CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยามดอกวสันต์ผลิบาน - ตอนที่ 408 แม่สามี

  1. Home
  2. ยามดอกวสันต์ผลิบาน
  3. ตอนที่ 408 แม่สามี
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

สามพี่น้องตระกูลเฉิงต่างประหลาดใจเป็นอย่างมาก

เฉิงเจิงรีบกล่าวขอบคุณยิ้มๆ

เฉิงเซียวชำเลืองมองเฉิงเซิงทีหนึ่ง แล้วกล่าวว่า “จะให้เจ้ามอบของให้พวกข้าได้อย่างไร พวกข้าเป็นพี่สาว ควรจะเป็นพวกข้าที่มอบของให้เจ้าถึงจะถูก”

เป็นครั้งแรกที่โจวเสาจิ่นคบหาสมาคมกับผู้อื่นอย่างนี้ จึงทำใจกล้าตอบไปว่า “มิใช่ของดีอะไรเจ้าค่ะ เป็นน้ำจิตน้ำใจส่วนหนึ่งของข้าเท่านั้นเอง!”

เฉิงเซิงก็เม้มปากกลั้นยิ้มขณะกล่าวว่า “เสาจิ่น เจ้าโตขึ้นแล้วจริงๆ! ยังรู้จักมอบของขวัญให้พวกข้าอีกด้วย”

ดวงหน้าของโจวเสาจิ่นร้อนผะผ่าว

แต่ก่อนนางไม่เคยเข้าใจเรื่องพวกนี้เลยจริงๆ คิดว่าเฉิงเซิงเป็นบุตรสาวที่ทุกคนโปรดปราน ทุกคนในซอยจิ่วหรูต่างแย่งกันประจบประแจง หากตนก้าวเข้าไปใกล้ รังแต่จะทำให้ผู้อื่นดูแคลน ดังนั้นสมัยที่เรียนอยู่ในสำนักศึกษากับเฉิงเซิงนอกจากจะไม่มอบของอะไรให้เฉิงเซิงแล้ว บางครั้งเวลาที่เฉิงเซิงได้รับของที่พ่อแม่ฝากมาให้จากจิงเฉิงแล้วมอบให้นาง นางก็มักจะปฏิเสธไม่รับตรงๆ

ทว่าผู้ใดจะมีความอดทนคอยหลอกล่อผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรนักกับตนเองบ้างเล่า

เฉิงเซิงจึงค่อยๆ พบปะนางน้อยลง

โจวเสาจิ่นนึกถึงเฉิงฉืออีกครั้ง

หากว่าท่านน้าฉือไม่ได้โน้มน้าวนาง ต่อให้นางกลับชาติมาเกิดใหม่ เกรงว่าในใจคงจะเต็มไปด้วยความเคียดแค้น เฉกเช่นผู้ที่ไม่เป็นที่รักใคร่ชื่นชอบคนหนึ่ง

ในใจของนางพลันรู้สึกหวานฉ่ำประดุจน้ำผึ้ง

ท่านน้าฉือจะกลับมาเมื่อใดกันนะ

นางไม่อยากออกไปข้างนอกแล้ว

ก่อนที่ท่านน้าฉือจะกลับมานางอยากจะเร่งทำรองเท้าให้เขาอีกสักสองสามคู่

ทั้งยังอยากจะปักถุงหอมสวยงามสักสองสามถุงให้ท่านน้าฉือใช้เก็บของจุกจิก…จะต้องปักอย่างประณีตให้ได้ ทำให้คนอื่นเห็นแล้วตาลุกวาว

ท่านน้าฉือผู้นี้ดูเหมือนไม่สนใจสิ่งใด แต่ความจริงแล้วเป็นคนที่ละเอียดลออยิ่งนัก

สิ่งของที่ปักออกมาต้องทำให้เขาชื่นชอบถึงจะถูก

โจวเสาจิ่นมุมปากกระตุกขณะกลับไปซอยอวี๋ซู่

เนื่องจากโจวเสาจิ่นออกไปข้างนอกกับเฉิงเจิงพวกนาง หลี่ซื่อจึงพาโจวโย่วจิ่นไปเยี่ยมที่ซอยอวี๋ซู่ พอได้ยินว่าโจวเสาจิ่นกลับมาถึงแล้วก็ออกไปต้อนรับที่ประตูชั้นใน

