ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 1025 งานประชุม ICM
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 1025 งานประชุม ICM
งานประชุมคณิตศาสตร์นานาชาติปีนี้เป็นปีที่หรูหราที่สุดแน่นอน
แต่มันก็ยังเป็นปีที่มีปัญหามากที่สุดเช่นกัน
ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นระหว่างการรายงาน 45 นาที
นอกจากนี้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเวร่า พุลยุย ผู้ชนะรางวัลเหรียญฟิลด์…
เฮลเกอร์ โฮลเดน เลขาธิการแห่งสมาพันธ์คณิตศาสตร์นานาชาติรู้สึกรำคาญพวกนักข่าวหิวเงิน
“ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น…ให้ตายเถอะ ทำไมต้องเป็นเธอด้วย?”
ประตูออฟฟิศของเขาถูกเปิดออก และศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนเดินเข้ามาโดยสวมเสื้อโค้ท
ศาสตราจารย์โฮลเดนเงยหน้าขึ้นและพูดในทันที
“คุณพุลยุยอาการเป็นอย่างไรบ้าง?”
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนส่ายหน้าและพูดอย่างเคร่งเครียด “ดูเหมือนว่าเธอฟื้นมาหลายครั้ง แต่สถานการณ์ไม่ดีเลย รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขได้เชิญผู้เชี่ยวชาญระดับนักวิชาการจากโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในมอสโกมา แต่เมื่อมันเป็นเรื่องโรคมะเร็ง…โดยเฉพาะมะเร็งปอดร้ายแรง ผลการตรวจไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าประโยคสั่งตาย พวกรัสเซียวางแผนที่จะย้ายคุณพุลยุยไปที่โรงพยาบาลอื่นต่อ”
“ไปที่โรงพยาบาลอื่น? ไปไหนล่ะ?”
“น่าจะไปที่ปักกิ่ง”
“จีน?” โฮลเดนนิ่งไปชั่วครู่และพูดว่า “มีโรงพยาบาลที่ดังด้านการรักษามะเร็งในจีนเหรอ? มันจะโอเคใช่ไหม?”
“เพื่อน มันไม่มีโรงพยาบาลไหนในโลกที่สามารถรักษามะเร็งปอดร้ายแรงได้” ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนถอนหายใจและพูดว่า “พวกคนอเมริกันก็ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นมันไม่ได้สำคัญว่าเธอไปไหน เธอจะได้รับการรักษาระดับเท่าเดิม มันจึงดีกว่าที่ให้เธอได้รู้สึกสบายในช่วงวันที่เธอเหลืออยู่…”
มันคงจะดีถ้ามะเร็งถูกตรวจพบก่อนหน้านี้ แต่ดูเหมือนว่าเวร่าถูกตรวจพบว่ามีมะเร็งร้ายแรงเมื่อปีก่อน ตอนที่เธอได้ค้นพบมันเป็นครั้งแรก
กรณีนี้คล้ายกับผู้ป่วยจำนวนมากที่ทุกข์ทรมานกับโรคร้ายนี้
แต่เธอไม่ได้ยอมแพ้เมื่อช่วงปีที่แล้ว เธอยังทำงานของเธอและใช้ชีวิตแต่ละวันอย่างมีความหมายและเป้าหมาย สิ่งนี้ได้ทำให้เฟฟเฟอร์แมนรู้สึกประหลาดใจ
การยอมรับความเป็นจริงไม่ใช่เรื่องง่าย มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นคนฆ่าตัวตายหลังจากได้รู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย
เฟฟเฟอร์แมนรู้ว่าเขาคงไม่สามารถรอดชีวิตได้อย่างเวร่าในตอนที่เขาอายุน้อยกว่านี้
ถ้าเขารู้ว่าเขามีเวลาใช้ชีวิตอีกแค่หนึ่งปี เขาอาจจะไม่เลือกฆ่าตัวตาย แต่เขาคงไม่รู้สึกมีความหวังหรือมองชีวิตในแง่บวกอย่างแน่นอน
ไม่ว่าคณิตศาสตร์น่าสนใจขนาดไหน และไม่ว่าเขามีแพชชั่นต่ออาชีพมากแค่ไหน เขาก็จะไปลองทำสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาก่อน บางทีอาจจะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย…
แต่เธอไม่ได้ทำแบบนั้น
ไม่ใช่แค่นั้น คนรอบตัวเธอแทบไม่ได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเธอระหว่างที่เธอยังทำงานต่อ
ตอนแรกเขาคิดว่าเธอเป็นแค่หญิงสาวที่อายและรักสันโดษ
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอแข็งแกร่งและมุ่งมั่นมากกว่าที่เขาคิดไว้
ศาสตราจารย์โฮลเดนเลิกคิ้วขึ้น
“หมายความว่าอย่างไร?”
