CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยามดอกวสันต์ผลิบาน - ตอนที่ 346 กระสับกระส่าย

  1. Home
  2. ยามดอกวสันต์ผลิบาน
  3. ตอนที่ 346 กระสับกระส่าย
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เฉิงอี๋ได้ยินแล้วก็แสยะยิ้มเย็น

จวนสามเป็นนักฉวยโอกาสมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้เป็นคนมาบอกพวกเขาถึงข่าวคราวที่เฉิงสวี่จะแต่งงานกับคุณหนูใหญ่ของตระกูลหมิ่น แล้วก็เป็นคนมาบอกใบ้พวกเขาว่าคนที่เฉิงสวี่ชอบคือโจวเสาจิ่น อีกทั้งยังเป็นผู้ล่อคนมาที่โพรงหินด้วย…พวกเขาเสี่ยงใส่ยาหลอนประสาทลงไปในสุราของเฉิงสวี่ หมายจะให้เฉิงสวี่ที่ตกอยู่ในสภาพสะลึมสะลือไม่ได้สตินั้นกระทำการหมิ่นเกียรติโจวเสาจิ่น จากนั้นพวกเขาจะถือโอกาสนี้จู่โจม บีบบังคับให้จวนหลักยอมปล่อยมือจากตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลเสีย ต่อให้ไม่อาจทำให้ปล่อยมือจากตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลได้ ก็ต้องจัดการควบคุมเฉิงสวี่เอาไว้ให้ได้ เพื่อเรื่องต่างๆ ในอนาคต คิดไม่ถึงว่าพอจวนสามเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้วจะเบี่ยงตัวหลบออกไปอย่างสิ้นเชิง มิหนำซ้ำยังกล่าววาจาอย่างยุติธรรมเพื่อเอาใจทั้งสองฝ่ายอยู่ตรงนี้อีก หรือว่าเพราะเป็นพ่อค้ามาเนิ่นนานจนเกินไป จึงให้ความสำคัญแต่ผลประโยชน์ไม่ให้ความสำคัญกับญาติมิตรแล้ว?

ช่างเป็นพวกเสแสร้งปากว่าตาขยิบจริงๆ!

แต่ตกลงว่าผู้ใดเป็นคนทุบตีเฉิงสวี่จนมาอยู่ในสภาพมาเช่นนี้กันนะ

เฉิงอี๋สงสัยในตัวบ่าวสาวข้างกายเฉิงฉือที่มีนามว่าจี๋อิ๋งผู้นั้น

ก่อนหน้านี้นางก็เคยทุบตีเฉิงอี้ของจวนสี่จนบาดเจ็บมาก่อนแล้วมิใช่หรือ

แต่เหตุใดเฉิงฉือต้องทำเช่นนี้ด้วยเล่า

นี่ก็ออกจะไร้เหตุผลเกินไปแล้ว

เพราะหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเฉิงสวี่ คนที่ต้องเสียหน้ามากที่สุดก็คือจวนหลัก

นอกจากนี้ต่อให้เฉิงสวี่จะสูญเสียตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลไป เฉิงฉือเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาคนรุ่นที่ชื่อประกอบไปด้วยอักษรข้าง ‘สุ่ย’[1] ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ถึงคราวของเขาได้เป็นผู้สืบทอดตระกูล เขาทำเช่นนี้ไม่เกิดผลดีอะไรเลย แล้วเขาก็เป็นคนที่ฉลาดเป็นกรดผู้หนึ่งอีกด้วย…

เฉิงอี๋คิดไม่ตก

แต่ที่เขาไม่ชอบมากกว่าคือการทรยศหักหลังของคนที่เคยร่วมมือกันอย่างออกนอกหน้าเช่นนี้

เขาอ้าปากหมายจะกล่าวโต้แย้ง

มีคนดึงแขนเสื้อของเขาแรงๆ สองสามครั้ง

เขามองตามไป เห็นเฉิงสือผู้เป็นบุตรชายหันมาส่งสายตาให้เขาไม่หยุด เป็นสัญญาณให้เขาไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น

นี่จะปล่อยไปได้อย่างไร!

หากผ่านหมู่บ้านนี้ไปแล้วไหนเลยจะยังมีร้านค้านี้อยู่อีก!

ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องให้โจวเสาจิ่นกล่าวโทษว่าเฉิงสวี่กระทำมิดีมิร้ายกับนางถึงจะใช้การได้!

