ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 431
ความแข็งแกร่งของอัจฉริยะอันดับ 2!
หุ่นไล่กา
อิโทซะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความเจ็บปวดค่อยๆบรรเทาลง เขากลับมาสงบสติอารมณ์ที่ต้องสูญเสียน้องสาวได้ ดวงตาฉายแววคมกริบ ก่อนที่กฎแห่งธาตุสายฟ้าจะปะทุออกจากร่างอย่างรุนแรง เสียงสายฟ้าคำรามดังกึกก้อง ประกายสายฟ้าสีม่วงแลบไปมาทั่วร่างก่อนจะไหลเข้าไปในร่างกาย ดวงตาพลันสาดประกายสายฟ้าสีม่วง
ร่างของอิโทซะหายวับไปในชั่วพริบตา ราวกับภาพตัด ก่อนที่พื้นที่เขาเคยยืนอยู่จะเกิดการปะทุของสายฟ้าตามหลังในวินาทีถัดไป
ฟึบ! เสียงแหวกอากาศดังมาจากด้านบน
เคนซูกุไม่แม้แต่หันไปมอง เขาโยกร่างถอยหลบอย่างใจเย็น คมดาบฟันฟานใบหน้าของเขาเพียงหนึ่งคืบ
เปรี้ยง! คมดาบฟาดฟันลงพื้น ก่อนที่สายฟ้าจะผ่าตามลงมา อิโทซะย่อเข่าก่อนจะหมุนตัวเป็นวงกลมเหวี่ยงดาบฟันตัดข้างลำตัว เคนซูกุซอยเท้าถอยไปหนึ่งก้าวคมดาบฟันผ่านร่างของเขาไป
อิโทซะผุดลุกขึ้นก้าวเท้าไล่ตามพร้อมกวัดแกว่งดาบโจมตีตามติดๆกันหลายดาบ ความเร็วในการโจมตีเพิ่มขึ้นทุกๆครั้งที่โจมตี รวดเร็วจนสายฟ้าไล่ตามแทบไม่ทัน
ดวงตาของเคนซูกุจ้องมองคมดาบที่ฟันลงมา เขาถอยเท้าไปเรื่อยๆ พร้อมยกดาบปัดป้องการโจมตีของอิโทซะ
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
เคนซูกุหรี่ตาลงสังเกตเห็นจังหวะการโจมตีของอิโทซะที่ไม่สมดุล ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวได้อย่างสมบูรณ์นัก แม้จะรวดเร็วจนมองการเคลื่อนไหวไม่ทัน แต่การโจมตีตรงเกินไป ทำให้สามารถอ่านการโจมตีได้ง่าย
เมื่อเห็นจุดอ่อนของอิโทซะ เขาก็เปลี่ยนกระบวนท่าทันที เขาเพิ่มแรงกระแทกดาบเข้าปะทะ ทำให้อิโทวะเสียจังหวะ การโจมตีหยุดชะงักไปชั่วครู่หนึ่ง เขาสาวเท้าเข้าปะชิดทันที พลิกข้อมือผลักดาบออกด้านข้าง พร้อมกับยกมือซ้ายที่ถือฝักดาบกระแทกออกไปอย่างแรง
อิโทซะสายตามองวูบเดียว ก็เห็นการโจมตีของเคนซูกุ เขาใช้ท่าร่างถอยหลบ แต่เพราะเขาใช้พลังกฎแห่งธาตุกระตุ้นประสาททั้ง 5 เกินขีดจำกัด ทำให้เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายได้สมบูรณ์ เขาคิดจะถอยไปแค่หนึ่งก้าว แต่เขากับถอยไปกว่า 3 ก้าว ทำให้เสียจังหวะการโจมตีอย่างสิ้นเชิง
ใบหน้าของอิโทซะเริ่มซีดลงเล็กน้อย เขาเงยหน้ามองเคนซูกุด้วยความประหลาดใจปนตกใจ เขาไม่คิดเลยว่าเคนซูกุจะสามารถรับการโจมตีด้วยความเร็วแสงของเขาได้ และยังสามารถสยบการรุกของเขาได้อย่างง่ายดาย
ระดับการบ่มเพาะพลังของเคนซูกุอยู่ขั้นที่ 6 โลหิตกลาง สูงกว่าเขาเพียงขั้นเดียว มันไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ประสบการณ์ต่อสู้ของอีกฝ่ายเหนือกว่าเขามาก
