ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 1031 อนาคตของทฤษฎีจำนวน
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 1031 อนาคตของทฤษฎีจำนวน
บนเวที
ไวท์บอร์ดเจ็ดกระดานถูกเขียนจนเต็ม!
ไวท์บอร์ดกระดานที่แปดถูกลากขึ้นมาบนเวที ไม่ต้องสงสัยว่าลู่โจวจะทำการพิสูจน์สำเร็จ
การคำนวณและความคิดกระจ่างของเขา รวมไปถึงความเข้าใจลึกซึ้งในเครื่องมือคณิตศาสตร์นั้นน่าประทับใจสำหรับทุกคนในกลุ่มผู้ชม
ใครจะไปรู้ว่าโจทย์ฟังก์ชันเชิงซ้อนสามารถซับซ้อนได้ขนาดนี้
แนวคิดของระนาบเชิงซ้อนและแมนิโฟลด์ที่แตกต่างได้ดูเหมือนเป็นสิ่งที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่พวกมันถูกรวมโดยฟังก์ชันซีตาของรีมันน์
ปากกาของลู่โจวเป็นเหมือนกระบองของบีโธเฟน จำนวนเฉพาะที่ไม่เป็นระเบียบมีชีวิตขึ้นมาซึ่งสร้างเพลงให้กับกลุ่มผู้ชม
เหมือนกับที่ชูลทซ์เพิ่งพูดไป มันดูเหมือนกับว่าสิ่งนี้มาจากอีกจักรวาล มันไม่ได้เป็นสิ่งที่มาจากโลกนี้
กลุ่มผู้ชมหวังว่ารายงานจะไม่มีวันจบ
พวกเขาอยากให้ลู่โจวรายงานต่อจนกระทั่งความลับของจักรวาลทั้งหมดถูกเปิดเผยออกมา
โมลิน่านั่งอยู่ในกลุ่มผู้ฟังระหว่างที่เธอกัดปากและกำหมัดแน่น แววตาของเธอเต็มไปด้วยความดื้อรั้น
ปัญหาที่ก่อกวนใจเธอมาหลายปีดูไม่สำคัญอะไรสำหรับลู่โจว ลู่โจวไม่ได้หยุดคิดแม้แต่วินาทีเดียว เขาเขียนต่อไป
ความรู้สึกไร้พลังทำให้เธออารมณ์เสีย
ถึงแม้ว่าเธอไม่มีความสามารถพอที่จะสรุปได้ว่าการพิสูจน์ถูกต้องหรือไม่ เมื่อดูจากบรรยากาศในห้องบรรยาย ผลลัพธ์นั้นชัดเจน
สุดท้ายแล้วความรู้สึกของการตื่นรู้นั้นชัดเจน
แม้แต่ตัวเธอเองก็เชื่อว่าลู่โจวถูกต้อง…
โซฟี โมเรล อดีตอาจารย์นั่งอยู่ข้างโมลิน่า ซึ่งเธอเป็นศาสตราจารย์คณิตศาสตร์ โซฟีมองดูอดีตลูกศิษย์และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ในความเห็นของฉัน มีโอกาส 80% ที่เขาถูกต้อง…เธอวางแผนจะทำอะไร?”
โมลิน่านิ่งไปสักพักและก้มมองลง
“ฉันไม่รู้สิ อาจจะกลับไปพักที่บ้าน”
เธอใช้เวลาสิบปีที่ผ่านมาในการพยายามแก้ไขโจทย์นี้
ถึงแม้เธอไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็นกับตา ความเป็นจริงมักโหดร้าย
เธอพ่ายแพ้
โซฟีถอนหายใจและพยายามปลอบโมลิน่า
“เธอไม่ควรรู้สึกแย่กับตัวเองมากเกินไป มันมีโจทย์อีกมากที่คู่ควรกับแก้”
โมลิน่านิ่งไปชั่วครู่และพูดขึ้น
“อาจจะ”
…
มันถูกต้อง
มันไม่มีความลุ้นระทึกเลย
เมื่อไวท์บอร์ดกระดานที่แปดถูกเขียน ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์หรี่ตา
เวลาตอนนั้น…
มันเหมือนกับประตูเปิดออกในใจเขา เขากำลังเห็นโลกใบใหม่ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน…
เขาลืมไปแล้วว่าได้รู้สึกแบบนี้ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่
เขาจำได้แค่ว่ามันนานมากแล้วในสมัยที่ก็อดเทอดิ๊กยังมีชีวิตอยู่ สมัยที่เขาเขียนจดหมาย ‘ไร้เดียงสา’ ไปหาราชาแห่งพีชคณิตเรขาคณิต…
ศาสตราจารย์เดอลีงย์นั่งอยู่ข้างเขา เดอลีงย์มองดูไวท์บอร์ดอย่างละเอียดถี่ถ้วน
จู่ๆ เขาถามขึ้นว่า “คุณคิดว่าเขาทำไปแล้วใช่ไหม?”
ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ไม่ได้ตั้งตัว เขารวบรวมสติและตอบอย่างกลางๆ
“ผมมั่นใจ 90%”
ศาสตราจารย์เดอลีงย์ยิ้มและถามว่า “คุณเริ่มพูดโดยมีความไม่ชัดเจนในใจตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ฟาลติ้งส์ไม่ได้สนใจมุกตลกที่เพื่อนเก่าพูดขึ้น เขาพูดอย่างใจเย็น “สุดท้ายแล้วมันเป็นสมมติฐานของรีมันน์ เราจึงต้องระมัดระวัง แล้วก็คุณคิดอย่างไรล่ะ?”
ศาสตราจารย์เดอลีงย์นิ่งไปชั่วครู่และพูดขึ้น
“ผมไม่สามารถหาตัวอย่างที่มาล้มล้างทฤษฎีของเขาได้ เหมือนกับที่ผมไม่สามารถหารากที่ไม่ชัดแจ้งนอกเหนือเส้นคริติคอล…”
ศาสตราจารย์เดอลีงย์พูดอย่างมั่นใจ
“ผมบอกได้แค่ว่าข้อพิสูจน์ของเขามีตรรกะต่อเนื่อง”
ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ดูเซอร์ไพรส์เล็กน้อย
ถึงแม้ว่าฟาลติ้งส์ไม่ได้พูดอะไร เดอลีงย์รู้ว่าฟาลติ้งส์กำลังคิดอะไร
การต่อเนื่องทางตรรกะนั้นหมายความว่าข้อพิสูจน์ถูกต้อง…
ผู้คนที่นั่งที่อีกฟากหนึ่งของห้องบรรยายก็กำลังพูดคุยกัน
เมื่อเฟฟเฟอร์แมนเห็นลู่โจวเขียนสูตรที่สำคัญลงไป เขาหันไปหาเถาเจ๋อเซวียนและถามว่า “คุณเชี่ยวชาญในด้านทฤษฎีจำนวนมากกว่า…คุณคิดเห็นอย่างไรบ้าง?”
ศาสตราจารย์เถามีประกายความตื่นเต้นในดวงตา แต่ก่อนที่เขาจะพูดได้ ชายที่นั่งอยู่ใกล้เคียงลุกขึ้นด้วยความตื่นเต้นและพูดว่า
“นั่นไง!”
ชายคนนั้นไม่สนใจแววตาเหยียดหยามจากนักวิชาการที่นั่งอยู่รอบเขา
ชายคนนี้เหมือนอยู่ที่เกมฟุตบอลมากกว่าที่งานประชุมคณิตศาสตร์
เถาเจ๋อเซวียนมองดูศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนและยักไหล่
“ดูเหมือนว่า…มีคนตอบคำถามแทนผมแล้ว
“ผมรู้สึกเหมือนกับเขา”
…
แถวสุดท้ายของการคำนวณถูกเขียน
ปากกามาร์กเกอร์ถูกวางลง
ห้องบรรยายตอนนี้กลับเงียบสงัด
ไม่มีเสียงใดดังขึ้นที่ห้องบรรยาย
ลู่โจวก้าวถอยหลังสองก้าวและมองดูการคำนวณบนไวท์บอร์ดที่เขียนอย่างเรียบร้อย เขาใช้เวลาเกือบสามสิบวินาทีในการรำลึกถึงการเดินทางของเขา รวมถึงก้าวที่เขาเลือกเพื่อให้เขามาถึงที่ที่เขาอยู่ในวันนี้…
การกระทำนี้ทำให้กลุ่มผู้ฟังมีโอกาสได้ย่อยข้อมูล
ลู่โจวกระแอมแล้วหันไปหากลุ่มผู้ชมและพูดว่า
“เราได้พบการแจกแจงของรากที่ไม่ชัดแจ้งบนฟังก์ชันซีตาของรีมันน์ ซึ่งรากที่ไม่ชัดแจ้งทั้งหมดของฟังก์ชันซีตาของรีมันน์บนระนาบเชิงซ้อน Re(s) = 1/2 อยู่บนเส้นตรง
การพิสูจน์เสร็จสิ้น แต่ว่าการเดินทางเพิ่งเริ่มขึ้น ยังมีอีกหลายคำถามที่โลกยังหาคำตอบไม่ได้
