ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 449
ตู่บ่อชาพูดด้วยความมั่นใจ เขารู้ถึงความสำคัญของทรัพยากรในการบ่มเพาะพลังเป็นอย่างดี และไม่มีใครในหน่วยมังกรซ่อนไม่ต้องการเข้าหน่วยหลัก เพราะมันเป็นสถานที่ของชนชั้นสูง ไม่มีใครอยากพลาดโอกาสนี้ไปได้
จิวโมไป๋ที่ได้ยิน ก็นิ่งไปเล็กน้อย เขารู้ดีว่าหน่วยหลักคืออะไร
หน่วยลับมีรูปแบบในการทำงานคือรับภารกิจ บางภารกิจสามารถทำคนเดียวได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ก็มีหลายภารกิจที่ไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ จึงต้องสร้างทีมที่ช่วยกันทำภารกิจ
เมื่อเข้าร่วมทีมจะถูกเรียกว่าหน่วย การสร้างหน่วย ผู้สร้างจะต้องมีระดับมากกว่า 5 ดาว มีตำแหน่งร้อยตรี เขาจะกลายเป็นหัวหน้าหน่วย สามารถรับสมัครสมาชิกตั้งแต่ 1 ดาวขึ้นมาได้
แต่หน่วยเหล่านี้ถูกเรียกว่าหน่วยเสริม ไม่ได้เป็นหน่วยหลัก ที่เป็นหน่วยที่แข็งแกร็งที่สุดของหน่วยมังกรซ่อน
ปัจจุบันมีหน่วยหลักแค่ 3 หน่วยเท่านั้น
หน่วยหลัก จะต้องผ่านการทดสอบเพื่อที่จะเข้าร่วมหน่วย ผู้ที่สามารถผ่านได้ คือชนชั้นสูงของชนชั้นสูงในหน่วยลับ พวกเขาเป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง ยกเว้นคนที่มีเส้นสายบางคนที่สามารถเข้าหน่วยหลักได้
การเข้าหน่วยหลักจะได้รับสิทธิ์พิเศษมากมาย เช่นภารกิจที่พวกเขาจะได้รับ มีรางวัลมากกว่าภารกิจปกติ แม้ว่าความยากจะมากตามไปก็ตาม
จิวโมไป๋ดีหน้านิ่ง เขาไม่สนใจเข้าหน่วยหลักเลยซักนิดเดียว การเข้าหน่วยหลักไม่ได้ยาก อย่างที่คิด ถ้ามีความแข็งแกร่งเพียงพอ และประสบการณ์หลายปี เขาสามารถเข้าหน่วยหลักได้ง่ายๆ
แต่ที่เขาไม่อยากเข้าไป เพราะหน่วยหลักมีการต่อสู้แย่งชิงกันอย่างรุนแรง แผนการลับหลัง การใส่ร้ายลอบแทงข้างหลัง มีมากมาย ไม่ใช้แค่ระหว่างหน่วยหลักอื่นๆ แม้แต่ในหน่วยเดียวกันถ้าใครประมาทอาจถูกเพื่อนพร้องที่ต่อสู้ด้วยกันมานาน เล่นงานด้านหลัง ถ้าพลาดเบาๆอาจแค่ถูกไล่ออก อย่างหนักคือต้องติดคุกหรือเสียชีวิต
การต่อสู้ในหน่วยหลักพวกเขาต่อสู้เพื่อภารกิจ รางวัลที่ได้มากมายจนแทบสะกดความโลภไว้ไม่ได้
ในช่วงรุ่งเรืองที่สุด มีหน่วยหลักถึง 8 หน่วย แต่ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต หน่วยหลักอื่นถูกกำจัดจนเหลือแค่ 4 พวกเขาไม่ได้ถูกทำลายจากภายนอก แต่ต่อสู้กันเองจนตาย
แม้ภายหลังจะมีการปรับกฎเพื่อลดการต่อสู้ภายใน แต่ก็ลดได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น ผู้ที่สามารถอยู่รอด เป็นหัวหน้าหน่วยได้ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งทั้งการบ่มเพาะพลังและความฉลาดอย่างแท้จริง
