ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 484
จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสแผ่ขยายออกเป็นวงกว้าง ตรวจสอบสิ่งก่อสร้างและผู้คนทั้งหมดโดยรอบ ระหว่างนั้นเขาก็เดินไปยังห้องน้ำ เขาจดจำตำแหน่งของยามรักษาความปลอดภัย ที่กระจายเป็นหลายกลุ่ม กลุ่มและ 3 คน พวกเขาผลัดกันเดินตรวจตรารอบเหมือง เพื่อป้องกันการลักขโมยหินพนันหยก ระดับความแข็งแกร่งของยามรักษาความปลอดภัยอย่างน้อยก็อยู่ขั้นที่ 3 เส้นเอ็น และมีหัวหน้ากลุ่มที่มีความแข็งแกร่งอยู่ขั้นที่ 5 กระดูก
ท่าทางของพวกเขามีความเป็นระเบียบเรียบร้อย รู้ได้ทันทีว่าพวกเขาถูกฝึกมาอย่างดี ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นพวกเขาพร้อมที่จะเข้าแก้ไขสถานการณ์ได้ทันที
จิวโมไป๋เข้าห้องน้ำ เขาเข้าห้องที่อยู่ใกล้หน้าประตู เขาปลดกำไลข้อมือออกวางไว้บนฝาชักโครก และหยิบกำไลข้อมือสำรองจากแหวนมิติเก็บของมาสวมแทน และทำการเชื่อมต่อสัญญาณติดต่อ
จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อผ้าและกางเกงที่ใส่อยู่ออก เปลี่ยนเป็นเสื้อและกางเกงขาสั้นสีดำแทน และเปลี่ยนรองเท้าบูท พร้อมกับสวมถุงมือหนังสีดำ และเขาก็ทำการปรับเปลี่ยนร่างกาย เขาทำให้ใบหน้าแก่ขึ้นเป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณ 30 ปี ใบหน้าคมเข้มแต่ธรรมดาสามัญ สวนสูงลดลง 165 ซ.ม. ร่างผอมแห้ง ผิวสีแทน
เมื่อปลอมตัวเรียบร้อย เขาก็ลอบออกจากห้องน้ำ พร้อมกับใช้พลังวิญญาณหยุดการทำงานของกล้องวงจรติดเพียง 2 วินาทีสั้นๆ เขาใช้เร่งความเร็ว อ้อมไปด้านหลังห้องน้ำไร้ผู้คน และเคลื่อนที่อย่างลี้ลับ หลบไปมาผ่านด้านหลังโรงอาหาร จนถึงทางโล่ง ระหว่างโรงอาหารไปอาคารที่พักคนงานเหมือง เขาหมอบไปตามพื้นหลบด้านหลังเศษซากหินพนันหยกที่ถูกผ่า พวกมันถูกทิ้งกองๆอยู่ขอบนอก เพื่อรอขนไปทิ้ง เขาใช้เศษซากหินพนันหยกหลบสายตาผู้คน
เมื่อพ้นลานโล่ง เขาก็หลบหลังเครื่องจักรเหมืองที่วางเอาไว้อย่างระเกะระกะ ผ่านไปยังที่พักของคนงานเหมือง
เขาเลือกห้องที่ใกล้ที่สุด ห้องนั้นได้ทำการล็อคเอาไว้อย่างแน่นหนา เขาใช้พลังวิญญาณปลดล็อคอย่างง่ายดายและเดินเข้าไป ในห้องเป็นห้องเล็กๆมี 4 เตียงสองชั้นสำหรับคน 8 คนนอน เตียงนอนเบียดกันอย่างแออัด แทบไม่มีที่ยืน เสื้อผ้าสิ่งของวางซุ่มๆไว้บนเตียง ไม่มีหน้าต่าง เครื่องปรับอากาศหรือพัดลม
กลิ่นเหม็นอบอวลเขาจมูก ทำให้จิวโมไป๋ย่นคิ้วเล็กน้อย เขาไม่พอใจกับความไร้ความปราณีของตระกูลจิง ที่ใช้แรงงานคนอย่างหนัก และไม่ให้สวัสดิการใดๆแก่คนงาน
ในยุคปัจจุบันการใช้แรงงานมนุษย์ ในการทำงานหนักลดน้อยลงมาก เพราะมีเครื่องมือที่ทำให้การทำงานที่ต้องใช้แรงกายง่ายขึ้น แต่ก็มีงานที่ต้องใช้มนุษย์ในการทำงานหนักอยู่ อย่างการขุดเหมืองหยก ที่ต้องใช้แรงงานจากมนุษย์มากกว่าเครื่องจักร เพราะการขุดหยกต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการขุด เพื่อที่จะไม่ทำลายหยกในระหว่างขุด
