็อค ประตู ไม่นานก็
ถูกปลดออก ดูๆไปแล้วผู้ชายคนนั้นคงไม่ได้คิดจะขังเธอไว้
เมื่อเปิดประตูออกมา น้ำในทะเลก็ซัดสาดเข้ามาทันที ทำให้ จารวีเปียกไปทั้งตัว
เรือล่องไปไม่หยุด ด้านนอกมีคลื่นลูกใหญ่กำลังซัดเข้ามา เหมือนว่าจะเจอกับลมพายุใหญ่เข้าให้แล้ว
คลื่นพายุลูกใหญ่พาเรือลอยขึ้นสูงและทิ้งตัวลงมาอย่างรุนแรง น้ำเค็มของทะเลสาดพัดเข้ามาในตัวเรือ ประตูห้องทุกห้องถูกน้ำซัด จนเปิดออก
จารวีฝนเดินโยกเยกไปมา เพื่อที่จะไปที่ห้องของเด็กผู้ชายคน
เป็นไปอย่างที่คิด ประตูห้องถูกน้ำทะเลพัดเปิด ในดวงตาของ เค็กน้อยเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นจารวีผลักประตูเข้าม โด เล็กน้อยจึงรีบโผเข้ากอดจารวิทันที “กล้า….กลัว….”
ภาษาจีนของเด็กน้อยไม่ได้ดีมากเท่าไร เขาพูดอย่างติดๆขัดๆ จารวีนั่งฟังอยู่ที่กำแพง ดึงเด็กน้อยมาไว้ในอ้อมกอด
“เด็กดี ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ เดี๋ยวพี่สาวจะผูกหนูไว้กับตัวเรือนะ แบบ นี่ก็ไม่ต้องกลัวแล้ว โอเคไหมจ้ะ”
เล็กน้อยเหมือนจะเข้าใจที่จารวีพูด ก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ปล่อยให้จารวิจับร่างเล็กมัดไว้กับตัวเรือ
“หนูไม่ต้องกลัวนะ พี่สาวขอไปดูลุงหนูก่อนว่าเป็นอะไรหรือ
เปล่า
เด็กน้อยพยักหน้ารับ แววตาแสดงออกถึงความอาลัยอาวรณ์
จารวีเดินในตัวเรืออย่างยากลำบาก ดันประตูเปิดเข้าไป น้ำ ทะเลซัดสาดเข้าไปในห้องจนผ้าปูที่นอนและสิ่งของอื่นๆเปียกหมด
ทั้งร่างกายก็โดนน้ำสาดจนเปียกไปหมด ปืนกระบอกนั้นก็ลง ไปแช่อยู่ในน้ำแล้ว แต่ผู้ชายคนนั้นยังคงหลับสนิท
“เอ ตื่นสิ รับบนเร็วเข้า
จารวีเข้าใกล้เขาอย่างยากลำบาก เสียงตะโกนของเธอถูก เสียงลมพายุกลบจนหมด ไม่ว่าเธอจะพยายามตะโกนเรียกขนาด ไหน เขาก็ไม่ตื่นขึ้นมา
พอยื่นมือแตะไปที่หน้าผากเขา ถึงพบว่าตัวเขาร้อนมาก
และสบาดแผลเขาติดเชื้อหรือเปล่านะ แบบนี้จะทํายังไงดีล่ะ?
มีคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้ามาอีกรอบ จารวียื่นมือไปจับที่เตียงไว้ได้ ทัน จึงทำให้ไม่ล้มลงไป แต่ผู้ชายคนนั้นน่าเวทนามาก เขาถูกชัด จนตกลงไปใต้เตียง แถมยังกระแทกลงบนพื้นเรืออีก
จารวีเดินข้ามไปอย่างยากลำบาก ดึงผ้าปูที่นอนมามัดตัวเขาไว้ กับขาเตียง เพื่อป้องกันไม่ให้เขาถูกพัดล้มลงไป
พอทําทุกอย่างเสร็จ เธอก็เหนื่อยจนต้องกอดขาเตียงเอาไว้ น้ำ ทะเลที่พัดสาดเข้ามาเป็นระลอกๆ
ทําให้จารวีท้องไส้ปั่นป่วน เธอเมาเรือจนทนไม่ไหวแล้ว
ทุกวินาทีที่เรือสั่นคลอนไปมาทําให้ยากต่อการต้านทานจริงๆ เวลานี้ เรือขนาดใหญ่อีกหนึ่งลำ ก็เจอกับสภาพอากาศที่เลว
ร้ายและคลื่นลมขนาดยักษ์เช่นเดียวกัน
ยศพลยืนอยู่ในห้องคนขับเรือ บนร่างกายถูก าซัดสาดจน
เปียกหมดทั้งตัว
“คุณชายครับ สภาพอากาศแย่ขนาดนี้ เรืออาจจะล่มได้ พวกเรา หาท่าเรือหลบก่อนดีไหมครับ”
นิรันเอ่ยความเห็น ที่จริงแล้วเป็นความเห็นของคนขับเรือ แต่ว่า เขาไม่กล้าพูดกับยศพล
เดินหน้าต่อไป”
ผ่านมาสองวันแล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะตามรอยของเรือลำนั้นเจอ ถ้าหยุดไปล่ะก็ อาจจะหาไม่เจออีกแล้วก็ได้
“ครับคุณชาย!” นิรันหันหลังเดินออกไป
คลื่นลมยังคงมีออยู่ ทิศทางของเรือก็ไม่เปลี่ยนแปลง เขาอยากเจอเธอ จนแทบอยากจะบินไปหาสะเอง
เขาตตามองไปที่แผนที่ตรงหน้า ด้านบนค่อยปรากฏก แดง เล็กๆขึ้นมา
เขารับหันกลับไปดึงนิรันมาดู “นี่มันคืออะไร”
นิรันมึนงงอยู่ชั่วครู่ “ประมาณหนึ่งร้อยเมตรด้านหน้า มีเรือลำ หนึ่งอยู่ครับ
ยศพลขึ้นเห็นขึ้นมาทันที รีบเร่งเรือไปทางด้านหน้าเร็วเข้า