ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 475 พบเซี่ยวหนานจิ้นและหลานซูเมิ่งอีกครั้ง
“นายน้อย คุณผู้หญิง”อาอี้ บอดี้การ์ดของเนี่ยฟูหานเข้ามา ก่อนที่เขาจะผายมือไปที่คนในชุดสูทสีดำ
“เขาคือคนขับรถ ที่คุณชายตระกูลจิงส่งมา เพื่อพาไปลานพนันหินครับ”
พวกเขาทั้งห้าจึงเข้าไปในรถ
ก่อนที่รถตู้สี่ดำจะขับไปนอกเมืองเทียนจิง ใช้เวลา 20 นาทีหลังจากออกจากตัวเมืองพวกเขาก็ไปถึงพื้นที่หน้าเหมืองแห่งหนึ่ง
หน้าทางเข้าเหมือง ล้อมด้วยรั่วไม้ง่ายๆ ภายในแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน ส่วนด้านข้างเป็นเต็นท์คนงานขุดเหมือง ที่กำลังทำงานปกติ ตรงใจกลางห่างจากปากทางเข้าเหมืองไม่ไกล มีหินพนันหยกหลายก้อน หลายขนาด วางบนพื้นที่ แบ่งเป็นส่วนๆ และอีกด้านเป็นพื้นที่ผ่าหินพนัน
ในเวลานี้ในลานมีคนจำนวนเกือบ 40 คน กำลังดูหินพนันหยกที่ขุดออกจากเหมืองสดๆร้อนๆ
พวกเขาทั้ง 5 คนลงจากรถ ก็ตกเป็นเป้าสายตาทันที พวกเขาทักทายลู่หว่านด้วยความกระตือรือร้น
ชายชุดดำที่พาพวกเขามา นำพวกเขาเข้าไปในลานพนันหิน
อาอี้คุ้มกันพวกเขาจากด้านหลัง
เมื่อเข้าไปในลานพนันหิน
สายตาของจิวโมไป๋มองไปยังปากเหมือง คิ้วของเขาก็ย่นเล็กน้อย ก่อนที่ดวงตาจะเป็นประกายสีทองดำวูบหนึ่ง
เนตรวิญญาณ
ภาพของถ้ำเหมืองยังคงเหมือนเดิม แต่มีกระแสพลังบางอย่างแผ่ซ่านออกมา
ดวงตาของจิวโมไป๋เป็นประกายวูบหนึ่ง
เหมืองหินกำเนิดปราณ!
จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสแผ่ขยายเข้าไป ก็พบว่าเป็นเหมืองหินกำเนิดปราณระดับต่ำจริงๆ
แต่มันอยู่ลึกไปด้านใน ด้านหน้าเป็นเหมืองหยกปกติ
จิวโมไป๋ตรวจสอบก็พบว่า ยังขุดไปไม่ถึงพื้นที่มีหินกำเนิดปราณ ดังนั้นยังไม่มีใครค้นพบหินกำเนิดปราณในเหมืองแห่งนี้!
เขาตรวจสอบจำนวนหินกำเนิดปราณคร่าวๆ ก็คาดเดาว่ามันน่าจะมีประมาณ 10,000 ก้อน เป็นเหมืองหินกำเนิดปราณขนาดเล็ก
ด้วยหินกำเนิดปราณจำนวนมากขนาดนี้ เขาสามารถสร้างผู้บ่มเพาะพลังชั้นสูงได้หลายสิบคน
จิวโมไป๋ดึงจิตสัมผัสกลับข่มความโลภของตัวเอง หาโอกาสว่าจะนำเหมืองนี้ มาเป็นของตัวเองได้หรือไม่
เขาหันหน้าออกมา ก็ไปเห็นลู่หว่านที่กำลังมองปากเหมืองพอดี เขาเห็นดวงตาของเธอมีประกายสีทองแดง
ปรมาจารย์ทองแดง!
จิวโมไป๋ชะงักไปเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าไม่เจอกันเพียงแต่ 7 วัน อาจารย์สาวของเขาก็กลายเป็นปรมาจารย์ และยังเป็นปรมาจารย์ทองแดงอีกด้วย!