สมแล้วที่เป็นอัจฉริยะอันดับ 2 ของประเทศเกาะ ไม่สามารถดูแคลนได้เลย
การจัดอันดับอัจฉริยะของประเทศเกาะ ไม่ได้จัดขึ้นด้วยระดับการบ่มเพาะพลังเพียงอย่างเดียว มีหลายองค์ประกอบที่ถูกรวมด้วยกันเช่น ความเร็วในการบ่มเพาะพลังหรือตระหนักกฎแห่งธาตุ ความเร็วในการฝึก ความเชี่ยวชาญในทักษะต่อสู้
น้องสาวของเขาคิยูมิอยู่อันดับ 3 เธอถูกจัดอันดับเหนือกว่าเขา ทั้งๆที่ระดับการบ่มเพาะพลังน้อยกว่า เป็นเพราะเธอตระหนักกฎแห่งธาตุสายฟ้าได้เร็วและมีพละกำลังเหนือธรรมชาติ ทำให้เธอมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าผู้บ่มเพาะพลังระดับเดียวกัน และความเร็วในการบ่มเพาะพลังของเธออยู่ในระดับปีศาจ เธออายุเพียง 15 ปี แต่อยู่ขั้นที่ 5 กระดูกปลาย ทำให้เธอได้รับอันดับที่ 3 ไปครอง
เอนโจ เคนซูกุ อายุ 20 ปี น้อยกว่าเขาแค่ปีเดียว ความเร็วในการบ่มเพาะพลังไม่ได้เร็วนัก การที่เขาสามารถยึดครองอันดับที่ 2 เหนือกว่าน้องสาวของเขาได้ ความสามารถอย่างอื่นของเขาจะต้องไม่ธรรมดา
วูบ ในตอนนั้นเอง อิซาชิก็ปรากฏตัวขึ้นจากด้านหลังเคนซูกุ และฟันดาบที่ห่อหุ่มด้วยกฎแห่งธาตุสายฟ้าเข้าโจมตีไปที่แผ่นหลัง
เคนซูกุสัมผัสได้ถึงอันตรายจากด้านหลัง เขากรอกตาไปมา กฎแห่งธาตุไฟอันร้อนแรงพลันระเบิดออกจากร่าง เขาใช้มือขวาที่ถือดาบคาตานะฟันไปข้างหน้า คลื่นดาบเพลิงพุ่งเข้าใส่อิโทซะ พร้อมกับเอื่อมมือซ้ายมาจับที่ฝักดาบและเหวี่ยงมันกลับหลัง รับการโจมตีของอิซาชิ
เปรี้ยง! ดาบสายฟ้าปะทะกับฝักดาบอย่างแรง ทำให้ร่างของเคนซูกุถลาไปข้างหน้า
อิโทซะถูกคลื่นดาบเพลิงบังคับให้ต้องหลบ ร่างกายของเขาที่ฝืนใช้ความเร็วเหนือเสียงหลบ ต้องทนกับภาระหนัก ทำให้จังหวะของเขารวนเร
เคนซูกุที่ถูกกระแทกมา เขาสาวเท้าเร็ว ก้าวมาข้างหน้าไม่กี่ก้าว ก็เข้าประชิดร่างของอิโทซะ ดาบคาตานะที่ห่อหุ้มเปลวเพลิงสีแดงส้มกวัดแกว่งโจมตี
อิโทซะถูกบังคับให้ต้องรับการโจมตีอีกครั้ง เขาใช้ท่าร่างถอยหลังหลบการโจมตี แต่เคนซูกุก็พุ่งไล่ตามติดๆไม่ปล่อย ให้เขาได้มีโอกาสได้หายใจ มันทำให้ร่างกายของเขารับภาระหนักขึ้น ใบหน้าของเขาค่อยๆซีดเผือด
อิซาชิถูกเมินอย่างสิ้นเชิง เขาเห็นว่าอิโทซะตกอยู่ในอันตราย เขาจะเข้าไปช่วย ก็มีร่างหนึ่งลอยเข้ามา เขาเหลือบมองก็ชะงักหยุดรับ แต่ร่างที่ลอยมากับแฝงพลังอันแข็งแกร่ง กระแทกเข้าที่ร่างของเขาอย่างจัง
โครม! อิซาชิและร่างที่ลอยมาล้มลงไปพร้อมกัน
“อัก!”ทาเคยูชิยันตัวลุกขึ้นและกระอักเลือดออกมา เขาหันไปมองอิซาชิและกล่าวอย่างยากลำบาก
“ขอโทษ”
อิซาชิลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและช่วยทาเคยูชิลุกขึ้น
พวกเขาหันไปมองผู้พิทักเพลิงทมิฬที่เดินมาอย่างช้าๆ ท่าทางของเขาเหมือนไม่ได้มาต่อสู้เหมือนมาชมการแสดงมากกว่า