ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 1015 จงใจบ่อนทำลาย?
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 1015 จงใจบ่อนทำลาย?
ช่วงเช้าตรู่
ลู่โจวนั่งรับประทานขนมปังปิ้งและกาแฟอยู่ในร้านอาหารที่โรงแรมคอรินเทีย หลังจากที่เขาอ่านอีเมลจำนวนหนึ่ง เขาล็อกอินเข้า arXiv แล้วเปิดดูผลการวิจัยล่าสุดในด้านพีชคณิตตรีโกณมิติ แมนนิโฟลด์ความต่าง และทฤษฎีจำนวน
ช่วงนี้ชุมชนคณิตศาสตร์ค่อนข้างเงียบ ไม่มีใครโพสต์เรื่องที่น่าสนใจในฟอรั่มวิชาการมืออาชีพอย่างแมทโอเวอร์โฟล์ว การพูดคุยส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาวิชาการ แต่เกี่ยวกับการซุบซิบนินทาในแวดวงคณิตศาสตร์
ถึงแม้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่ถูกเชิญไปงานประชุม ICM นักคณิตศาสตร์ส่วนใหญ่ได้ติดตามการประชุมที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กอย่างใกล้ชิด
ระหว่างที่ลู่โจวกำลังอ่านโพสต์เกี่ยวกับการคาดการณ์เรื่องรางวัลเหรียญฟิลด์ มีชายรัสเซียผู้ซึ่งเหน็บแว่นกันแดดไว้ที่เสื้อถามเขามาจากฝั่งตรงข้าม “คุณช่วยผมสักอย่างได้ไหม วันนี้พยายามอยู่แต่ในโรงแรมได้ไหม?”
ลู่โจวเงยหน้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์และพูดขึ้น
“ทำไมล่ะ มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ?”
“ถ้าคุณอยากจะทราบจริงๆ ใช่ครับ มีเรื่องเกิดขึ้น” แม็กซิมเช็ดแว่นแล้วพูดต่อ “มีใครบางคนจารกรรมเข้าระบบกริดพลังงานเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและปล่อยโค้ดข้างใน จากข้อมูลโดยสำนักข่าวกรองความปลอดภัยระดับประเทศ มันเป็นการโจมตีที่วางแผนมาแล้ว”
ลู่โจวพูดตอบ “…มันจะไม่ถูกคาดการณ์มาก่อนได้อย่างไร?”
“คุณไม่เข้าใจที่ผมสื่อ” แม็กซิมยิ้มให้ลู่โจวและพูดต่อ “ผมบอกว่ามันอาจจะเป็นการโจมตีอย่างรอบคอบต่อคุณ”
บรรยากาศตึงเครียด
ทุกคนนิ่งเงียบ
มันเป็นครั้งแรก…
ลู่โจวรู้สึกว่าชีวิตของเขาโดนคุกคาม
ลู่โจวรู้สึกเริ่มคอแห้ง และเขายกกาแฟขึ้นมาดื่ม
ผ่านไปไม่กี่วินาที เขาวางแก้วกาแฟลงและพูดขึ้น
“…เอาตามตรง มันดูไม่ค่อยเป็นไปได้ มันก็แค่โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ล้มเหลว มันไม่ได้เป็นการโจมตีผมส่วนตัว”
การทำลายโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งโรงงานเพื่อแค่ทำร้ายฉัน…
โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฮีลอยส์ตั้งอยู่ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของรัสเซีย ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีฟิวชั่นที่ควบคุมได้สะอาดและปลอดภัย มันก็ยังเป็นเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์