โจวเสาจิ่นมอบดอกว่านสิบแสนให้แก่โจวชูจิ่นประหนึ่งมอบของล้ำค่า

โจวชูจิ่นรู้สึกปลาบปลื้มยินดีคล้ายกับมีดอกไม้ผลิบานอยู่ในใจก็ไม่ปาน

เดี๋ยวนี้น้องสาวยิ่งโตยิ่งรู้ความแล้ว ต่อไปนางก็ไม่ต้องห่วงว่าหลังจากนางออกเรือนแล้วเหตุเพราะไม่รู้จักสานสัมพันธ์กับคนอื่นจึงถูกแม่สามีดูแคลน

โจวเสาจิ่นหยิบโถแก้วขนาดเท่าฝ่ามือออกมาจากรถม้าราวกับกำลังเล่นกลอย่างไรอย่างนั้น ในโถยังมีปลาทองสองตัวสีแดงตัวหนึ่งสีดำตัวหนึ่งอีกด้วย

“อันนี้ให้โย่วจิ่น!” นางน้อมกายลงมอบโถแก้วให้โจวโย่วจิ่น “ชอบหรือไม่”

“อื้ม!” โจวโย่วจิ่นเบิกดวงตาโตจับจ้องโถแก้วใบนั้นขณะพยักหน้าไม่หยุด แต่ไม่กล้ายื่นมือไปรับโถแก้วใบนั้น

หลี่ซื่อรู้สึกปีติยินดีเหลือแสน

แม้ว่าสิ่งของนั้นมีค่าไม่มาก แต่เป็นการปฏิบัติต่อโย่วจิ่นเสมือนเป็นน้องสาวตนเอง

นางรีบรับโถแก้วแทนบุตรสาว แล้วกล่าวกับโจวโย่วจิ่นยิ้มๆ ว่า “ยังไม่รีบขอบคุณพี่รองอีก!”

โจวโย่วจิ่นร้องขึ้นอย่างออดอ้อนน่าเอ็นดูว่า “พี่รอง” แล้วกล่าวอย่างตะกุกตะกักว่า “ขะ…ขอบคุณเจ้าค่ะ!”

โจวเสาจิ่นยิ้มน้อยๆ พลางกล่าว “ข้าเห็นพี่สาวเจิงพาคุณชายใหญ่กับคุณชายรองของพวกนางไปซื้อปลาทอง ข้าก็เลยซื้อกลับมาฝากโย่วจิ่นสองตัว”

“ทำให้ท่านต้องลำบากแล้ว” ดวงหน้าหลี่ซื่ออาบด้วยรอยยิ้มละไม

โจวชูจิ่นรีบบอกให้โจวเสาจิ่นเข้ามาในเรือนว่า “มีอะไรก็ให้นั่งลงคุยกัน ยืนอยู่ตรงนี้ไม่เหมาะสมสักเท่าใด” จากนั้นก็กล่าวกับโจวเสาจิ่นอีกว่า “เมื่อครู่ยังพูดกับฮูหยินอยู่เลยว่า ไม่รู้ว่าเจ้าจะกลับมารับมื้อเย็นหรือไม่” แล้วบอกฉือเซียงว่า “เจ้าให้ห้องครัวทำกับข้าวที่คุณหนูรองชอบกินมาเพิ่มอีกสองสามจาน” ทั้งกล่าวอีกว่า “เจ้ากับฮูหยินกินมื้อเย็นที่นี่แล้วค่อยกลับไปแล้วกัน”

โจวเสาจิ่นยิ้มร่าพลางพยักหน้า นำโจวโย่วจิ่นไปหากวนเกอ จวบจวนป้ารับใช้จัดเตรียมอาหารเสร็จแล้วถึงออกมา

รอจนกระทั่งกลับถึงซอยอวี๋เฉียน ตอนที่ฝานหลิวซื่อเข้ามาปรนนิบัติโจวเสาจิ่นเข้านอน โจวเสาจิ่นเอ่ยถามฝานหลิวซื่อที่กำลังจัดเตียงให้นางขึ้นว่า “ตอนที่ข้าเป็นเด็กกว่าจะพูดเป็นก็ช้ามากเหมือนกันหรือไม่”