เฉิงสือไม่คาดคิดว่าครั้งนี้บิดาจะยับยั้งตัวเองไม่อยู่ ถึงกับจะเปิดเผยความมุ่งหมายของจวนรองต่อหน้าทุกคน

ไม่แปลกที่ท่านปู่ทวดบอกว่าเรื่องอะไรที่บอกกล่าวบิดาอย่างชัดเจนได้ก็ให้เขาชี้แจงกับบิดาให้ชัดเจน อะไรที่บอกอย่างชัดเจนมิได้ก็ไม่ต้องเอ่ยถึงเสีย

บิดาอยู่ที่เมืองจินหลิงมานาน ถูกคนในเมืองจินหลิงเหล่านั้นประจบสอพลอจนเคยตัว เวลาเผชิญกับเรื่องต่างๆ จึงกลายเป็นคนหยิ่งทะนงขึ้นมาเล็กน้อยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่ในนี้นอกจากเฉิงเวิ่นสองพ่อลูกและเฉิงจวี่ญาติสายรองผู้นั้นแล้ว มีผู้ใดที่ง่ายจะต่อกรด้วยบ้าง!

หากบีบบังคับโจวเสาจิ่นมากเกินไป รอให้ถึงตอนที่โจวเจิ้นออกโรง พวกเขาคงได้แต่ต้องบากหน้าไปกล่าวขอโทษโจวเจิ้นเสียแล้ว

เช่นนั้นจะเป็นการเสียหน้าที่ใหญ่หลวงเกินไปแล้ว!

เฉิงสือเห็นเฉิงอี๋ผู้เป็นบิดาไม่ตระหนักถึงความหนักหนาของเรื่องราวเลยแม้แต่นิดเดียว ยังอยากจะโต้แย้งกับเฉิงหลูอีก จึงได้แต่ต้องทำใจดีเข้าสู้ก้าวออกมา กล่าวขึ้นว่า “ท่านพ่อ ตอนนี้สุขภาพร่างกายของเจียซ่านสำคัญที่สุด มีเรื่องอะไร รอให้ท่านหมอมาแล้วค่อยว่ากันเถิดขอรับ” กล่าวไปด้วย พร้อมกับดึงแขนเสื้อของเขาแรงๆ ไปด้วย

ชั่วขณะนั้นเฉิงอี๋ยังไม่รู้ตัวว่าคำพูดเมื่อครู่ออกจะรุนแรงเกินไป แต่ท่านปู่ย้ำกำชับกับเขาครั้งแล้วครั้งเล่าว่ามีเรื่องอะไรต้องปรึกษาหารือกับบุตรชายให้มาก เขาครุ่นคิดครู่หนึ่ง สุดท้ายก็กลืนถ้อยคำที่ต้องการจะเอ่ยลงไปเสีย

เฉิงเหมี่ยนโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง

ถ้าหากจวนรองกับจวนหลักทะเลาะกันขึ้นมาจริงๆ คนที่ต้องลำบากจะเป็นจวนสี่กับจวนห้าอย่างพวกเขา ไม่ว่าจะยืนอยู่ฝั่งไหนก็ไม่ดีทั้งนั้น

เขารีบกล่าวตำหนิเฉิงเก้ากับเฉิงอี้ที่ยืนอย่างเงียบเชียบอยู่ข้างกายมาตลอดว่า “พวกเจ้าสองคนจะยืนโง่งมอยู่ตรงนี้ทำไม ยังไม่รีบไปดูอีกว่าท่านหมอมาแล้วหรือยัง จากนั้นก็ให้คนหามเกี้ยวมาเงียบๆ หลังหนึ่ง นำพี่ชายของพวกเจ้าไปส่งที่เรือนหานปี้ซาน”

เฉิงเก้ากับเฉิงอี้ต่างกำลังสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้อยู่!

เห็นๆ อยู่ว่าเฉิงสวี่หมิ่นเกียรติเสาจิ่นไม่สำเร็จแล้วถูกเสาจิ่นทุบตีไปครั้งหนึ่ง แต่เหตุใดเมื่อไปถึงปากของฮูหยินหยวนแล้วกลับกลายเป็นความผิดของเสาจิ่นไปได้

โชคดีที่ท่านอาฉือกับฮูหยินผู้เฒ่ากัวไม่ได้กล่าวอะไร ไม่อย่างนั้นต่อให้มีผู้อาวุโสอยู่ตรงนี้ด้วย ต่อให้พวกเขาต้องเสี่ยงรับข้อกล่าวหาที่ว่าเป็นคน ‘อกตัญญู’ ก็ต้องพูดอะไรสักสองสามประโยค