ถ้ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น มันจะไม่ใช่แค่ประเด็นทางการเมือง
ลู่โจวไม่รู้สึกเซอร์ไพรส์ ถ้าจะมีสงครามเกิดขึ้น
“ผมคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศสำคัญมากกว่าสถานีพลังงานฟิวชั่นฮีลอยส์”
แม็กซิมสวมแว่นกันแดดและลุกขึ้นยืน
เขาจ้องลู่โจวผ่านแว่นและพูดว่า
“โดยสรุปแล้วดูเหมือนว่ามีคนจะเล่นงานคุณ เราไม่แน่ใจว่าพวกนั้นมีแผนตุกติกอีกหรือเปล่า ดังนั้นผมหวังว่าคุณจะอยู่ในโรงแรมนี้ พวกเราจะได้รับประกันความปลอดภัยให้คุณ 100% ที่นี่ ถ้าคุณเดินออกจากโรงแรม ตัวเลขจะลดลงเป็น 90% หรือ 80%
“ผมรู้” ลู่โจวพยักหน้าและมองดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ในระหว่างที่เขาพูดว่า “ถึงผมจะรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ผมก็จะพยายามทำกิจกรรมที่อยู่ภายในโรงแรม”
เขาไม่มีเจตนาที่จะเตร็ดเตร่ไปนอกการประชุม ICM
ถ้ามีคนจะมาเล่นงานเขา มันก็ดีกว่าที่เขาจะระมัดระวังตัวเอง
“นั่นเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย ผมมีเรื่องสำคัญต้องจัดการ ผมขอให้คุณมีวันที่ราบรื่น”
แม็กซิมโบกมือลาและเริ่มเดินจากไป
แต่เมื่อเขาเดินผ่านลู่โจว เขาเอี้ยวตัวลงและพูดเสียงเบา
“…มีหลายแหล่งที่มีสาวๆ ที่คุณน่าจะชอบ แต่ผมเกรงว่าเราคงต้องไปที่นั่นครั้งหน้า”
จู่ๆ ลู่โจวสำลักกาแฟ
ลู่โจวไอและวางแก้วกาแฟลง จากนั้นเขาเอาผ้ากันเปื้อนเช็ดปากและพูดขึ้น
“…ไม่ครับ ขอบคุณ”
“ฮ่าๆ อย่าเขินไปเลย เพื่อน ชีวิตมีค่ามากกว่าวิทยาศาสตร์นะ ถ้าไม่มีอุบัติเหตุนี้เราคงได้สนุกกันมาก แต่…ไว้ครั้งหน้าแล้วกัน”
แม็กซิมตบไหล่เขาและเดินจากไปพร้อมรอยยิ้ม
ข่าวการอิกนิชั่นของเครื่องปฏิกรณ์ฮีลอยส์ถูกดีเลย์ไม่ได้ส่งผลต่อผู้คนที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ปราฟดา ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่มีอำนาจมากที่สุดในรัสเซียทำเพียงแค่ข่าวเล็กที่พูดถึงเครื่องปฏิกรณ์ที่ด้านล่างของหนังสือพิมพ์ เนื้อข่าวกล่าวว่าการอิกนิชั่นเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นล่าช้าไปหนึ่งสัปดาห์เนื่องจากการประชุม ICM และเหตุผลด้านอื่นๆ
แต่คนที่ฝักใฝ่การเมืองสามารถรับรู้ได้ว่ามีอะไรผิดปกติ
มันดูเหมือนว่ามีพายุที่มองไม่เห็นก่อตัวเหนือเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและครอบคลุมไปถึงระบบพลังงานทั้งหมดของรัสเซีย…
หลังจากที่แม็กซิมออกจากโรงแรมโครินเทียไป นักวิชาการจากทั่วทุกมุมโลกเริ่มเดินทางมาถึงโรงแรมห้าดาว ซึ่งถูกเคลียร์ที่ไว้สำหรับงานประชุมคณิตศาสตร์นานาชาติ
ในความเป็นจริง คนส่วนใหญ่มาถึงในช่วงเช้า