แม้ว่าศาสตราจารย์รู้ตื้นลึกหนาบางระหว่างเวร่ากับลู่โจว เขาก็จะไม่เล่าให้โฮลเดนฟัง เขาจึงยักไหล่และพูดว่า
“ไม่มีอะไรครับ ผมแค่คิดว่าวิวที่นั่นสวยดี เธอน่าจะรู้สึกดีตอนอยู่ที่นั่น เราก็น่าจะส่งเธอกลับไปที่ยูเครนไม่ได้ พ่อวัยกลางคนที่ขี้เมาและหย่าร้างมาคงจะไม่ดูแลเธอ”
ศาสตราจารย์โฮลเดนคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านครอบครัวของเธอที่ไม่ดีเท่าไหร่และถอนหายใจ
“เมื่อคุณพูดแบบนั้น…”
ผู้ช่วยของเขาเดินเข้ามา
“ศาสตราจารย์ งานประชุมจะจบลงในสองวัน แล้วโรงแรมโครินเทียถามว่าเรามีแผนจัดการกับห้องบรรยายหมายเลข 7 อย่างไร”
ศาสตราจารย์โฮลเดนนิ่งไปชั่วครู่และพูดว่า “…ให้พวกเขาจัดการกับมัน”
เอาจริงแล้วเหตุนี้ไม่ใช่คดีอาชญากรรม ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องปิดกันสถานที่
สาเหตุที่ทำแบบนี้เป็นเพราะว่าพวกเขาไม่อยากให้บรรยากาศโศกเศร้าของห้องบรรยายส่งผลต่องานประชุมคณิตศาสตร์นานาชาติที่ดำเนินอยู่ พวกเขาอยากจะลดความเสียหายให้ได้มากที่สุด
ตอนนี้การรายงานเสร็จสิ้นแล้ว มันเป็นเรื่องดีกว่าที่ปล่อยให้ทางโรงแรมจัดการ
ผู้ช่วยพูดว่า “คือว่าศาสตราจารย์ คุณมีกุญแจอยู่ใช่ไหม?”
“กุญแจ?” ศาสตราจารย์นิ่งไปชั่วครู่และพูดว่า “ผมไม่เคยพกกุญแจเกินสามดอก ผมคิดว่าคุณมีกุญแจห้องบรรยาย หมายเลข 7”
ผู้ช่วยนึกอะไรออกแล้วพูดอย่างกังวลใจ
“เมื่อห้าวันก่อนศาสตราจารย์ลู่มาหาผมแล้วขอให้ผมพาเขาไปห้องบรรยาย หมายเลข 7 หลังจากที่ผมพาเขาไปที่ห้อง เขาขอยืมกุญแจจากผมแล้วบอกว่าจะเอากุญแจไปคืนคุณทีหลัง”
“ศาสตราจารย์ลู่เอากุญแจไปจากคุณเหรอ? ผมจำไม่ได้ว่าเขาคืนกุญแจให้กับผม” ศาสตราจารย์โฮลเดนขมวดคิ้วและลุกขึ้นยืนในระหว่างที่เขาพูดว่า “เดี๋ยวก่อน ผมจะไปตรวจเช็กดู”
ถึงแม้ว่าการยืมกุญแจไม่ใช่เรื่องใหญ่ เขาก็อยากรู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนมองดูศาสตราจารย์โฮลเดนเดินออกจากออฟฟิศ แล้วเขารีบเดินตามไป
“ผมจะไปด้วย”
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนและศาสตราจารย์โฮลเดนเดินผ่านโถงแล้วมาถึงห้องบรรยาย หมายเลข 7 ในอีกไม่นาน ศาสตราจารย์โฮลเดนเคาะประตูและพบว่าประตูไม่ถูกล็อก
หลังจากที่เขาลังเลอยู่สักพัก เขาเอื้อมมือไปเปิดประตู
ประตูเผยอออกอย่างเงียบๆ มีลมพัดตามมา
คนที่นั่งอยู่ข้างในนั่งอยู่ที่นี่มานานแล้ว
ศาสตราจารย์โฮลเดนมองดูลู่โจวที่นั่งอยู่บนโพเดียม ทันใดนั้นเขาสังเกตเห็นไวท์บอร์ดแปดกระดานบนเวที
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนสังเกตเห็นเช่นกัน
เขาจ้องมองไวท์บอร์ดอย่างไม่เชื่อสายตา เขามองดูบรรทัดสรุปบนไวท์บอร์ดกระดานสุดท้ายและกระเดือกคอ
“คุณ…พิสูจน์มันแล้ว?”
“ประมาณนั้น ถึงมันไม่ได้ง่ายแบบที่เซอร์อติยาห์บอกไว้ และผมไม่แน่ใจว่ามีคนเข้าใจมากแค่ไหน แต่..ผมไขมันสำเร็จแล้ว ผมมั่นใจ”
ลู่โจวหันไปมองศาสตราจารย์โฮลเดนและศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนซึ่งทั้งสองอึ้งไปหมด
“แล้วก็พวกคุณเอาแซนด์วิชมาให้ผมหน่อยได้ไหม?
ผมค่อนข้างหิวมาก คุณเอามาสองชิ้นเลยได้ไหม?”
……………………………………………………………….