ได้ยินคำสั่งของบิดาแล้ว ถึงแม้ทั้งสองคนจะไม่ยินดี แต่ก็ยังแยกย้ายไปจัดการตามคำสั่ง โดยผู้หนึ่งไปเร่งท่านหมอ ส่วนอีกผู้หนึ่งไปกำกับให้บ่าวชายยกเกี้ยวเข้ามา

เฉิงเวิ่นเห็นแล้วก็หัวเราะแหะๆ ไปสองสามครั้ง รู้สึกว่าถึงเวลาที่ตนจะต้องกล่าวอะไรสักสองสามประโยคบ้างแล้ว เขากล่าวขึ้นว่า “น้องชายฉือ เจ้าก็อย่าขุ่นเคืองใจไปเลย เจียซ่านเป็นคนเช่นไร พวกเรามีใครไม่รู้บ้าง จะบอกว่าเขาทำเรื่องเสื่อมเกียรติอะไรพรรค์นั้น ตีข้าให้ตายข้าก็ไม่เชื่อ ส่วนหลานสาวตระกูลโจว ก็เป็นคนที่พวกเราเห็นมาตั้งแต่เล็ก และก็เป็นเด็กดีที่รู้ความและมีมารยาทผู้หนึ่ง ในนี้ต้องมีการเข้าใจอะไรผิดไปอย่างแน่นอน! ใช่แล้ว เป็นการเข้าใจผิด ต้องเป็นการเข้าใจผิดอย่างแน่ๆ! รอให้เจียซ่านฟื้นขึ้นมา อธิบายให้ชัดเจนก็ได้แล้ว”

นักไกล่เกลี่ยโผล่มาอีกผู้หนึ่งแล้ว!

เฉิงอี๋โกรธจนดวงตาแดงก่ำไปหมด

เฉิงฉือมองเขาทีหนึ่ง จากนั้นก็มองเฉิงหลูทีหนึ่ง สีหน้ายิ่งดูเฉยชามากยิ่งขึ้น กล่าวขึ้นว่า “ในเมื่อทุกคนต่างคิดว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด เรื่องที่เหตุใดเจียซ่านถึงเมามายจนไม่รู้สึกตัวแล้วมานั่งอยู่ในโพรงหินนี้เพียงลำพัง และเรื่องที่หลานสาวตระกูลโจวมาเจอเจียซ่านด้วยความบังเอิญขนาดนี้ได้อย่างไรนั้น…ข้าจะไม่ไปสืบสาวหาความอย่างละเอียดแล้วก็แล้วกัน ทุกคนแยกย้ายกันเถิด! มาเบียดเสียดกันอยู่ในโพรงหินเช่นนี้ ไม่ดีต่ออาการป่วยของเจียซ่านนัก!”

คำพูดนี้หมายความว่าอย่างไร

เฉิงหลูขมวดคิ้วมุ่น

ทว่าเฉิงอี๋ เฉิงสือและเฉิงเจิ้งกลับใจเต้นระทึกด้วยความกลัว!

นี่เฉิงฉือกำลังข่มขู่พวกเขาอยู่กระมัง

หรือเขาจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง?

เฉิงสือและเฉิงเจิ้งครุ่นคิดอย่างละเอียดถึงความเคลื่อนไหวของเฉิงฉือนับตั้งแต่ตอนที่อู๋เป่าส่งเสียงกรีดร้องจนถึงตอนที่พวกเขาพาทุกคนมุ่งหน้ามาที่โพรงหิน

ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปรกติ…บางทีอาจเป็นตนที่คิดมากจนเกินไป!

ทั้งสองนิ่งเงียบอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย

ตอนที่เฉิงเวิ่นนึกขึ้นได้ว่าเนื่องจากตนสัญญาจะให้เงินหนึ่งพันเหลี่ยงกับอนุที่อยู่ข้างนอก ฉะนั้นจึงยังคาดหวังให้เฉิงฉือช่วยชี้แนะหนทางสว่างให้เขาสักทางหนึ่งนั้น ก็กล่าวเสริมขึ้นอย่างคนเป็นลูกไล่ว่า “จริงด้วยๆ! น้องชายฉือกล่าวได้ถูกต้อง ในเมื่อพี่ชายอี๋บอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนนอกจะเข้ามาได้ เช่นนั้นก็ต้องเป็นคนในจวนนี้แล้ว ภายในจวนหลังนี้ทุกคนต่างมีตำแหน่งหน้าที่ของตัวเองทั้งนั้น ผู้ใดจะวิ่งเข้ามาได้ เรื่องที่ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นนั้น รอให้เจียซ่านฟื้นขึ้นมา ก็จะได้รู้ทั้งหมดแล้วมิใช่หรือ! พวกเราแยกย้ายกันดีกว่า แยกย้ายกันเถิด!” กล่าวจบ ก็กระทุ้งเฉิงนั่วผู้เป็นบุตรชายครั้งหนึ่ง เอ่ยขึ้นว่า “ยังไม่พาภรรยาของเจ้ากลับไปอีก เป็นสตรีผู้หนึ่ง แต่ไม่อยู่ที่บ้าน มาวิ่งพล่านไปทั่วลานเช่นนี้ทำไม”