ยกตัวอย่างเช่น อาจารย์ของลู่โจวที่พรินซ์ตัน ศาสตราจารย์เดอลีงย์ รวมไปถึงศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนที่ลู่โจวร่วมงานด้วยในเรื่องสมการนาเวียร์-สโตคส์ แล้วก็ฟาลติ้งต่างมาถึงโรงแรมกันแล้ว
ลู่โจวเพิ่งได้ยินเรื่องนี้ในตอนเช้า
แต่ลู่โจวไม่สะทกสะท้านโดยการมาถึงของศาสตราจารย์เดอลีงย์หรือศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมน สิ่งที่ทำให้เขาอึ้งคือใครบางคนที่ยืนอยู่หน้าล็อบบี้โรงแรมพร้อมกระเป๋าเดินทาง
ผมสีบลอนด์ของเธอถูกมัดเป็นทรงหางม้าซึ่งสะบัดพลิ้วที่กระโปรงยาวสีขาว ไหล่และรูปร่างของเธอดูแน่นมากขึ้นกว่าเมื่อสีปีก่อนหน้า
ลู่โจวเดินออกจากร้านอาหารและมุ่งตรงไปที่ลิฟต์บริเวณล็อบบี้ เขาจำเธอได้ในทันที
เวร่ารู้สึกเหมือนว่ามีใครจ้องมองเธออยู่ เธอหันไปรอบๆ แล้วสังเกตเห็นลู่โจว
“ศาสตราจารย์คะ…”
เสียงเบาของเธอมีความดีใจและเซอร์ไพรส์ปนอยู่ด้วย ดวงตาสีไพลินของเธอสว่างไสว
เธอปล่อยมือจากกระเป๋าเดินทางและวิ่งไปหาลู่โจว
เมื่อดูจากการเคลื่อนที่ของเธอ ถ้าเธอไม่วิ่งช้าลงเธอคงจะพุ่งชนลู่โจว
แต่การสัมผัสทางกายแบบนี้มันหนักเกินไปสำหรับหญิงสาว
เธอเข้าใกล้ลู่โจวมากขึ้นเรื่อยๆ และค่อยๆ วิ่งช้าลงท่ามกลางความประหม่า
เธอยืนอยู่ต่อหน้าลู่โจวและมีท่าทีขวยเขิน
จากนั้นเธอปัดผมแล้วพูดว่า “ไม่เจอกันนานเลยนะคะ…”
“ใช่ มันก็สักพักแล้วนะ…” ลู่โจวยิ้มและพูดว่า “คุณสบายดีไหม?”
“อื้ม…สบายดีค่ะ ไม่มีอะไรต้องห่วงเลย”
ถึงเวร่าตอบอย่างมั่นใจ ลู่โจวก็ยังรู้สึกกังวล
ลู่โจวกำลังจะถามต่อ แต่เขาได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงเดินกระแทกพื้นแกรนิต
“คุณทำให้เขากังวลมากยิ่งขึ้น”
ทั้งสองหันไปมองแล้วเห็นโมลิน่าเดินเข้ามาพร้อมกระเป๋าสองใบในมือ หนึ่งในนั้นเป็นกระเป๋าของเวร่า
ลู่โจวเจอกับโมลิน่าเมื่อปีก่อนที่จินหลิง เขาจึงรู้สึกว่าโมลิน่าไม่ได้เปลี่ยนไปมากเท่ากับเวร่า
สิ่งเดียวที่ต่างออกไปคือชุดโค้ทยาวของเธอถูกแทนที่โดยโค้ทสั้นสีเขียว
ผมสั้นสไตล์ทอมบอย เสื้อเชิ้ตสีขาวลายขวาง และกางเกงขายาวสีกากีทำให้เธอดูมีออร่าสาวปารีส
เวร่าหยุดครู่หนึ่งแล้วถามว่า “โอ้? ทำไมล่ะ?”
“ถ้าคุณมีปัญหาอะไรบอกเขาได้เลย ตอนนี้เขาเป็นคนดังแล้ว แล้วคุณก็เป็นลูกศิษย์ของเขา เขาช่วยคุณได้แน่นอน”
“ไม่ ฉันสบายดีจริงๆ… ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”
เวร่าหยิบกระเป๋าของตัวเองและพูดพึมพำขอบคุณ จากนั้นเธอรีบเดินตรงไปที่ลิฟต์ โดยลืมพูดบอกลาลู่โจว
ลู่โจวมองดูเวร่าเดินตรงไปที่ลิฟต์ และเขาจับตัวโมลิน่าไปที่มุมด้านข้างและถามอย่างเคร่งเครียด “คุณเป็นเพื่อนร่วมทีมของเธอไม่ใช่เหรอ? คุณไม่รู้เกี่ยวกับเธอเลยได้อย่างไร?”