“ใครว่าเล่าเจ้าคะ” ฝานหลิวซื่อคลี่ยิ้มขณะตบหมอนรองศีรษะ แล้วจัดวางอย่างเรียบร้อยที่หัวเตียงพลางกล่าวยิ้มๆ ว่า “คุณหนูรองตอนเป็นเด็กเฉลียวฉลาดยิ่งนักเจ้าค่ะ เก้าเดือนก็เรียกคนเป็นแล้ว หนึ่งขวบก็เดินเป็นแล้ว คำแรกที่พูดออกมาก็คือ ‘ท่านพ่อ’ ทำเอานายท่านปลื้มปีติยิ่งนัก อุ้มท่านทั้งวันไม่ยอมปล่อยเลยเจ้าค่ะ มักจะบอกว่าไม่เคยเห็นเด็กที่ฉลาดและงดงามขนาดนี้มาก่อน ถ้าหากฮูหยินยังมีชีวิตอยู่ ไม่รู้ว่าจะมีความสุขมากเพียงใด…”

น้ำเสียงของนางลดต่ำลง หางตามีหยาดน้ำระยับวูบไหว

โจวเสาจิ่นก็รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย

ถ้าหากมารดาผู้ให้กำเนิดนางยังมีชีวิตอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างคงจะไม่เหมือนกันแล้ว… นางอาจจะไม่ได้พบกับท่านน้าฉือก็ได้…

เห็นได้ว่าล้วนเป็นโชคชะตาที่กลั่นแกล้งคน!

นางถอนหายใจเบาๆ แล้วกล่าวอย่างค่อนข้างเป็นกังวลว่า “ข้าเห็นโย่วจิ่นโตถึงเพียงนี้แล้ว แต่ยังพูดจาได้ไม่คล่องเท่าเด็กคนอื่นๆ…

ฝานหลิวซื่อกล่าวยิ้มๆ ว่า “นี่เป็นเพราะตระกูลโจวร่ำรวย บุตรสาวบุตรชายไม่เคยขาดคนดูแลเหมือนกับรุ่นที่ผ่านมา ตั้งแต่เป็นทารกก็มีผู้ใหญ่ดูแลอยู่ตลอด ดังนั้นการพูดหรือเดินล้วนทำได้รวดเร็ว ท่านลองไปแถบชนบทของพวกข้าดูสิ มีผู้ใหญ่บ้านใดบ้างไม่ต้องไปไร่ไปนา เด็กๆ ต่างถูกเลี้ยงมาโดยใช้เชือกผูกติดเอาไว้ใต้ต้นไม้ เด็กบางคนกว่าจะเอ่ยปากพูดก็มีอายุสามถึงห้าขวบแล้ว ข้าไม่เห็นว่ามีตรงไหนช้ากว่าเด็กคนอื่นๆ เลยเจ้าค่ะ!”

โจวเสาจิ่นฉีกยิ้มออกมาพลางกล่าวว่า “สงสัยข้าจะกังวลเกินไป!” จากนั้นก็พูดหยอกล้อกับฝานหลิวซื่อว่า “เมื่อครู่เจ้ายังบอกว่าข้าเฉลียวฉลาดเชาวน์ไว ที่แท้ก็เป็นถ้อยคำเกรงใจนี่เอง! เป็นเพราะข้าอยู่กับผู้ใหญ่มาตั้งแต่เด็กถึงได้พูดเดินเร็วขนาดนี้!”

ฝานหลิวซื่อยิ้มพลางกล่าวว่า “คุณหนูรองช่างแทะกระดูกในไข่ไก่จริงๆ นะเจ้าคะ ต่อให้เป็นตระกูลที่มั่งคั่งร่ำรวย แต่เด็กที่พูดเดินเร็วเท่าคุณหนูรองนี้ก็ยังมีน้อยอยู่ดีเจ้าค่ะ”

โจวเสาจิ่นหัวเราะเริงร่า

ฝานหลิวซื่อก็รู้สึกเบิกบานตามไปด้วย แล้วพูดกับซางมามาเป็นการส่วนตัวว่า “ดูเหมือนว่าคุณหนูรองชอบออกไปเที่ยวข้างนอกกับต้ากูไหน่ไนของตระกูลเฉิง วันนี้ยังพูดหยอกเย้ากับข้าอีกด้วย!”