อู๋เป่าจางได้ยินแล้วสะดุ้งตัวโหยง

เรื่องนี้ก็จบลงเช่นนี้เลยน่ะหรือ

เสียแรงไปตั้งมาก ใช้ความคิดไปตั้งเยอะ ทว่าโจวเสาจิ่นยังไม่ต้องสูญเสียเส้นผมแม้แต่ผมเส้นเดียวเรื่องก็จบลงเช่นนี้แล้ว!

นางกัดริมฝีปาก ชำเลืองมองไปที่เฉิงลู่อย่างรวดเร็วครั้งหนึ่ง เต็มไปด้วยความไม่ยินยอม

เฉิงลู่ก้มศีรษะลง สีหน้าเปี่ยมด้วยความเยียบเย็น

เฉิงสวี่ช่างโชคดีจริงๆ รอดพ้นจากการเล่นงานของจวนรองและจวนสามไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น โจวเสาจิ่นคงจะอาศัยอยู่ที่ซอยจิ่วหรูต่อไปอีกไม่ได้แล้วเป็นแน่ แน่นอนว่าจวนรองและจวนสามย่อมต้องเดือดดาล แต่สำหรับเขาแล้ว กลับถือว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว สำหรับเฉิงสวี่นั้น เป็นเรื่องง่ายที่จะหลีกเลี่ยงการโจมตีแบบเปิดเผย ทว่าคงไม่ง่ายจะที่ป้องกันการโจมตีแบบลับๆ ได้ หากเขายังโง่งมเช่นนี้ต่อไป ครั้งนี้อาจจะหนีรอดไปได้ แต่ครั้งหน้าไม่มีทางหนีรอดไปได้อย่างแน่นอน

ทุกคนเพียงรอดูก็พอ!

เขากำหมัด

เฉิงนั่วดันตัวอู๋เป่าจางมุ่งหน้าเดินออกไปด้านนอก

ถึงแม้เขาจะไม่ได้เฉลียวฉลาดสักเท่าไร แต่บิดามารดาทะเลาะเบาะแว้งกันมาตลอดทั้งปี ทำให้เขามีความระแวดระวังโดยสัญชาตญาณ

ครั้งนี้เขารู้สึกว่ากำลังจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่ๆ

รั้งอยู่ที่นี่ออกจะอันตรายเกินไปแล้ว!

นอกจากนี้หลังจากที่กลับไปแล้วเขายังอยากจะสอบถามภรรยาดีๆ สักหน่อยว่า ทุกคนต่างอยู่ที่เรือนของตัวเองอย่างเรียบร้อยเพื่อรอเฉิงเก้ากับภรรยาคนใหม่ไปคารวะ แต่เหตุใดนางถึงวิ่งมายังสถานที่ที่อยู่ห่างไกลเช่นนี้?

เดิมทีเฉิงจวี่ยังอยากจะอยู่ดูความครึกครื้นต่อ แต่เมื่อเห็นโจวเสาจิ่นจากไป ไม่มีคนงามให้ดูแล้ว อีกทั้งสีหน้าของผู้อาวุโสเหล่านั้นก็ขึงขังเคร่งเครียดกันยิ่งนัก เขาเองก็ลอบรู้สึกไม่สบายใจอยู่ในใจ จึงเดินตามเฉิงนั่วออกไปเงียบๆ

เฉิงเวิ่นเองก็อยากจะไปแล้วเช่นกัน แต่เฉิงอี้พาบ่าวชายหามเกี้ยวเข้ามาเสียก่อน

ในฐานะคนเป็นอา เขาควรจะใส่ใจหลานชายที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยังไม่ชัดเจนผู้นี้สักหน่อยกระมัง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฉิงฉือก็ยังยืนอยู่ตรงนี้!

