ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 505 นามบัตรลึกลับ (1650 คำ)
รูม่านตาของชายชุดดำหดเล็กลง มองต้นไผ่สีทองที่ฟาดเข้ามาความตกตะลึง ไผ่สีทองฟาดผ่านหอกของเขา และด้วยระยะอาวุธที่ยาวกว่า ทำให้ไผ่สีทองถึงร่างก่อน ฟาดเข้าที่อกอย่างจัง!
ผวัะ! ร่างของชายชุดดำกระเด็นออกไปหลายสิบเมตร เขากระพือปีกประคองร่างเอาไว้ได้ เกราะสีม่วงเกิดรอยแตกร้าวกลางอก เศษเกราะที่แตกออกกลายเป็นเลือดสีดำตกลงพื้น
ชายชุดดำมองลงลู่หว่านด้วยความโกรธแค้น และตกตะลึง เขาไม่คิดเลยว่าจะมีวิธีการใช้อวตารประเภทพืชแบบนี้!
ลู่หว่านไม่รีรอเสียเวลา เธอควงต้นไผ่สีทองยาว 5 เมตร ก่อนจะฟาดออกไป ในตอนนั้นเอง ใบไผ่ทั้งหมดนับพันใบก็หลุดออกจากกิ่ง และกระจายออกไปโอบล้อมพวกเขาทั้งสองคน
ใบไผ่สีทองยาว 15 ซ.ม. เปร่งประกายสีทองแพรวพราว ดูงดงามเลอค่า แต่กลิ่นอายอันแหลมคม ทำให้ใบไผ่สีทองเหล่านี้ดูเหมือนดาบนับพันที่กำลังลอยอยู่!
ใบหน้าของชายชุดดำพลันเปลี่ยนไป
ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง
ใบไผ่พุ่งทั้งหมด เข้าโจมตีชายชุดดำจากทุกทิศทาง!
คฤหาสน์ใจกลางเมืองเทียนจิง
ในห้องนั่งเล่น จิงมู่หยานเดินวนไปมา ด้วยความกระวนกระวาย บนโซฟาจิงมู่ไท่กำลังนั่งมองแผ่นโฮโลแกรมที่มีข้อความข่าวเลื่อนขึ้นไปด้วยความเร็วสูง ใบหน้าของเขามืดมนหนักอึ้ง แตกต่างจากตัวเขาในเวลาปกติอย่างสิ้นเชิง
“พี่ใหญ่ ท่านพ่อติดต่อมาหรือยัง”จิงมู่หยานหยุดเดินและหันมาถามพี่ชาย
จิงมู่ไท่นิ่งเงียบไม่ตอบ สายตาของเขา ไม่เคยออกจากแผ่นโฮโลแกรมเลยแม้แต่วินาทีเดียว
จิงมู่หยานเห็นพี่ชายไม่ตอบ เขาก็ร้อนใจ เดินไปมาสองรอบก่อนจะถามอีกครั้ง
“ได้ข้อมูลแล้วหรือยัง ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆ ถึงมีคนโจมตี ที่ซ่อนนักฆ่าจากองค์กรโลหิตนิรันด์ในเวลานี้”
จิงมู่ไท่ยังคงไม่สนใจน้องชายของตัวเอง สมาธิของเขาจดจ่อกับข้อมูลในแผ่นโฮโลแกรม เขาไม่ได้ยินที่จิงมู่หยานถามด้วยซ้ำ
“บ้าเอ๊ย! ได้ยินที่ฉันพูดหรือเปล่า รู้ไหมเป็นเพราะนายทำให้พวกเราอาจต้องตาย!”จิงมู่หยานโกรธจนสติหลุดเดินไปหาจิงมู่ไท่ เขายกหมัดขึ้นทำท่าจะชก
ติ๊ดๆ ก่อนที่จิงมู่หยานจะได้โจมตี เสียงสัญญาณติดต่อก็ดังขึ้น
จิงมู่ไท่กดรับสายทันที
ภาพโฮโลแกรมชายวัยกลางคนฉายขึ้น เขามองมาที่จิงมู่ไท่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ดวงตาไม่สามารถปกปิดความผิดหวังและเสียใจได้
จิงมู่ไท่เห็นดังนั้น หัวใจของเขาก็ตกวูบลง
ชายวัยกลางคนถอนหายใจออกมา ก่อนที่ดวงตาจะเปลี่ยนเป็นเย็นชา ไร้ความรู้สึก
“ตระกูลได้ลงมติแล้ว ว่าจะขับไล่ลูกทั้งสองคนและจิงปู้ฉาง ออกจากตระกูล”
“พ่อ! ผมไม่ได้มีส่วนรวมในการออกคำสั่งนะ ทั้งหมดเป็นเพราะจิงมู่ไท่ ทำไมผมถึงต้องถูกขับไล่ด้วย!”จิงมู่หยานตะโกนเสียงดังลั้น ใบหน้าของเขาขาวซีดด้วยความกลัว