จี้หยางเฟย ไม่เข้าหน่วยหลักเพราะเขาไม่ชอบเรื่องวุ่นวาย เขาสร้างหน่วยของตัวเอง และสร้างชื่อเสียงของหน่วยให้แข็งแกร่งยิ่งกว่าหน่วยหลัก
จิวโมไป๋แกล้งตีมึนส่ายหัวก่อนจะพูด
“ฉันไม่สนใจ”
ตู่บ่อชาชะงักเล็กน้อยเขาไม่คิดว่าจิวโมไป๋จะปฏิเสธอย่างเด็ดขาดอย่างนี้
ดวงตาของตู่บ่อชาพลันเปล่งประกายแฝงไปด้วยกลิ่นอายอันตราย
“นายคงไม่รู้ว่าหน่วยหลักคืออะไร เพราะถ้านายรู้คงไม่พูดอย่างนั้น…”
“ฉันรู้ แต่ฉันไม่ต้องการที่จะเข้า”จิวโมไป๋พูดขัดจังหวะ
ตู่บ่อชารู้สึกเสียหน้า กลิ่นอายอันตรายแผ่ออกจากร่างของเขา
ผู้ติดตามในชุดเขียวด้านหลังของตู่บ่อชา โกรธที่หัวหน้าถูกเด็กใหม่เมิน เขาเดินมาข้างหน้าและตะคอกเสียงดัง
“บัดซบ! เจ้าหนู แกรู้ไหมว่าหัวหน้าหัวหน้าของฉันคือใคร เขาเป็นนายน้อยตระกูลตู่แห่งเมืองหลวง และเขายังเป็นคนสนิทของหัวหน้าซานคุนหลง หัวหน้าหน่วยหลักที่ 1 และพี่ชายของหัวหน้าซานคุนหลงคือผู้บัญชาการซานคุนหมิง! แกมีโอกาสที่จะได้เป็นผู้ติดตามของหัวหน้าตู๋ แกรู้ไหมว่าแกโชคดีแค่ไหน ที่ได้รับคำเชิญนี้มา!”
จิวโมไป๋จ้องมองผู้พูดนิ่งๆด้วยสีหน้าราบเรียบ สมองคิดหาวิธีออกจากที่นี่
ตู่บ่อชาที่ได้ยินผู้ติดตามพูดก็ยืดตัวอย่างเย่อหยิ่ง แต่เมื่อเห็นท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาวของจิวโมไป๋ เขาก็โกรธอีกครั้ง พลังกดดันระดับ 7 ไขกระดูกปลายระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
พลังกดดันอันรุนแรงปะทะร่างกาย ใบหน้าของจิวโมไป๋เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาสัมผัสอะไรบางอย่างจากพลังกดดันของตู่บ่อชาได้ และเขารู้สึกว่าความแข็งแกร่งของตู่บ่อชาจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ว่าตู่บ่อชายังอ่อนแอเพราะการทานโอสนมากเกินไป แต่เหมือนว่าจะมีพลังงานบางอย่างในร่างที่ทำให้พลังของตู่บ่อชาหนักหน่วงแข็งแกร่งขึ้น
แต่เพราะร่างกายที่อ่อนแอ ทำให้ความแข็งแกร่งที่แฝงอยู่มีผลน้อยมาก
เขาพินิจมันเล็กน้อยก็จำได้ทันทีว่ามันคือผลของ ยาพันธุกรรม แต่ยาพันธุกรรมในร่างของตู่บ่อชา มีผลน้อยกว่าที่เขาเคยเห็น ทำให้มันไม่ทำร้ายร่างกายมากนัก แต่สรรพคุณของมันก็ลดลงเช่นกัน
จิวโมไป๋ขมวดคิ้วดวงตาเปล่งประกายวูบหนึ่งก่อนหายไป เขาคิดที่จะแจ้งคนของหน่วยลับว่าตู่บ่อชาได้รับยาพันธุกรรม ถ้าเขาแจ้งตู่บ่อชาจะต้องถูกจับไปตรวจสอบทันที
แต่เขารู้สึกว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น ในปัจจุบันหน่วยมังกรซ่อนมีเงามืดลอบแฝงตัวอยู่ไม่รู้เท่าไหร่ และตัวตนของตู่บ่อชาก็ไม่ได้ง่ายๆ ถ้าเขาแจ้งอีกฝ่ายอาจไม่ถูกจับ และเขาอาจถูกจับเป็นผู้ต้องสงสัยแทน ว่าเขารู้ได้ยังไงว่าตู่บ่อชาทานยาพันธุกรรม
ถ้าเขาถูกจับเขาไม่มีทางรอดได้เลย!
เขาได้แต่เก็บความคิดออกไป