เขากล้ำกลืนฝืนทนเดินไปที่เรือนหานปี้ซาน

ไม่สะดวกนักที่เฉิงอี๋และคนอื่นๆ จะเข้าไปในเรือนชั้นในของฮูหยินผู้เฒ่ากัว พวกเขาทั้งหมดจึงตามเฉิงฉือไปนั่งที่โถงทางเดิน

ไม่นาน เฉิงเก้ากับพ่อบ้านอีกผู้หนึ่งก็พาท่านหมอโจววิ่งเหยาะๆ เข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ

เฉิงอี๋และคนอื่นๆ ต่างลุกขึ้นยืน

ทว่าเฉิงฉือกลับยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติงประหนึ่งขุนเขา

เฉิงอี๋และคนอื่นๆ จึงนั่งลงมาอีกครั้งอย่างเก้อกระดาก

ท่านหมอโจวทำความเคารพทุกคนอย่างลวกๆ แล้วตามปี้อวี้เข้าไปในเรือนชั้นในของฮูหยินผู้เฒ่ากัว

เวลาผ่านไปประมาณสองก้านธูป ปี้อวี้ออกมารายงานว่า “ท่านหมอโจวกล่าวว่าเป็นเพราะได้รับอาหารผิดสำแดงที่คล้ายคลึงกับสารหลอนประสาทจำพวกหินห้าประเภทนั้นเข้าไป รอให้ยาออกฤทธิ์ก็ดีแล้วเจ้าค่ะ วันนี้จ่ายยากล่อมประสาทสองเทียบ พรุ่งนี้ค่อยมาตรวจดูอาการอีกครั้งเจ้าค่ะ”

เฉิงหลูประหลาดใจยิ่งนัก กล่าวขึ้นว่า “ทุกวันนี้ยังมีของประเภทนั้นอยู่อีกหรือ ข้าเคยเห็นแต่ในหนังสือเท่านั้น”

ตอนนี้เองเฉิงเจิ้งถึงได้เหลือบไปมองเฉิงสือครั้งหนึ่ง

ทว่ากลับเห็นเฉิงอี๋หันไปมองบุตรชายของตัวเองอยู่

อารมณ์ของเฉิงเจิ้งพลันวุ่นวายซับซ้อนขึ้นมา

เวลาเฉิงสือจะทำอะไรก็ยังมีบิดาที่ให้ความช่วยเหลือได้ผู้หนึ่ง แล้วเขาเล่า ขอเพียงบิดาไม่เป็นตัวถ่วงของเขาเขาก็สวดอมิตาภพุทธขอบคุณองค์พระโพธิสัตว์แล้ว!

นึกถึงเรื่องพวกนี้แล้ว เขาก็ใจสั่นสะท้านขึ้นมาอีกครั้ง

เฉิงสือถึงกับหาของเช่นนี้มาได้

เขาคิดว่าเฉิงสือเพียงมอมเหล้าเฉิงสวี่เท่านั้น

ท่านหมอโจววินิจฉัยสารพวกนี้ออกมาได้ก็ถือว่าฝีมือยอดเยี่ยมมากแล้ว

เวลานี้ท่านลุงอี๋กับพี่ชายสือจะต้องหัวเสียมากเป็นแน่ คำพูดของท่านอาฉือเมื่อครู่นั้นมีนัยยะพิเศษแฝงอยู่! โชคดีที่เขาไม่ได้แสดงตัวออกไป ถ้าหากทำให้จวนหลักหมายหัวจดจำเอาไว้แล้วล่ะก็ เขาไหนเลยจะเหลือทางมีชีวิตรอดได้อีก!

เฉิงเวิ่นรู้จักของสิ่งนี้ดี

ที่หอโคมเขียวมีเอามาใช้เพื่อเพิ่มความสนุกสนานเป็นครั้งคราวเช่นกัน

ถึงแม้จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป แต่ก็เป็นของประเภทเดียวกัน