ชายวัยกลางคนมองลูกชายคนที่สอง อย่างเฉยชา ก่อนจะมองจิงมู่ไท่
“ลูกอย่างได้โทษตระกูลที่โหดร้าย ความผิดพลาดในครั้งนี้ร้ายแรงเกินไป แม้ว่าตระกูลจะขับไล่พวกลูกออกไป ก็ยังได้รับผลกระทบอยู่มาก ความผิดของลูกในครั้งนี้ ทำให้ตระกูลจิงของเราอาจต้องสูญเสียการควบคุมเมืองเทียนจิงที่สืบทอดมาหลายร้อยปีไป”
“ผมเข้าใจแล้วครับ”จิงมู่ไท่ก้มหน้า ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ชายวัยกลางคนมองลูกชายทั้งสอง ที่สืบทอดสายเลือดของตัวเอง ก่อนจะตัดสายไปอย่างเด็ดขาด
“ไม่จริงงง!”จิงมู่หยานร้องตะโกนเสียงดังลั้น และลงมือทำร้ายสิ่งของโดยรอบ ก่อนจะหันมามองจิงมู่ไท่ด้วยแววตาบ้าคลั่ง
“เพราะพี่! พวกเราถึงต้องตาย!”จิงมู่หยานร้องคำรามก่อนจะหันหลัง วิ่งออกไป
จิงมู่ไท่มองน้องชายของตัวเองอย่างเย็นชา และยกมือนวดขมับ พูดตรงๆ ในตอนนี้เขากำลังสับสนอยู่เช่นกัน ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมแผนการที่เขาวางเอาไว้ ถึงพังลงก่อนที่เขาจะได้ทันสร้างเสร็จด้วยซ้ำ
แผนที่เขาวางเอาไว้ในตอนแรกคือ ส่งที่ซ่อนของนักฆ่าจากองค์กรโลหิตนิรันดร์ให้กับเนี่ยฟูหาน
เขารู้ว่าเนี่ยฟูหานกำลังตามจีบลูกสาวของอดีตนายกรัฐมนตรีฉินอยู่ ถ้าเนี่ยฟูหานได้ข้อมูลของนักฆ่า เขาจะต้องส่งไปให้ตระกูลฉิน เพื่อเอาหน้าอย่างแน่นอน เมื่อเป็นอย่างนั้น ตระกูลฉินจะต้องส่งคนมาค้นหานักฆ่า
ในระหว่างนั้น เขาจะปลอมแปลงหลักฐาน สร้างเรื่องให้เชื่อมโยงกับเหตุการณ์โจมตีรถไฟฟ้าความเร็วสูง
แม้หลักฐานจะมีข้อพกพร่อง แต่ด้วยอิทธิพลของพวกเขา สามารถทำให้ข้อพกพร่องเหล่านั้นน่าเชื่อถือขึ้น
ในระบวนการนี้ อาจต้องสูญเสียกองกำลังบางส่วนไป เพื่อให้หลักฐานดูแนบเนียน แม้จะเสียกำลังคนไป แต่มันก็คุ้มที่สามารถรักษากำลังส่วนใหญ่เอาไว้ได้
เมื่อนักฆ่าถูกจับหรือถูกกำจัด องค์กรโลหิตนิรันดร์จะต้องสืบสวนอย่างแน่นอน พวกเขาไม่สามารถทำอะไรตระกูลฉินได้ ดังนั้นพวกเขาจะต้องค้นหา ว่าใครคือผู้รายงานสถานที่ซ่อนของนักฆ่า ทำให้เนี่ยฟูหานกลายเป็นเป้าหมายของนักฆ่าทันที
พวกเขาจะต้องส่งคนไปกำจัดเนี่ยฟูหาน เพื่อล้างแค้น และอาจกำจัดคนที่อยู่รอบๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ยกเว้นลู่หว่านที่เป็นปรมาจารย์หยกอายุน้อยที่สุด และฟงอี้เฟยที่เป็นอัจฉริยะอันตับต้นๆของตระกูล พวกเขาทั้งสองได้รับการคุ้มครองจากตระกูล หรือกองกำลังอิทธิพลที่เกี่ยวข้อง ทำให้นักฆ่าไม่สามารถทำอะไรทั้งสองได้
แต่ เนี่ยฟูหานเป็นขยะไร้ค่า คุณชายเสเพลแห่งเมืองหลวง เขาไม่มีใครส่งกองกำลังคุ้มครองอย่างแน่นอน
และจิวโมไป๋ มีพื้นเพ มาจากครอบครัวธรรมดา ยกเว้นคนของหน่วยมังกรซ่อน ที่คุ้มครองครอบครัวสมาชิกหน่วยลับของเขา ก็ไม่มีกองกำลังใดๆ ช่วยเหลืออีก พูดได้ว่าจิวโมไป๋ตัวคนเดียวง่ายแก่การลอบสังหารมากกว่าเนี่ยฟูหานด้วยซ้ำ!