“เพื่อนร่วมทีมไม่เปิดเผยต่อฉันเท่าไหร่ แล้วก็ คุณคิดจริงๆ หรือว่าฉันจะบอกความลับของผู้หญิงโดยไม่ได้ขอเธอก่อน?”
โมลิน่ากลอกตามองลู่โจวแล้วเดินถือกระเป๋าตรงไปที่ลิฟต์
ลู่โจวเริ่มคิด
ทันใดนั้นเขาได้ยินอีกเสียงที่คุ้นเคย
“ศาสตราจารย์!”
ลู่โจวหันหัวไปเห็นชายหนุ่มผิวสีแทนที่มีผมหยักศก ชายคนนี้ควงแขนสาวละตินมาด้วย
ลู่โจวนึกไม่ออกในทันทีว่าชายผู้นี้คือใคร
“ว่าไง ศาสตราจารย์ ผมฮาร์ดี้ไง! คุณคงไม่ได้ลืมผมแล้วใช่ไหม?”
“ผมรู้ว่านี่คือคุณ ผมแค่ต้องใช้เวลาประมวลผลข้อมูลบางอย่าง…”
ลู่โจวมองดูสาวละตินสวยงามและพูดว่า “คุณ…แต่งงานแล้ว?”
ฮาร์ดี้ยิ้มและพูดตอบ “แน่นอนครับ! มันก็หลายปีมาแล้ว ผมแก่ขึ้นทุกวัน ตอนนี้ผมเป็นศาสตราจารย์แล้ว ไม่ตอนนี้ก็ไม่มีโอกาสแล้ว มันเลยเป็นแบบนี้”
ลู่โจว “…”
เด็กคนนี้ทำไมเขาถึงติดพูดซ้ำซ้อนที่ท้ายประโยคตลอดเลย
ผมรู้ว่าผมไม่ควรให้เขาสำเร็จการศึกษาเร็วขนาดนี้
ฮาร์ดี้สามารถบอกได้ว่าลู่โจวรำคาญเล็กน้อย หลังจากที่พูดคุยสัพเพเหระกัน เขาพาภรรยาใหม่เดินตรงไปที่ลิฟต์
มันดูเหมือนว่าพวกเขาแต่งงานเมื่อสองเดือนก่อน และมาที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเพื่อเข้าร่วมประชุม ICM รวมทั้งไปฮันนีมูนด้วยกัน
เหตุผลที่สองคนนี้รวมฮันนีมูนเข้ากับการประชุม ICM คือทางสถาบันจะชดเชยค่าใช้จ่ายในการเดินทางแล้วยังให้เงินค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวอีกจำนวนหนึ่ง
หลังจากที่เข้าร่วมการประชุม ICM พวกเขาจะบินไปอิตาลีและกรีซ
ฮาร์ดี้เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ลู่โจวรู้ว่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้…
นอกจากฮาร์ดี้ ลู่โจวก็เห็นฉินเยว่ที่ล็อบบี้โรงแรม
ฉินเยว่เปลี่ยนไปค่อนข้างมากในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา
ตอนแรกที่ฉินเย่วมาพรินซ์ตัน ลู่โจวจำได้ว่าเขาเป็นคนที่ขี้อายแต่ซื่อสัตย์ ในตอนนี้ฉินเยว่ดูกล้าแสดงออกมากขึ้น ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขาไว้วางใจได้
ลู่โจวดีใจที่เห็นนักเรียนของเขาเติบโต
สิ่งเดียวที่ทำให้เขากังวลเล็กน้อยคือสุขภาพของเวร่า…
หวังว่ามันจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่
แต่ลู่โจวรู้สึกว่าเวร่าไม่ได้บอกความจริง
………………………………………………