ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 446
ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 446
จิวโมไป๋ขึ้นลิฟท์กลับขึ้นมาด้านบน เขาเดินไปที่ห้องแลกเปลี่ยน
ในห้องแลกเปลี่ยนนี้ แตกต่างจากห้องแลกเปลี่ยนเมื่อตอนที่เขาเป็นนักรบฝึกหัด มีสิ่งของหลากหลายมากกว่า เขาเข้าไปในห้องวัตถุดิบ เพื่อหาวัตถุดิบเตรียมพร้อมสำหรับหลอมรวมเงาอวตารในตอนที่เลื่อนระดับการบ่มเพาะพลังไปขั้นที่ 6 โลหิต
จิวโมไป๋กวาดดูวัตถุดิบประเภทแร่ ด้วยดวงตาเป็นประกาย มีแร่ระดับ 1 และ 2 หลายชนิดและมีแร่ระดับ 3 ไม่กี่ชิ้น
เขาเลือกแร่ที่มีคุณสมบัติเกี่ยวกับธาตุไฟและไม้ เขาตั้งใจจะเลื่อนระดับเคล็ดบ่มเพาะพลังเตาหลอม 9 สุริยัน เป็นอันดับแรก เพราะอีก 2 เคล็ดบ่มเพาะพลังเขายังไม่มั่นใจที่จะเลื่อนระดับพวกมันได้
กระบี่เลื่อนเร้นลึกลับ ผิดปกติ แตกต่างจากเคล็ดบ่มเพาะพลังทั่วไป เขาต้องตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนก่อนถึงจะหาวัตถุหลอมรวมวัตถุดิบเพื่อสร้างร่างอวตาร
สำหรับเคล็ดบ่มเพาะพลัง ลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ มันยังไม่สมบูรณ์ เขาต้องสร้างมันให้สมบูรณ์ก่อนถึงจะหลอมเงาอวตาร
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจหลอมเงาอวตารเตาหลอม 9 สุริยันก่อนเป็นอันดับแรก
เลือกวัตถุโลหะหลายสิบตัน ไม่นานเขาก็ใช้ไปกว่า 2,000 เครดิต น่าเสียดายที่ไม่มีแร่พิเศษ ไหนดีกว่าโลหะใต้พิภพ ที่เขาเคยแลกมาก่อน แต่เขาก็เขาไม่เสียใจนัก เพราะเขามีเปลวไฟ 2 ชนิดแล้ว มันเป็นวัตถุหลักในการหลอมเงาอวตารของเตาหลอม 9 สุริยัน
เขาไม่ไปเลือกสิ่งของอื่นๆ เพราะเขาไม่มีเวลา พรุ่งนี้เขาต้องไปเมืองเทียนจิง เพื่อไปดูการพนันหยกกับอาจารย์ของเขาและเนี่ยฟูหาน
แร่เหล็กที่แลกถูกส่งไปยังห้องเก็บของข้างๆห้องพักที่เขาอยู่ ก่อนจะออกจากห้องแลกเปลี่ยน เขาแลกหินกำเนิดปราณระดับต่ำ ราคาแลกเปลี่ยน 1 ชิ้น ต่อ 200 คะแนนเครดิต เขาแลก 10 อัน เสียไปอีก 2,000 คะแนนเครดิต
เหลือคะแนนเครดิต 2,000
เขาก็เดินไปที่ห้องเก็บของโบกมือวูบหนึ่ง แร่เหล็กทั้งหมดก็ถูกเก็บลงแหวนมิติเก็บของ เขาไม่กลัวว่าจะถูกจับเพราะไม่มีกล้องวงจรปิด หน่วยลับให้พื้นที่ความเป็นส่วนตัวสูง
เขาเดินออกจากห้องเก็บของ ตรงไปห้องกลั่นกายาและห้องกลั่นธาตุ
ห้องโถงโล่งบางตา ไม่มีผู้คน
เขาเดินไปที่ห้องธาตุไฟ หน้าทางเข้ามีข้อความ
ค่าเข้าห้องกลั่นธาตุไฟชั้น 1 20 คะแนนเครดิตต่อ 1 ชั่วโมง
เขาเดินเข้าไปทันที คลื่นความร้อนปะทะใบหน้า ภายในห้องมีห้องเล็กๆแยกย่อยให้เข้าไป เขาเดินผ่านห้องเหล่านั้นไปจนสุดทาง ก็พบทางขึ้นไปชั้นสอง หน้าทางขึ้นมีข้อความ
ค่าเข้าห้องกลั่นธาตุชั้นไฟ 2 100 คะแนนเครดิตต่อ 1 ชั่วโมง