ทำให้คนงานขุดหยกจะได้รับค่าตอบแทนสูง
แต่จากสภาพห้องพักของคนงานเหมืองตระกูลจิง มันแออัด คับแคบ เหมือนมีไว้เพื่อนอนอย่างเดียว ไม่มีแม้แต่พื้นที่จะยืนหรือยืดตัว ห้องพักน่าอนาถ ยิ่งกว่าห้องขังนักโทษเสียอีก
เห็นได้ชัดว่าตระกูลจิง ใช้แรงงานคนงานเหมืองเหมือนทาส
ถ้าเรื่องนี้ถูกกระจายออกไป ชื่อเสียงของตระกูลจิง จะต้องถูกทำลานอย่างแน่นอน
แต่ด้วยอิทธิพลของตระกูลจิงในปัจจุบัน พวกเขาสามารถปกปิดได้อย่างไม่ยากเย็น
จิวโมไป๋ยกกำไลข้อมือขึ้นมาถ่ายรูป แม้ตอนนี้จะทำอะไรไม่ได้นัก เพราะตระกูลจิงมีอิทธิพลอย่างกว้างขวาง แต่เมื่อมีโอกาส เขาอาจจะได้ใช้มัน
จิวโมไป๋กวาดตามองไปยังเสื้อคนขุดเหมืองสีน้ำตาลเก่าๆ ดูแล้วไม่สามารถป้องกันอะไรได้เลย เขาหยิบมันขึ้นมาสวมอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หยิบยันต์แผ่นหนึ่งออกมาวางตรงที่เขาหยิบเสื้อคนขุดเหมืองขึ้นมา เมื่อเสร็จแล้ว เขาตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้ง ไม่พลาดทำอะไรตกหล่น ก็ออกจากห้องทันที ไม่ลืมล็อคประตูและใช้พลังวิญญาณ ทำให้เศษฝุ่นบนพื้นหรือแม้แต่ที่จับลูกบิดที่ถูกเหยียบและสัมผัส ให้กลับมาเหมือนเดิม เหมือนกับไม่มีใครเคยเดินผ่าน
เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เขาก็ลอบกลับไปพื้นที่ลานพนัน
ในเวลาเดียวกันการประมูลก็กำลังคึกคัก เนี่ยฟูหานตะโกนเสนอราคาแข่งอย่างไม่ยอมแพ้ ใบหน้าแดงก่ำ คู่แข่งของเขาคือเซียวหนานจิ้น ที่ดูเหมือนจะสงบกว่าแต่ใบหน้าเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมา
พวกเขาเสนอราคาประมูลแข่งกันโดยที่ไม่มีใครเข้าไปร่วมด้วย
จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบยามรักษาความปลอดภัย เมื่อปลอดสายตา เขาก็ออกจากที่ซ่อน แกล้งเป็นคนงานเหมือง เดินตามหลังคนงานเหมืองที่กำลังเข็นรถเข็นเข้าไปที่เหมือง
เขาเดินผ่านการเฝ้าระวังด้านหน้าเหมืองอย่างง่ายดาย แต่ในตอนนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาจากด้านหลัง ทิศทางที่ผู้คนกำลังพนันหินหยกกันอยู่ เขารีบใช้จิตสัมผัสมองไปด้านหลัง ก็เห็นลู่หว่านที่มองมาที่ร่างของเขา มุมปากของเธอยกยิ้มเล็กน้อย ดวงตาคู่งามเปล่งประกายระยิบระยับ
ร่างของเขาสั่นเล็กน้อย ก่อนจะรีบกลับมาสงบลง เขาสูดลมหายใจ เดินต่อไป ทำเป็นไม่รู้ว่าถูกมอง แต่เขามั่นใจว่าอาจารย์สาวต้องมองเห็นการปลอมตัวของเขาได้ มันไม่แปลกเลยที่เธอจะรู้ เพราะวิชาปลอมตัวของเขา ก็ถูกสอนมาจากอาจารย์สาว เธอจะสามารถมองผ่านได้ก็ไม่แปลกอะไร
เขาทำเป็นใจเย็นเดินเข้าไปในเหมือง อาจารย์สาวไม่บอกคนตระกูลจิง เขาก็เบาใจลง พร้อมกับสงสัยว่าอาจารย์สาวมีแผนอะไรหรือเปล่า