ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 512 คาดเดาเบื้องหลังการทรยศ
ได้ยินที่พ่อของเขาบอก จิวโมไป๋ก็ถอนหายใจ เขาสามารถคาดเดาได้เลยว่า ในอดีตตระกูลจิวต้องพบเจอกับอะไรบ้าง
เมื่อโลกเข้าสู่ยุคแห่งการบ่มเพาะพลัง ในช่วงเวลาสองปีแรก มันไม่ได้สงบสุขเหมือนปัจจุบัน ในตอนนั้นเกิดคลื่นใต้น้ำจำนวนมาก ก่อตัวรอที่จะกลายเป็นคลื่นยักษ์
กลุ่มกองกำลังทรงอิทธิพลต่างๆ พยายามขยายขุมกำลังของตัวเอง ทำให้เกิดการต่อสู้เข่นฆ่ากันในที่ลับและที่แจ้งแทบจะทุกวัน
แม้ในตอนนั้นเขาจะยังอายุเพียงแค่ 10 ปี เขาก็สามารถจำความวุ่นวายนั้นได้ เพราะสำนักข่าวออกอากาศข่าวโจมตีฝ่ายตรงข้ามไปมาตลอดทั้งวัน แถบไม่มีรายการบันเทิงอื่นๆเลย แม้เขาจะไม่ได้ดู เขาก็พอจะเห็นผ่านๆตาบ้าง
จากข้อมูลที่ได้จากอาจารย์สาวและพ่อของเขา ในตอนนั้นบรรพบุรุษตระกูลจิว ได้ปลุกความสามารถพยากรณ์ เขาสามารถทำนายโชคชะตา ทำนายอนาคต ทำให้ผู้คนสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายและสามารถทำให้มีโอกาสพบโชคลาภ
ในยุคสมัยอันวุ่นวาย บรรพบุรุษตระกูลจิวได้แสดงความสามารถบ้างส่วนออกมา เพื่อช่วยเหลือประชาชนธรรมดา ช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นช่วงเวลาอันยากลำบากไปได้ ชื่อเสียงของเขาโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นที่จับตามองของกองกำลังต่างๆ
แม้ว่าบรรพบุรุษตระกูลจิวจะปิดบังความสามารถ
แต่ด้วยเครือข่ายข่าวกอง ของขุมกำลังอันแข็งแกร่ง ไม่มีทางเลยที่จะซ่อนอะไรจากพวกเขาได้ พวกเขาสามารถรู้ถึงความสามารถในการพยากรณ์ของบรรพบุรุษตระกูลจิว
ในตอนนั้นระบบ Nuwa ยังไม่ถูกสร้างขึ้น ทำให้ไม่มีการคุ้มครองผู้มีความสามารถพิเศษ
เมื่อความสามารถพยากรณ์ถูกค้นพบ
บรรพบุรุษตระกูลจิวและตระกูลจิว กลายเป็นชิ้นเนื้ออันแสนอร่อย ที่ตกอยู่ตรงกลางการต่อสู้แย้งชิงของกองกำลังต่างๆ ที่จ้องจะฉีกพวกเขาเป็นชิ้นๆด้วยความโลภ แม้ตระกูลจิวจะเป็นตระกูลระดับกลาง ก็ไม่อาจต้านทานคลื่นลมอันโหดร้ายนี้ได้