ไม่แปลกที่เมื่อครู่เฉิงสวี่ถึงสะลึมสะลือไม่ได้สติเช่นนั้น

เขากล่าวคัดค้านขึ้นว่า “ข้าว่าไม่จำเป็นต้องสอบถามอะไรแล้ว! ต้องเป็นเพราะเจียซ่านได้รับอาหารผิดสำแดงอย่างของพรรค์นั้นเข้าไป ดังนั้นจึงมึนๆ งงๆ ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่เป็นแน่ รอให้คนฟื้นขึ้นมาชี้แจงแถลงไขให้กระจ่างก็ได้แล้ว เรื่องของเด็กๆ พวกเราอย่าเข้าไปยุ่งเลยจะดีกว่า!” กล่าวด้วยท่าทางประหนึ่งต้องการให้ทุกอย่างจบลงแต่เพียงเท่านี้ ให้ทุกคนรีบแยกย้ายกันไปเสีย ต้องรู้ว่า ที่เรือนของเขามีของสิ่งนั้นซ่อนเอาไว้หนึ่งห่อ ถ้าหากว่ามีคนไปแอบขโมยมาจากเรือนของเขาแล้วถูกจับได้ขึ้นมา ต่อให้เขากระโดดลงแม่น้ำเหลืองก็ล้างให้สะอาดไม่ได้แล้ว

เส้นเลือดตรงหน้าผากของเฉิงอี๋ปูดนูนเบ่งขึ้นมาไม่หยุด

เฉิงเวิ่นคนปัญญาทึบผู้นี้ ไม่เคยมีเรื่องอะไรที่กระทำจนสำเร็จสักอย่าง

หากไม่ทำเรื่องนี้ให้กระจ่างเสียแต่ตอนนี้ รอให้พวกเขาไปแล้ว เฉิงสวี่ผู้นั้นก็จะไม่มีความผิดอะไรแล้ว!

เขาอยากจะด่าเฉิงเวิ่นสักคำรบหนึ่งยิ่งนัก แต่เมื่อคิดถึงว่าเฉิงสือผู้เป็นบุตรชายอาจจะเป็นคนวางยาตัวนั้น นึกถึงเฉิงจิงที่อยู่ไกลถึงจิงเฉิงที่ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้ากรมผู้นั้นแล้ว ความกล้าหาญนั้นก็พลันหดหายไป…ฝืนกล่าวยิ้มๆ ว่า “เจียซ่านไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว! ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว! เช่นนั้นพวกเรากลับกันก่อนก็แล้วกัน”

ทว่าเฉิงเหมี่ยนกลับไม่อาจปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปอย่างยุ่งเหยิงคาราคาซังเช่นนี้ได้

คำว่า ‘เสาจิ่น’ คำนั้นของเฉิงสวี่เขาได้ยินมันอย่างชัดเจน

ถ้าหากทั้งสองคนเป็นเพียงพี่ชายน้องสาวธรรมดาสามัญทั่วไป ต่อให้เฉิงสวี่ชอบโจวเสาจิ่น ก็ควรจะเอ่ยคำว่า ‘น้องสาว’ ออกมาถึงจะถูก เหตุใดถึงเรียกชื่อของโจวเสาจิ่นออกมาเล่า

เมื่อเห็นทุกคนต่างมีท่าทียินยอมที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาแล้ว เขาก็ลุกพรวดขึ้นมา หันไปค้อมตัวประสานมือที่หน้าอกให้เฉิงฉือ กล่าวขึ้นว่า “น้องชายฉือ เรื่องที่เจียซ่านได้รับยานั่นได้อย่างไร แล้วก็ไปอยู่ที่โพรงหินนั่นเพียงลำพังได้อย่างไรนั้น คงต้องรบกวนเจ้าช่วยสืบสวนให้ชัดเจนถึงจะถูก น้องเขยตระกูลโจวไว้วางใจให้พวกเราช่วยดูแลบุตรสาว ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็ต้องมีคำอธิบายให้น้องเขยตระกูลโจวสักหน่อยถึงจะถูก”

เขารู้แน่แก่ใจว่าไม่มีทางที่โจวเสาจิ่นจะทุบตีเฉิงสวี่จนมีสภาพเป็นเช่นนั้นได้ ดังนั้นคำพูดคำจาจึงมีความมั่นใจมากเป็นพิเศษ

……………………………………………………………….

[1] คนรุ่นที่ชื่อประกอบไปด้วยอักษรข้าง สุ่ย (氵) มีดังนี้ เฉิงจิง 程泾, เฉิงเว่ย 程渭 และเฉิงฉือ 程池 จากจวนหลัก, เฉิงอี๋ 程沂 จากจวนรอง, เฉิงหลู 程泸 จากจวนสาม, เฉิงเหมี่ยน 程沔 และเฉิงหยวน 程沅 จากจวนสี่ และเฉิงเวิ่น 程汶 จากจวนห้า ซึ่งเฉิงฉือคือคนที่อายุน้อยที่สุดในรุ่นนี้

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 346 กระสับกระส่าย"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์