ลู่หว่านรู้สึกถึงสายตาของจิวโมไป๋ เธอหันกลับมามองสบตากับจิวโมไป๋ ดวงตาของเธอแฝงไปด้วยความหมายบางอย่าง
จิวโมไป๋รู้สึกแปลกใจ เต็มไปด้วยความสงสัย
“จิวโมไป๋!”
เสียงหวานใสดังขึ้นกะทันหัน ดึงสติของจิวโมไป๋ เขาหันไปมอง ก็เห็นหลานซูเมิ่งและเซียวหนานจิ้นกำลังเดินเข้ามาพร้อมกัน ทั้งสองใส่เสื้อคู่ขาวขอบส้ม ทั้งสองมีใบหน้าหล่อเหล่าและงดงามราวเทพบุตรและเทพธิดา เมื่อทั้งสองอยู่ด้วยกัน ทำให้เกิดภูมิทัศน์อันงดงาม
หลานซู่เมิ่งเดินตรงมาหาจิวโมไป๋ด้วยท่าทางมีความสุข
“โมไป๋ ทำไมระยะนี้นายถึงไม่เข้าเรียนเลย รู้ไหมว่าอาจารย์หม่า ถามหานายหลายครั้งแล้ว เขาติดต่อนายไป ก็ติดต่อไม่ได้…”
จิวโมไป๋มองหญิงสาวอย่างเฉยชา
หลานซูเมิ่งสัมผัสถึงความเย็นชาจากจิวโมไป๋ เธอก็ชะงัก ดวงตาของเธอคลอด้วยประกายน้ำตาเล็กน้อย เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“นายยังโกรธเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ? ฉันขอโทษจริงๆที่เกือบทำให้นายเดือดร้อน”
ทุกคนที่มุงดูเห็นท่าทางอ่อนแอของหลานซูเมิ่งก็รู้สึกเห็นใจ พวกเขาชี้ไปที่จิวโมไป๋และกระซิบ
เซียวหนานจิ้นเดินมาข้างๆคนรัก มองจิวโมไป๋ด้วยแววตาดุดันเต็มไปด้วยพลัง พร้อมกับใช้พลังกดดันขั้นที่ 5 กระดูกปลายโถมเข้าใส่ร่างของจิวโมไป๋อย่างรุนแรง
“จิวโมไป๋! นายออกไปห่างๆจากหลานซูเมิ่งซะ!”
จิวโมไป๋ยืนนิ่งไม่สนใจพลังกดดันของเซียวหนานจิ้น แววตาของเขาฉายกลิ่นอายโหดเหี้ยมจางๆ
เซียวหนานจิ้น รู้สึกเย็นยะเยือก ก่อนที่เขาจะรีบสลัดความกลัวออกไป ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวเล็กน้อยด้วยความอับอาย และนึกย้อนกลับไปถึงตอนที่เขาแพ้ให้กับจิวโมไป๋ในการประลอง ความรู้สึกโกรธแค้นก็โหมกระหน่ำขึ้น เขาขยับจะเข้าโจมตี
ฟงอี้เฟยก็ปรากฏตัวขึ้นขวางซะก่อน
“นายเป็นใคร!”เซียวหนานจิ้นถามเสียงดัง
ฟงอี้เฟยมองเซียวหนานจิ้นด้วยหางตา
“นายไม่จำเป็นต้องรู้ นายรู้แค่ว่าอยู่ให้ห่างจากนายท่านของฉันก็พอ”
เมื่อได้ยินที่ฟงอี้เฟยบอก เซียวหนานจิ้นก็ยิ้มเยาะ
“เป็นแค่ผู้ติดตาม แต่กล้ามาพูดกับฉัน ผู้สืบทอดตระกูลเซียว รู้ไหมว่าคนอย่างพวกแก จะต้องจบลงอย่างไร?”