แม้ว่าบรรพบุรุษตระกูลจิวจะมีความสามารถพยากรณ์ สามารถช่วยเหลือตัวเองให้รอดพ้นจากภัยพิบัติได้ แต่ในตอนนั้นเขาพึ่งปลุกความสามารถได้ไม่นาน ทำให้ความสามารถในการพยากรณ์ยังไม่แข็งแกร่งพอ ที่จะช่วยเหลือสมาชิกตระกูลทุกคน ให้หลีกเลี่ยงกลุ่มกองกำลังที่โลภมากได้
กองกำลังเหล่านั้น ไม่สามารถจับตัวบรรพบุรุษตระกูลจิวได้ แต่พวกเขาก็ไม่ยอมลามือง่ายๆ พวกเขาลอบลักพาตัวสมาชิกตระกูลจิว เพราะพวกเขาคิดว่า ผู้มีสายเลือดเดียวกัน น่าจะมีโอกาสที่ปลุกความสามารถเดียวกันได้
พวกเขาจับผู้มีสายเลือดในตระกูลจิวไปทดลอง ว่าจะสามารถปลุกความสามารถพยากรณ์ได้หรือไม่
แต่พวกเขาก็ต้องผิดหวัง ไม่มีสมาชิกตระกูลจิวสามารถปลุกความสามารถในการพยากรณ์ได้ พวกเขากลายเป็นศพเย็นชืดอย่างน่าเศร้า
สุดท้ายแล้วบรรพบุรุษตระกูลจิว ได้ขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล และเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลเพื่อหลบหนีจากกองกำลังต่างๆ
จิวโมไป๋ยกมือลูบคางโดยไม่รู้ตัว เขาสรุปการคาดเดาว่า การทรยศของบรรพบุรุษตระกูลจิว อาจเกิดจากความต้องการที่จะล้างแค้นให้กับสมาชิกตระกูลจิวที่เสียชีวิต
เมื่อได้ข้อสรุป เขาก็ขมวดคิ้ว เหมือนว่าเขาจะพลาดอะไรไป เขาคิดทบทวนอีกรอบ ก็พบว่าเหตุผลในการทรยศมันยังคงไม่สมเหตุสมผลนัก
ก่อนการทรยศ บรรพบุรุษตระกูลจิวได้กลายเป็นบุคคลระดับสูงของรัฐบาล เขามีอำนาจเด็ดขาดสามารถจัดการคนที่มีส่วนร่วมในการฆ่าสมาชิกตระกูลจิว ได้อย่างง่ายดาย
ดังนั้นมันจึงไม่มีความจำเป็น ที่จะทรยศประเทศ ไปใช้เส้นทางการล้างแค้นที่ยากลำบากขึ้นเลย
จิวโมไป๋ขมวดคิ้วแน่นขึ้นจนแทบชิดกัน เขาใคร่ครวญอีกครั้ง สมองของเขาพลันสว่างวาบ
เวลาที่บรรพบุรุษตระกูลจิว หลบหนีออกจากประเทศ คือหลังจากเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่นักวิจัย
นายกรัฐมนตรีฉินออกคำสั่งฆ่าสังหาร ทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวาย
ในเวลานั้น ครอบครัวของเขา เสียชีวิตจนหมด ส่วนตัวเขาถูกตระกูลเซียวไล่ล่า ต้องหนีหัวซุกหัวซุนเหมือนหนู
ในช่วงเวลานั้นอาจเกิดอะไรบางอย่างขึ้น มันทำให้บรรพบุรุษตระกูลจิวต้องออกจากประเทศไป!