เขาเดินขึ้นไป ก็มีห้องแยกย่อยซ้ายขวา จำนวนห้องน้อยกว่าขั้น 1 นับคราวๆมีเพียง 20 ห้องเท่านั้น เขาเดินผ่านห้องเหล่านั้นจนมาถึงบันไดขึ้นชั้น 3 หน้าทางขึ้นมีข้อความ
ค่าเข้าห้องกลั่นธาตุชั้นไฟ 3 500 คะแนนเครดิตต่อ 1 ชั่วโมง
เขาเดินขึ้นไป ชั้นที่ 3 มีเพียง 4 ห้องเท่านั้น น่าแปลกที่ตอนนี้มีคนใช้แล้ว 3 ห้อง
เขาไม่สนใจตรวจสอบคนอื่น เขาเดินเข้าไปห้องที่ว่าง เมื่อเข้าไปประตูห้องก็ปิด คะแนนเครติดถูกหักไปทันที 500 คะแนนเครดิต
ในตอนนั้นเองพลังธรรมชาติและคลื่นความร้อนก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จิวโมไป๋สูดลมหายใจลึกๆ พลังธาตุไฟที่นี่มากกว่าที่เกาะโดดเดียวเท่าหนึ่ง เขาไม่เสียเวลาโบกมือข่ายอาคมปกคลุมทั่วห้อง เขาโบกมือหลายครั้งข่ายอาคมนับสิบปกคลุมพื้นที่ในห้องทั้งหมดอย่างหนาแน่น ไม่มีพลังอะไรเล็ดลอดออกไปได้
ก่อนที่เขาจะหยิบโคมไฟเพลิงผลาญธุลีออกมา เขาวางมันลงพื้น ก่อนจะตั้งสมาธิท่องเคล็ดบ่มเพาะพลังเตาหลอม 9 สุริยัน บทดูดซับเปลวเพลิง
ทันทีที่เขาเริ่มท่องบทดูดซับเปลวเพลิง เพลิงนิรันด์สีเขียวเข้มที่นิ่งเงียบมานานก็สัมผัสได้ว่ามันกำลังสูญเสีย ตำแหน่งหลักของมันที่นี่ เปลวเพลิงของมันลุกไหม้อย่างรวดเร็ว คลื่นความร้อนอันทรงพลังเผาไหม้จนท้องฟ้าบิดเบี้ยว
ความเจ็บปวดแลนไปทั้วร่างกาย จิวโมไป๋เตรียมรับความเจ็บปวดอยู่แล้ว เขาพยายามควบคุมเพลิงนิรันดร์พร้อมกับยกมือขึ้นและตบไปที่โคมไฟอย่างแรง
ตูม! เพลิงสีแดงน้ำตาลทองลุกไหม้อย่างรวดเร็ว มันเผาไหม้ห้องกลั่นธาตุอย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกข่ายอาคมขวางกั้น
เพลิงผลาญธุลีในตอนนี้อ่อนแออย่างมาก แต่ความร้อนที่สามารถเผาไหม้ทุกสิ่งเป็นผุยผงของมันนั้นไม่ธรรมดา ไม่สามารถประมาทได้ ร่างของจิวโมไป๋เปลี่ยนเป็นแดงก่ำอย่างรวดเร็ว เหงื่อที่ไหลถูกความร้อนทำให้กลายเป็นไอ
เขาไม่รอช้า เขาท่องบทดูดซับเปลวเพลิงดูดเพลิงผลาญธุลีในอึดใจเดียว!
การกระทำของจิวโมไป๋เสี่ยงอันตรายอย่างมาก เพราะเขาอาจถูกเปลวไฟเผาไหม้ทันทีได้ แต่เขารู้ธรรมชาติของเปลวเพลิงผลาญธุลีเป็นอย่างดี ถ้าเขามัวแต่ค่อยๆดูดซับมั่น ร่างของเขาจะกลายเป็นขี้เถ้าก่อน ยอมทรมานครั้งเดียว เพื่อลดความยากลำบากในการดูดซับเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
เพลิงผลาญธุลีถูกดูดเข้าไปในตำหนักยุทธเตาหลอม 9 สุริยัน เมื่อมันพบกับเพลิงนิรันดร์ เปลวเพลิงสีแดงน้ำตาลทองก็ลุกไหม้อย่างรุนแรง เพลิงนิรันดร์เหมือนถูกท้าทาย เปลวเพลิงสีเขียวเข้มลุกไหม้อย่างน่าพิศวง ในตอนนั้นเองทั้งสองเปลวเพลิงก็เปล่งความร้อนออกมาเผชิญหน้ากัน
ตำหนักยุทธทั้งหลังกรีดร้องออกมาอย่างน่ากลัว คลื่นความร้อนทำให้ทะเลปราณเกิดระรอกคลื่น