ซางมามายิ้มน้อยๆ แต่ไม่ตอบคำใด ในใจครุ่นคิดว่า ยังคงเป็นนายท่านสี่ที่เก่งกาจ ทำให้เจิงต้ากูไหน่ไนยอมเคลื่อนไหวออกมา

ต่อไปเกรงว่าซอยอวี๋เฉียนคงจะยิ่งอยู่ยิ่งคึกคักแล้วละ!

ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นเฉิงเซิงมาเยี่ยมนาง กล่าวว่า “ผ้าคลุมทารกผืนนั้นสำหรับงานอาบน้ำครบรอบสามวันของหรงเอ๋อร์บุตรชายพี่หญิงรองที่เจ้าช่วยออกแบบให้เขาทำให้ตระกูลเฉิงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก อีกไม่กี่วันจะถึงวันเกิดของแม่สามีข้า เจ้าช่วยข้าออกแบบลายดอกไม้สักลายหนึ่งให้ข้าได้หรือไม่ ข้าจะเชิญเจ้าไปกินเป็ดเนื้อใสของฝูชุนเจียง”

กล่าวด้วยความจริงใจยิ่งนัก

โจวเสาจิ่นไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีวันที่เฉิงเซิงมาขอความช่วยเหลือจากนาง

นางอดยิ้มกว้างจนดวงตาเป็นเส้นโค้งไม่ได้ แล้วตอบว่า “นี่คือเรื่องอะไรเจ้าคะ! ไม่รู้ว่าแม่สามีของท่านชื่นชอบลวดลายแบบใด”

ทั้งสองคนอยู่สนทนากันในห้องรับแขกทั้งบ่าย จากนั้นเฉิงเซิงก็กลับไปอย่างพึงพอใจ

ทางด้านซอยอวี๋ซู่กลับมีสาวใช้มาแจ้งว่า “ฮูหยินใหญ่ของพวกข้าจะมาถึงพรุ่งนี้เช้า บ่าวเด็กที่ล่วงหน้ามาแจ้งความมาถึงซอยอวี๋ซู่แล้วเจ้าค่ะ”

โจวเสาจิ่นไปรับมื้อเย็นกับหลี่ซื่อ แล้วหารือเรื่องการต้อนรับฮูหยินใหญ่เลี่ยวกับนาง

จากนั้นก็เร่งพวกบ่าวรับใช้ปัดกวาดเช็ดถูเรือน ซื้อเนื้อหมูปลาเป็ดไก่และสลับสับเปลี่ยนการตกแต่งภายในบ้านใหม่… โจวเสาจิ่นกับหลี่ซื่อยุ่งวุ่นวายทั้งวัน สุดท้ายต่างก็ค่อยๆ เรียนรู้ความชื่นชอบของอีกฝ่าย

นี่ก็ถือเป็นการเก็บเกี่ยวที่คาดไม่ถึงกระมัง!

โจวเสาจิ่นรู้สึกน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ตัดสินใจรอให้เฉิงฉือกลับมาแล้วค่อยเล่าให้เขาฟัง

วันรุ่งขึ้นหลังจากรับประทานมื้อเช้าแล้ว นางกับหลี่ซื่อก็พาโจวโย่วจิ่นไปซอยอวี๋ซู่

เลี่ยวเส้าถังพาพ่อบ้านกับบ่าวเด็กไปรับคนที่ประตูซีจื๋อแล้ว พวกนางสนทนากับโจวชูจิ่นระหว่างรอฮูหยินใหญ่เลี่ยว

ครั้นใกล้เที่ยง เลี่ยวเส้าถังถึงได้กลับมา

โจวเสาจิ่นและคนอื่นๆ ไปต้อนรับที่หน้าประตูชั้นใน

ฮูหยินใหญ่เลี่ยวที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ลงจากรถม้าด้วยสีหน้าอิดโรย

โจวเสาจิ่นเห็นแล้วตกใจยิ่งนัก

ฮูหยินใหญ่เลี่ยวดูซูบผอมกว่าตอนที่อยู่เจิ้นเจียงมาก อาจเป็นเพราะขมวดคิ้วแน่นมาเป็นเวลานาน ที่หว่างคิ้วของนางจึงมีรอยลึกเพิ่มขึ้นมา แม้จะผัดแป้งบนดวงหน้าและทาชาดบนริมฝีปาก แต่นอกจากจะดูไม่มีชีวิตชีวาแล้ว ในทางกลับกันทำให้นางดูแก่ชรายิ่งขึ้น