ถ้าจิวโมไป๋ถูกฆ่า สัญญาของเขากับฟงอี้เฟย จะถูกยกเลิกทันที
แผนการนี้ นอกจากจะปัดความผิดของการโจมตีรถไฟฟ้าความเร็วสูงออกไป ยังสามารถจัดการกับจิวโมไป๋ได้อีก
พูดได้ว่าแผนของเขาสมบูรณ์แบบ
แต่ในระหว่างการเตรียมหลักฐานปลอม ไปเกือบครึ่งทาง กำลังคนที่เขาจะเสียสละได้เคลื่อนย้ายตามคำสั่ง
อยู่ๆก็มีคน โจมตีสถานที่ซ่อนของนักฆ่าองค์กรโลหิตนิรันดร์อย่างกระทันหัน!
การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายรุนแรงอย่างมาก ทำให้พื้นที่เขตใต้เสียหายอย่างหนัก ผู้คนของรัฐบาลตั้งแต่เล็กขึ้นไปจนถึงระดับสูง ต่างจับตามองมาที่นี่
เพราะการจับตามองจากทุกฝ่าย ทำให้เขาไม่สามารถดำเนินการสร้างหลักฐานปลอมต่อไปได้ และเขาก็ไม่สามารถถอยกลับได้เช่นกัน เพราะในเวลานี้ ถ้าเกิดการเคลื่อนไหวผิดปกติขึ้น จะได้รับความสนใจทันที
เขาไม่มีทางไปต่อและไม่มีทางถอย และเขาไม่สามารถทำลายหลักฐานได้ ไม่ว่าทางไหน เขาจะถูกพบและถูกตรวจสอบทันที
แต่ถ้าเขาหยุด อาจยืดเวลาถูกตรวจพบไปได้ 1 วัน
ความผิดพลาดในครั้งนี้ เขาจะต้องถูกกำจัดไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หน่วยมังกรซ่อนสามารถตามสืบสวนมาจับเขาได้ องค์กรของเขาจะต้องส่งคนมาฆ่าเขาเพื่อกำจัดให้สิ้นซาก และนักฆ่าขององค์กรโลหิตนิรันดร์จะต้องลอบสังหารเขาเพื่อแก้แค้น
พูดได้ว่า การแทรกแทรงของกองกำลังที่ไม่รู้จัก ผลักเขาให้ตกลงไปในหลุมที่ตัวเองขุด!
เขาไม่มีทางรอดแล้ว ไม่แปลกเลยที่ตระกูลจะขับไล่เขาออกอย่างไร้เยื่อใย!
จิงมู่ไท่ถอนหายใจ เขาไม่โทษคนแทรกแทรง ที่ทำให้แผนเกิดความผิดพลาด เขาโทษตัวเองที่ประมาทเกินไป ถ้าเขาเร็วกว่านี้ซัก ครึ่งชั่วโมง หลักฐานปลอมถูกวางเอาไว้จนเสร็จ อนาคตจะเปลี่ยนเป็นอีกแบบนึ่ง!
แต่มันผ่านไปแล้ว ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้
จิงมู่ไท่ยืนขึ้นและเดินขึ้นไปห้องนอน เปิดลิ้นชักข้างเตียง หยิบซองจดหมายขึ้นมา และดึงนามบัตรออกมา เขายกนิ้วโป้งไปที่ปากและกัดที่นิ้วจนเลือดไหลออกมา เขาหยดเลือดไปที่นามบัตร
แสงสีทองส่องสว่างท่ามกลางความมืดมิด บนนามบัตรปรากฏตัวอักษรหนึ่งบรรทัด เป็นตัวเลขผสมกับตักอักษรโบราณ 18 ตัว ด้านหลังนามบัตรแสงสีทองค่อยๆถักทอ กลายเป็นรูปปีกนางฟ้าสีทอง 6 ปีก กำลังโอบล้อมไม้กลางเขน ใจกลางมีหยดเลือดสีทองเข้ม ที่กำลังเปล่งประกายราวกับกำลังลุกไหม้ เมื่อเส้นสายเชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์ นามบัตรก็ลุกไหม้ ถูกทำลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย
จิงมู่ไท่เดินออกจากคฤหาสน์ โดยไม่นำอะไรติดตัวออกไปทั้งสิ้น ร่างของเขาค่อยๆกลืนหายไปกับควาามมืดมิด
ห่างจากบริเวณการต่อสู้ไม่ไกล จิวโมไป๋ที่ปลอมตัวเป็นชายวัยกลางคน กำลังยกกระบี่เลือนเร้นที่เปื้อนเลือดขึ้น ด้านข้างมีร่างไร้หัวของมนุษย์หมาป่าสีน้ำตาล และมนุษย์มีปีกค้างคาวนอนจมกองเลือดอยู่
เขามองใบไผ่สีทองที่ลอยอยู่กลางอากาศ ด้วยความสนใจ