น่าเสียดาย ที่เขาจะไม่มีวันได้รู้ตลอดไป ว่าในตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะอนาคตได้เปลี่ยนไปแล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ใบหน้าของจิวโมไป๋ยิ่งเปลี่ยนไป
“โมไป๋ ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า”ฮันหวูเหยาจับแขนจิวโมไป๋เขย่าเบาๆ
จิวโมไป๋ได้สติ เขาหันมายิ้มและส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรครับ พอดีผมกำลังคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา”
จิวโมเทียนและฮันหวูเหยามองลูกชายของพวกเขา ด้วยความเป็นห่วง พวกเขากลัวว่าจิวโมไป๋จะรู้สึกแย่ เมื่อได้รู้ว่าตระกูลจิว ถูกตระกูลชั้นสูงทำลาย
จิวโมไป๋ยิ้มปลอบบอกพวกเขาว่าไม่เป็นอะไร ก่อนจะพูดเปลี่ยนเรื่อง
“พ่อครับ พ่อถูกตัดขาดออกจากตระกูลแล้ว ทำไมพ่อถึงรู้ข่าวเกี่ยวกับบรรพบุรุษอีก มันน่าจะเป็นความลับไม่ใช่เหรอ”
จิวโมเทียนมองตาลูกชาย เห็นว่าไม่มีร่องรอยความโกรธแค้นใดๆอยู่เลย เขาก็ถอนหายใจและกล่าว
“ตอนนั้นลูกยังเด็ก ลูกอาจจะไม่ได้สนใจนัก ในตอนนั้นรัฐบาลยังไม่ควบคุมข่าวสารอย่างเข้มงวด ปู่ของพ่อ มีส่วนช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศไว้มาก แม้จะไม่ได้เป็นคนของรัฐบาล ประชาชนก็ให้ความสนใจเขามาก ทำให้ข่าวการลักพาตัวและเสียชีวิตของคนในตระกูลจิวโด่งดังมาก มีทฤษฎีสมคบคิดเกิดขึ้นมากมาย พ่อจะรู้เกี่ยวกับการล้มสลายของตระกูลจึงไม่แปลกอะไร”
จิวโมเทียนหยุุดคิดเล็กน้อยและส่ายหัวอย่างช้าๆ
“น่าเสียดาย หลังจากที่มีการใช้ ระบบNuwa ข่าวที่สร้างอิทธิพลไม่ดีให้กับประเทศจะถูกซ่อนเอาไว้ ทำให้ในตอนนี้ ไม่สามารถหาข่าวปู่ของพ่อได้อีก”
จิวโมไป๋พยักหน้าเข้าใจ ในตอนนั้นมีแต่ข่าวแย่ๆจำนวนมาก โดยเฉพาะข่าวการต่อสู้ของตระกูลชั้นสูง มันสร้างอิทธิพลที่ไม่ดีต่อประเทศจริงๆ
ในยุคก่อนยุคสมัยรุ่งอรุณ มีตระกูลชั้นสูงมากมาย ในเมืองเล็กๆ อาจมีตระกูลชั้นสูงมากกว่าสิบตระกูลขึ้นไป ร่วมมือกันปกครองและแย้งชิงส่วนแบ่งรายได้ แต่ในปัจจุบันตระกูลชั้นสูงเหลือน้อยมาก เมืองเล็กๆมีตระกูลชั้นสูงสองตระกูลก็เยอะมากแล้ว
เมืองเทียนซู เมืองระดับ 2 มีตระกูลชั้นสูง ตระกูลระดับสูงอยู่แค่ 3 ตระกูลเท่านั้น ตระกูลระดับต่ำลงมามีน้อยกว่าสิบตระกูล ถือว่าเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับอดีต
มันแสดงให้เห็นว่าในช่วงเวลานั้นเกิดการต่อสู้รุนแรงขนาดไหน ไม่แปลกเลยที่รัฐบาลจะซ่อนข่าวการเข่นฆ่าสังหารพวกนี้ จากประชาชนทั่วไป
จิวโมไป๋สูดลมหายใจลึกๆ ปลอบใจตัวเอง
อนาคตได้เปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่ต้องคิดถึง สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตอีก เขาแค่ดูว่าบรรพบุรุษตระกูลจิวจะทรยศอีกครั้ง และออกจากประเทศมังกรไปหรือไม่ ถ้าเขายังทรยศประเทศอีก มันจะต้องมีเบื้องหลัง คนนอกไม่สามารถหาคำตอบได้
เมื่อระงับกระหายหาคำตอบลง จิวโมไป๋ก็เปลี่ยนเรื่อง พูดคุยเกี่ยวกับบริษัทเนบิวลาแทน
จิวโมเทียนและฮันหวูเหยาเห็นลูกชายของพวกเขา สีหน้าผ่อนคลายขึ้น ไม่ได้โกรธแค้นหรือเป็นทุกข์ พวกเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ที่ลูกชายไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับตระกูลจิว