ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 340
ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 340
รูปปั้นชั่วร้าย 1/2
โดย
หุ่นไล่กา
คลื่นพลังอันน่าสะพรึงกลัวกวาดออกไปทั่วหมู่บ้านวัฒนธรรม ท้องฟ้ายามค่ำคืนพลันบิดเบี้ยวราวกับถูกขยี้ด้วยมือยักษ์ ภาพดวงจันทร์กลมโตสีเหลืองนวลบนท้องฟ้าเกิดรอยแตกร้าว ก่อนที่ภาพบนท้องฟ้าแตกกระจายออก เป็นเศษแสงสีเทากระจายออกและตกลงไปด้านล่างผสานเข้ากับหมอกสีเทา
ท้องฟ้าและดวงจันทร์เสี้ยวกลับมาเหมือนเวลาปกติ
หมอกสีเทาเกิดระลอกคลื่นอย่างรุนแรงและลอยสูงขึ้นถึงเข่า และหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นของเหลว หมอกสีเทาเคลื่อนไหวไหลไปตามพื้นก่อนที่จะไปรวมตัวกันที่รูปปั่นต่างๆที่กระจายอยู่ภายในหมู่บ้านวัฒนธรรม หมอกสีเทาปกคลุมทั่วรูปปั่น พวกมันชอนไชไปตามข้อต่อราวกับมีชีวิต ในตอนนั้นเองดวงตาของรูปปั้นก็อาบไปด้วยสีเทา ข้อต่อแขน ขา คอ ของรูปปั้นถูกห่อหุ้มด้วยหมอกสีเทาที่ลุกไหม้ราวกับเปลวเพลิง
เปรียะ! เสียงแตกร้าวดังสนั่น ก่อนที่เหล่ารูปปั้นจะขยับ ข้อต่อของพวกมันสามารถขยับได้ราวกับสิ่งมีชีวิตพวกมันเดินลงจากฐานที่ตั้งของตัวเอง พลังชั่วร้าวแผ่ซ่านออกจากร่างของรูปปั้นราวกับปีศาจร้าย
เมื่อพวกมันขยับ พวกมันก็ตรงเข้าโจมตีสิ่งที่มีชีวิตที่มีเลือดเนื้อทั้งหมดที่อยู่ใกล้ที่สุด โดยไม่สนใจว่าจะเป็นพวกเดียวกันหรือไม่!
กลิ่นอายฆ่าฟันกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ไม่ปล่อยให้สิ่งมีชีวิตใดๆสามารถหลบหนีไปได้!
เหล่าผู้ต้องสาปที่กำลังเดินตรวจตราอยู่ ต่างก็ใบหน้าเปลี่ยนสีเมื่อเห็นรูปปั้นพุ่งตรงเข้าหาพวกมัน
พวกมันรับรู้ได้ทันทีว่าผนึกป้องกันความเชื่อทั้งสองแห่งถูกทำลายเป็นที่เรียบร้อย!
พวกมันไม่แม้แต่จะอ้าปากเตือนคนที่อยู่ไกลออกไป พวกมันแตกหือวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงไม่คิดชีวิต
แต่พวกมันก็ช้าไป รูปปั้นเหล่านั้นพุ่งเข้าหาพวกมันอย่างรวดเร็ว การคลื่นไหวคล่องแคล่วรวดเร็วราวกับว่าพวกมันไม่ใช้รูปปั้นที่สร้างจากหิน ดิน ปูน หรือเหล็กที่แข็งทื้อ พวกมันเคลื่อนไหวได้เหมือนเป็นสิ่งมีชีวิตทุกอย่าง
รูปปั้นที่ถืออาวุธก็ยกอาวุธเข้าเข่นฆ่า รูปปั้นที่ไม่มีอาวุธก็ใช้ร่างกายอันแข็งแกร่งบดขยี้
ไม่นานทุกพื้นที่ของหมู่บ้านวัฒนธรรมก็เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง เลือดและซากศพ
ที่ตั้งของระฆังโบราณ เทนงูและผู้ต้องสาปที่ยังมีชีวิตอยู่ถูกรูปปั้นซามูไรหินสูง 2 เมตรนับสิบเข้าล้อมสังหาร ดาบคาตานะที่เหมือนกับของตกแต่งธรรมดา แต่ในตอนนี้ใบดาบสีเงินมีกลิ่นอายน่าสะพรึงกลัว ไม่มีใครกล้าที่จะรับตรงๆ
กลุ่มของเทนงูถูกบังคับให้ถอยร่นเข้าไปในพื้นที่ด้านใน
“ไอ้นกดำ ตายแล้วอย่างนั้นเหรอ!”เทนงูสบถอย่างหัวเสีย มันไม่มีเวลาที่จะสนใจอิวะ โซตะที่กำลังซ่อนตัวรักษาบาดแผลอยู่ในอาคารด้านข้าง
มันกวาดสายตาลอกแลกมองหาทางหลบหนี เมื่อมีรูปปั้นซามูไรเข้าใกล้มันก็เข้าโจมตีด้วยกำลังทั้งหมด รูปปั้นซามูไรที่สร้างจากปูนแตกเป็นชิ้นๆ แต่เทนงูไม่มีท่าทางดีใจแม้แต่น้อย มันรูปว่าเมื่อแท่นบูชาทั้งสองถูกทำลาย การป้องกันครั้งสุดท้ายจะทำงาน สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในหมู่บ้านวัฒนธรรมจะต้องถูกฆ่า ไม่เว้นแม้แต่คนของฝ่ายเดียวกัน!