โจวเสาจิ่นอดมองโจวชูจิ่นไม่ได้

โจวชูจิ่นเองก็ดูตกใจเป็นอย่างมาก นางรีบก้าวไปประคองฮูหยินใหญ่เลี่ยว

ฮูหยินใหญ่เลี่ยวตบหลังมือของโจวชูจิ่นเบาๆ ปล่อยให้นางประคองเข้าประตูชั้นใน

หลี่ซื่อกับโจวเสาจิ่นก้าวมาคารวะนาง

เลี่ยวซื่อยิ้มน้อยๆ ขณะทักทายปราศรัยสองสามประโยค จากนั้นหลี่ซื่อก็พาโจวเสาจิ่นลุกขึ้นกล่าวอำลา “เพียงรู้ว่าท่านมาถึงด้วยความปลอดภัยพวกข้าก็รู้สึกวางใจแล้ว! บ่ายวันพรุ่งนี้ข้าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับท่านที่บ้านนะเจ้าคะ!”

เมื่อเห็นว่าหลี่ซื่อกับโจวเสาจิ่นไม่ได้พักอยู่ที่ซอยอวี๋ซู่ ฮูหยินใหญ่เลี่ยวก็ยากจะปกปิดความประหลาดใจได้

เลี่ยวเส้าถังก็ยินดีที่จะพูดชมภรรยาตนเอง เอ่ยขึ้นว่า “ความจริงแม่ภรรยากับน้องภรรยาทั้งสองท่านล้วนพักอยู่ที่นี่ คอยดูแลชูจิ่นเป็นอย่างดีขอรับ ต่อมาท่านบอกว่าอยากจะมาหา แม่ภรรยากับน้องภรรยาทั้งสองท่านคิดว่าท่านอาศัยอยู่ที่เจิ้นเจียงคงจะคุ้นชินกับการอยู่ในเรือนหลังใหญ่ กลัวว่าช่วงแรกที่ท่านมาจิงเฉิงจะรู้สึกไม่คุ้นเคย พวกนางจึงย้ายไปอาศัยในเรือนซึ่งอยู่ในนามของเสาจิ่น อยู่ที่ซอยอวี๋เฉียนซอยถัดไป ห่างจากที่นี่เพียงหนึ่งเค่อจงเท่านั้น วันนี้ได้ยินว่าท่านมาถึงแล้ว แม่ภรรยากับน้องภรรยาทั้งสองท่านจึงมาต้อนรับท่านแต่เช้าขอรับ!”

เรือนในนามของเสาจิ่น… เสาจิ่นผู้นี้ยังไม่ได้ออกเรือนเลยนะ!

มิใช่ว่าตามใจเกินไปแล้วหรอกหรือ

ทว่าสุดท้ายนี่เป็นเรื่องของตระกูลโจว ฮูหยินใหญ่เลี่ยวเป็นผู้ที่มีเล่ห์เหลี่ยมในใจผู้หนึ่งเสมอมา ทว่าบนดวงหน้ากลับไม่แสดงสีหน้าออกมาขณะสนทนากับหลี่ซื่อแม้แต่น้อย “ท่านช่วยข้าดูแลชูจิ่นของพวกข้า ข้าคิดถึงแล้วก็รู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก เหตุใดพวกเจ้าถึงไปอยู่ที่ซอยอวี๋เฉียนเล่า ทางนี้ใช่ว่าไม่มีห้องหับสักหน่อย พวกเจ้าอยากจะย้ายกลับมาหรือไม่ ข้าจะได้มีคนพูดคุยด้วยทุกวัน!”

หลี่ซื่อปฎิเสธไปอย่างสุภาพ แล้วบอกว่าพรุ่งนี้จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับฮูหยินใหญ่เลี่ยวที่บ้าน

ฮูหยินใหญ่เลี่ยวตอบตกลงอย่างเริงร่ายิ่งนัก

ทว่าพอหลี่ซื่อออกไปถึงปากซอย นางก็บอกให้เลี่ยวเสาถังไปปิดประตูใหญ่ทันที รอยยิ้มก็ตกลงมาแล้ว บอกให้บุตรชายกับสะใภ้ไปห้องนั่งเล่น พลางกล่าวว่า “พ่อของเจ้าคนนี้ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว!”