ยกตัวอย่างเช่นส่วนขยายของซีรีส์ดิริชเลต แอล รากที่ไม่ชัดแจ้งทั้งหมดของฟังก์ชันดีริชเลตก็ถูกตั้งที่เส้นตรงของระนาบเชิงซ้อน Re(s) = 1/2 ใช่ไหม? แล้วฟังก์ชันแอลที่แปลงอัตโนมัติล่ะ? เรายังไม่มีคำตอบสำหรับคำถามล้ำลึกพวกนี้
ประวัติศาสตร์บอกกับเราว่าเมื่อเราแก้ไขปัญหาได้จะมีอีกสองปัญหารอคอยเราอยู่”
ลู่โจวนิ่งไปครู่หนึ่งและพูดต่อ
“มีหลายสิ่งที่ผมอยากพูดหลังจากชุมชนวิชาการได้ทำการประเมินข้อพิสูจน์ของผม แต่ว่า…ผมคิดว่ามันไม่สำคัญ”
ทั้งห้องบรรยายเงียบสนิท
ลู่โจวสามารถสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดจากกลุ่มผู้ชม เขาพยักหน้าและพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น
“ประการแรก มาตอบคำถามก่อนหน้าว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไปกับทฤษฎีจำนวนวิเคราะห์?
คำตอบของผมคือศาสตร์ความรู้เก่าแก่นี้จะได้รับการเสริมพลังและเจริญรุ่งเริงกว่าที่เคยเป็น
สำหรับตัวผม ผมอาจจะวิจัยฟังก์ชันดีริชเลตและสมมติฐานของรีมันน์ทั่วไป…หรือผมอาจจะวิจัยฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องบนจุดศูนย์ไม่ชัดแจ้งสำหรับฟังก์ชันซีตาของรีมัน
แต่ว่ามันมีโจทย์ที่ใหญ่กว่ารอผมอยู่”
ลู่โจวหยุดไปชั่วขณะและกวาดตามองกลุ่มผู้ชม เขาซึมซับบรรยากาศและสูดลมหายใจเข้าลึก
“ซึ่งก็คือการรวมพีชคณิตกับเรขาคณิต!”
ทันทีที่ลู่โจวพูดจบ กลุ่มผู้ชมตกใจกันหมด!
การรวมพีชคณิตกับเรขาคณิต!
ผู้คนรู้สึกช็อก คลางแคลงใจ อยากรู้ สับสน…
“การรวม…พีชคณิตและเรขาคณิต? โอ้ พระเจ้า”
“ฟังดูเหลือเชื่อ”
“ชุมชนวิชาการยังไม่ได้ตัดสินข้อพิสูจน์ของเขาเลย และเขาก็ทำตัวยโสแล้ว!”
“ถ้ามีใครสามารถทำได้ ก็คงเป็นเขา…”
มีความวุ่นวายเกิดขึ้นในกลุ่มผู้ชม
ตาของนักวิชาการหวังเปิดกว้าง เขาไม่อาจจะเชื่อว่าลู่โจวนำเสนออะไรที่บ้าขนาดนี้
โมลิน่าดูช็อก การรวมพีชคณิตและเรขาคณิตเป็นภูเขาที่สูงกว่าสมมติฐานของรีมันน์โดยไม่ต้องสงสัย เธอไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอ้างอะไรใหญ่โตเช่นนี้ หลังจากที่พิสูจน์สมมติฐานของรีมันน์
ฟาลติ้งส์ก็เซอร์ไพรส์เช่นกัน
แต่เขาเซอร์ไพรส์กับเรื่องอื่น
ชายชราจ้องมองลู่โจวในขณะที่พูดพึมพำกับตัวเอง “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย…”
การรวมพีชคณิตและเรขาคณิต…
มันเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฟาลติ้งส์อยากทำก่อนที่จะเกษียณ
เขาไม่คิดว่าลู่โจวมีไอเดียเหมือนกับเขา
………………………