ฟงอี้เฟยมองเซียวหนานจิ้นอย่างไร้ความรู้สึก
หลานซูเมิ่งเดินมาดึงแขนของ เซียวหนานจิ้นและส่ายหน้าเบาๆ
เซียวหนานจิ้นสูดลมหายใจก่อนจะตั้งสติได้ เขาสถบในใจ ปกติแล้วเขาสามารถซ่อนอารมณ์ของตัวเองได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อเห็นจิวโมไป๋ เขาก็นึกไปถึงความอับอายที่เคยได้รับ ทำให้ระเบิดอารมณ์ ทำอะไรน่าอับอายออกมา เขาพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
ในตอนนั้นเอง จิงมู่ไท่ก็เดินมาจากด้านใน เขาทักทายลู่หว่านก่อนเป็นอันดับแรก
“ลู่หว่าน”
ลู่หว่านพยักหน้าอย่างห่างเหิน
จิงมู่ไท่ยิ้มเชื่องช้า ก่อนจะมองทุกคน ก็เห็นเซียวหนานจิ้นและจิวโมไป๋กำลังจ้องมองกัน บรรยากาศของพวกเขาอึดอัดอย่างมาก เขาก็หัวเราะในใจ ก่อนจะกล่าวขึ้น
“หนานจิ้น นายรู้จักคุณจิวโมไป๋ ด้วยเหรอ”เขาถามเหมือนไม่รู้
“พวกเราเป็นศิษย์มหาวิทยาลัยเดียวกัน”เซียวหนานจิ้นตอบอย่างอึดอัด
จิงมู่ไท่พยักหน้า ก่อนจะพาพวกเขาเข้าไปด้านใน
“นี้คือเหมืองของฉัน ที่เปิดใหม่เมื่อสามวันก้อน หินพนันจึงเป็นหินสดใหม่ ไม่มีการปลอมแปลงอย่างแน่นอน”จิงมู่ไท่อธิบายเหมืองของตัวเองอย่างใจเย็น
เซียวหนานจิ้นพาหลานซูเมิ่งไปเดินข้างๆของจิงมู่ไท่
จิวโมไป๋มองเซียวหนานจิ้นและจิงมู่ไท่ และครุ่นคิดในใจอย่างประหลาดใจ
ในอดีตตระกูลเซียว ไม่น่าจะรู้จักหรือเป็นพันธมิตรกับตระกูลจิง เพราะหลังจากที่หน่วยลับกวาดล้างครั้งใหญ่ ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ถูกทำลายไปด้วย
ตระกูลเซียวสามารถพัฒนาไปยังมิติอื่นๆในอนาคต แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่เกี่ยวข้องแน่ๆ
และธุรกิจของทั้งสองตระกูลไม่ยุ่งเกี่ยวกัน
แม้ทั้งสองตระกูลจะอยู่ในอุตสาหกรรมแร่เหมือนกัน แต่การทำกำไรก็ต่างกัน
ตระกูลจิงอยู่ในอุตสาหกรรมแร่หยก ที่เน้นไปในเรื่องเครื่องประดับ
ตระกูลเซียวอยู่ในอุตสาหกรรมแร่เหล็ก เน้นเรื่องสร้างอาวุธ หรืออุตสาหกรรมหนัก
ทำให้ทั้งสองตระกูลไม่ได้เป็นพันธมิตร คู่แข่ง หรือศัตรูกัน
จิวโมไป๋มองเซียวหนานจิ้นและหลานซูเมิ่งด้วยแววตาเห็นใจ ในตอนนี้ทั้งสองตระกูลร่วมมือกัน อาจเป็นเพราะเขาเอง ที่ส่งผลกระทบให้ทั้งสองตระกูลร่วมมือกัน
เขาไม่คิดเลยว่าจะทำให้ตระกูลเซียวเข้าร่วมกับองค์กรลับ และตระกูลหลานที่เกี่ยวดองกับตระกูลเซียวจะถูกลากเข้ามาด้วย
ถ้าการกวาดล้างเกินขึ้นตระกูลเซียวและตระกูลหลาน จะต้องถูกทำลายอย่างช่วยไม่ได้