เลี่ยวเส้าถังรู้สึกกระดากอายยิ่ง ชำเลืองมองโจวชูจิ่นทีหนึ่ง

โจวชูจิ่นรีบกล่าวขึ้นว่า “ท่านแม่ ข้าไปชงน้ำชามาให้ท่านนะเจ้าคะ”

ฮูหยินใหญ่เลี่ยวเห็นท่าทางของบุตรชาย แล้วพยักหน้าอย่างเหม่อลอยเล็กน้อย

โจวชูจิ่นใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำชามากกว่าครึ่งชั่วยาม คำนวณว่าสองแม่ลูกมีเรื่องอะไรก็คงใกล้จะพูดเสร็จแล้ว ถึงได้ยกถาดน้ำชาเข้าไปในห้อง

เลี่ยวเส้าถังนั่งก้มหน้าอยู่ ดูห่อเหี่ยวเหลือแสน ส่วนฮูหยินใหญ่เลี่ยวขอบตาแดงก่ำ เหมือนร้องไห้มาอย่างไรอย่างนั้น

พอเห็นโจวชูจิ่นเข้ามา สองแม่ลูกต่างพยายามทำตัวให้ดูสดใส

เลี่ยวเส้าถังกล่าวว่า “เจ้าอยู่ที่นี่อย่างสบายใจไปก่อน จะได้สอนโย่วจิ่นอุ้มกวนเกออย่างไรได้พอดี เรื่องราวในภายหน้า หากทหารมาก็ใช้ขุนพลต้านรับ หากน้ำไหลหลากก็ใช้ดินเป็นแนวต้าน มีหนทางแก้ไขเสมอ เจ้าเพียงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขก็พอแล้ว”

ฮูหยินใหญ่เลี่ยวยิ้มขื่น พลางกล่าวว่า “ไม่คาดคิดมาก่อนว่าข้าเป็นผู้ที่ชอบเอาชนะผู้อื่นมาตลอดชีวิต สุดท้ายกลับพ่ายแพ้ในมือของพ่อเจ้า”

โจวชูจิ่นไม่ได้เอ่ยคำใด รอให้ฮูหยินใหญ่เลี่ยวดื่มน้ำชาเสร็จ ก็ปรนนิบัตินางล้างหน้าสางผม เมื่อล้างหน้าสะอาดสะอ้านแล้ว ถึงได้ไปดูกวนเกอที่เรือนปีกตะวันออกพร้อมกับฮูหยินใหญ่เลี่ยว

“เด็กคนนี้หน้าตาดีจริงๆ!” ฮูหยินใหญ่เลี่ยวเห็นแล้วก็ละสายตาไม่ได้เลย พูดชมเด็กน้อยไม่หยุด ทั้งยังขอบคุณโจวชูจิ่นที่คลอดลูกน้อยอ้วนท้วนสมบูรณ์ให้นางคนหนึ่ง แล้วให้มามาที่ยืนอยู่ข้างๆ นำกล่องเข้ามา กล่าวว่า “นี่เป็นเครื่องประดับศีรษะทับทิมชุดหนึ่ง มอบให้เจ้า!”

ของมีค่าขนาดนี้ โจวชูจิ่นยืนกรานว่าไม่ต้องการ

ฮูหยินใหญ่เลี่ยวกล่าวยิ้มๆ ว่า “เจ้าเด็กคนนี้ ผู้ใหญ่ให้ของอย่าได้ปฏิเสธ เจ้าเพียงรับไว้ก็พอ”

เลี่ยวเส้าถังก็บอกให้นางรับไว้

โจวชูจิ่นไม่อยากเสียมารยาท จึงรับกล่องมา

ฮูหยินใหญ่เลี่ยวก็ยิ้มพลางกล่าวว่า “ใช่แล้ว! อีกไม่นานเจียซ่านจะแต่งงาน สวมใส่ไปงานเลี้ยงฉลองได้พอดี!”

………………………………………………………………….

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 408 แม่สามี"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์