ทางรอดมีเพียงหาที่ซ่อน รอท่านเทพตื่นขึ้นมา และหยุดการล่าสังหารลง
วูบ เสียงการโจมตีมาจากทางด้านหลัง เทนงูเอียงตัวหลบคมดาบคาตานะที่แทงเฉียดใบหน้า ก่อนจะหมุนตัวและเหวี่ยงศอกกระแทกเข้าที่กลางอกของรูปปั้นจนแตกร้าวเป็นรูกลวง มันใช้มืออีกข้างจับที่ข้อมือ แย่งดาบคาตานะมาและเหวี่ยงเท้าถีบรูปปั้นซามูไรกระเด็นออกไปกระแทกร่างของรูปปั้นซามูไรอีกสองตัวที่กำลังเข้ามา จนพวกมันล้มลงไป
เมื่อได้อาวุธเทนงูก็ฟาดฟันทำลายรูปปั้นตัวอื่นๆ
การต่อสู้เต็มไปด้วยเลือด รูปปั้นนับไม่ถ้วนถูกทำลาย แต่พวกมันก็เข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง
รูปปั้นหินจะมุ่งหน้าตรงไปยังสิ่งมีชีวิตที่ใกล้ที่สุด ซึ่งบริเวณที่พวกมันอยู่มีสิ่งมีชีวิตจำนวนมาก ทำให้ตกเป็นเป้าที่พวกรูปปั้นจะมา
เทนงูกวาดตามองไปรอบๆเพื่อหาทางหนี พร้อมกับโจมตีไปเรื่อยๆ กลุ่มผู้ต้องสาปที่เหลืออีกหลายสิบตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เหลือแค่สิบเจ็ดตัว
รวมทั้งผู้พิทักษ์ทั้งหกที่มาช่วย พวกมันต่างก็ติดร่างแหต้องช่วยกันต้านทานคลื่นรูปปั้นที่เข้ามาไม่หยุด
ในช่วงเวลาอันตรายนั้นเอง ภายในอาคารที่อิวะ โซตะซ่อนตัวก็แตกร้าว ก่อนที่จะพังทลาย เรียกสายตาทุกคนให้หันไปมอง
แต่ปรากฏว่าภายในว่างเปล่าไร้ผู้คน
เทนงู ผู้พิทักษ์ทั้งหกและผู้ต้องสาปที่เหลืออยู่ต่างก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เทนงูจะกรีดร้องด้วยความโกรธแค้น ดวงตาแดงก่ำก่อนจะปริแตกอออกเป็นหยดเลือดเล็กๆไหลออกท้วมเบ้าตา
“ไอ้สารเลว!”
ทันใดนั้นเองพายุสายลมก็ระเบิดออกอย่างรุนแรงกวาดโดยรอบ ม้วนทุกอย่างร่วมถึงพรรคพวกตัวมันเอง ลอยเข้าไปในพายุและบดทำลายเป็นชิ้นๆ!
ร่างของเทนงูลอยขึ้นและทะยานหลบหนีไปทันที
แต่ก่อนที่มันจะลอยไป ก็มีลูกธนูนับร้อยยิงมาจากทุกทิศทางสะกัดขัดขวางไม่ให้มันได้หลบหนี
ใบหน้าของเทนงูพลันบิดเบี้ยวจนน่าเกลียด
ศาลเจ้า
รูปปั้นจิโซนับร้อยหันหน้ามามองพวกของจิวโมไป๋พร้อมกัน พลังอันน่ากลัวโถมตรงมายังพวกเขาอย่างน่าสยองขวัญ
ใบหน้าของจิวโมไป๋เรียบเฉย แต่ดวงตาของเขาที่มองไปยังจิโซทั้งร้อยรูป ฉายแววโกรธแค้นและเศร้าหมอง
—-
กลับมาแล้วครับทุกๆคน หายไปครึ่งเดือน ผมไปทริปเที่ยวหาประสบการณ์ครับ ฮ่าๆ พูดตรงๆคือช่วงที่ผมออกจากงาน ตั้งใจจะเขียนนิยายอยู่แต่ที่พัก สมองผมตันครับ ผมเขียนอะไรไม่ได้เลย ผมเลยตัดสินใจหาทริปเที่ยวระยะยาว เพื่อพักผ่อนพร้อมกับหาแรงบันดาลใจไปด้วยครับ ไม่รู้ว่าจะช่วยได้หรือเปล่า ต้องรอดูต่อไปครับ
และผมต้องขอโทษทุกคนด้วยนะครับ ที่หายไป ไม่ได้เขียนนิยายลงเลย ครึ่งเดือนที่ผ่านมา ผมไม่ได้แตะคอมเลยครับ เที่ยวอย่างเดียวแหะๆ ขอโทษจริงๆครับ
วันนี้ผมจะลง 5 ตอน รออ่านได้เลยครับ^^