ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 1035 ผมมีวิธี
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 1035 ผมมีวิธี
ลู่โจวใช้เวลาสิบนาทีเพื่ออธิบายให้พ่อฟังว่าสมมติฐานของรีมันน์คืออะไร และการพิสูจน์มันส่งผลอย่างไรจริงๆ แล้วที่สำคัญมากกว่า มันเกี่ยวข้องกับพาสเวิร์ดธนาคารอย่างไร…
เขาได้อธิบายด้วยภาษาที่คนทั่วไปเข้าใจได้
ถ้าเขาพยายามอธิบายมันในแบบคณิตศาสตร์ เขาคงใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ซัลเฟอร์ในโทรศัพท์จนหมดก่อนที่จะอธิบายเสร็จ
ผู้เฒ่าลู่รู้สึกดีที่ได้พูดคุยกับลูกชาย ต่อมาเขาเปิดโหมดสปีกเกอร์และแม่ของลู่โจวก็มาร่วมบทสนทนากับลูกชายนักวิชาการ
ผ่านไปสักพัก ลู่โจวพบว่าพ่อแม่เขาไม่น่าจะกังวลเกี่ยวกับพาสเวิร์ดธนาคารเลย พวกท่านแค่อยากฟังเสียงลูกชาย
พอคิดถึงเรื่องนี้ ลู่โจวเริ่มน้ำตาซึม
มันอาจจะถึงเวลาที่เขากลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัว
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับเรื่องอ่อนไหว เขายังมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ
ลู่โจวสูดหายใจแล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง
หวังเผิงวางมือบนพวงมาลัยและพูดสั้นๅ
เราจะไปไหนกันครับ”
“โรงพยาบาล 301”
“ครับ”
…
โรงพยาบาล 301
ทางเข้าตึกด้านทิศใต้
ชายในกางเกงขาสั้นสีขาวยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับช่อกานพลูสีชมพูในมือ เขาดูยืนอยู่ตรงนั้นมานานแล้ว
เขาซื้อช่อดอกไม้มาจากร้านขายดอกไม้ใกล้โรงพยาบาล เสื้อที่เขาใส่เป็นเสื้อตัวเดียวที่เขาใส่ตอนรายงานที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อวาน เขาไม่มีโอกาสได้เปลี่ยนเสื้อเลย
คนส่วนใหญ่ในโรงพยาบาลแห่งนี้มีสถานะพิเศษ มันจะเป็นเรื่องไม่ปกตินักที่ได้เห็นใครแต่งตัวลำลองขนาดนี้
ด้วยเหตุนี้หมอและพยาบาลจึงมองดูบุคคลนี้อย่างระมัดระวัง
แต่หลังจากที่พวกเขาจำหน้าชายคนนี้ได้ ความสงสัยทั้งหมดก็หายไป
ผู้คนที่ทำงานที่นี่ไม่สามารถจำหน้าของคนไข้ได้ทุกคน แต่พวกเขาจะไม่มีวันลืมใบหน้านี้ได้
ท้ายที่สุดแล้วตอนที่ชายคนนี้เป็นลมไป พวกเขาต้องเร่งช่วยเหลือเขา…
ลู่โจวยืนอยู่ประมาณห้านาที จากนั้นเขาสูดลมหายใจเข้าลึกและเดินตรงไป
ลู่โจวแสดงหลักฐานระบุตัวตนและเดินเข้าตึกไป เขาเดินขึ้นบันไดและตรงไปที่วอร์ดที่สุดทางเดิน
หญิงสาวผมบลอนด์นอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาล เธอกำลังมองดูต้นไม้ที่นอกหน้าต่าง
เธอได้ยินเสียงฝีเท้าจากนอกทางเดิน เมื่อเธอเห็นร่างหนึ่งเดินเข้ามา เธอยิ้มให้
ดวงตาสีไพลินมองดูลู่โจวในระหว่างที่เธอพูดว่า
“ฉันเคยมาที่นี่”
ลู่โจวว่างช่อดอกไม้ไว้ที่โต๊ะข้างเตียงและพูดว่า
“ตอนไหน?”
เวร่าจ้องมองเพดานในขณะที่ใช้ความคิด
“ประมาณสามปีก่อน…ฉันได้ยินว่าคุณเป็นตอนจุดอิกนิชั่นฟิวชั่นที่ควบคุมได้ ฉันเลยซื้อตั๋วเครื่องบินและบินมาที่นี่ แต่ฉันไม่มีโอกาสเข้ามาที่นี่ เพราะพวกเขาไม่ยอมให้ฉันเยี่ยมคุณ ฉันก็เลยกลับไป…ฉันจำได้ว่าคุณฟื้นหลังจากฉันกลับไปไม่นาน แล้วฉันคิดมาตลอดเลยว่าคุณพยายามหลบหน้าฉันหรือเปล่า”
“ไม่ใช่เลย…ถ้าผมพยายามหลบหน้าคุณ ผมจะมีอยู่ที่นี่ตอนนี้ทำไมล่ะ?” ลู่โจวถามต่อ “คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง? คุณคุ้นเคยกับบรรยากาศแถวนี้หรือยัง?”
เวร่ายิ้มและพูดว่า
“ฉันคุ้นเคยแล้ว เตียงนอนสบาย และคนที่นี่ก็ดีมาก ตอนที่ฉันตื่นพยาบาลก็มาพูดคุยด้วย นอกจากคีโมแล้วฉันรู้สึกดีขึ้นเยอะมาก”
ลู่โจวรู้สึกใจสลายเมื่อได้ยินแบบนี้
เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอชิงพูดก่อน
“จะว่าไปแล้วฉันได้ยินเรื่องเกี่ยวกับคุณจากพยาบาลที่นี่…ฉันคิดว่า…”
ลู่โจวถาม “…คิดว่าอะไร?”
“ฉันคิดว่าคุณเยี่ยมมากจริงๆ”
เวร่าหน้าแดง
แต่ลู่โจวรู้สึกเขินอายมากกว่าเธอ
ลู่โจวคิดว่าจะตอบอย่างไรให้ถ่อมตนแต่เธอพูดขึ้นมาก่อน
“ตอนนี้ผมอยู่ที่ปักกิ่งแล้ว คุณบอกฉันได้ไหมว่าอยากให้ฉันทำอะไร?” เธอพูดขึ้นระหว่างที่มองดูลู่โจว “ฉันรู้สึกดีขึ้น…ฉันอยากใช้สิ่งที่คุณสอนฉันเพื่อช่วยคุณ”
ลู่โจวมองดูนัยน์ตาสีน้ำเงินของเธอและอ้าปากพูด
เขาอยากจะพูดหลายอย่างแต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน
เนื่องจากเขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เขาจึงตัดสินใจพูดเรื่องสำคัญก่อน
เขามองดูหญิงสาวที่นั่งบนเตียงโรงพยาบาลและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฟังนะ ผมมีวิธีรักษาคุณ แต่คุณต้องให้ความร่วมมือ”
เวร่ารู้สึกอึ้ง
เธอเงียบไปชั่วครู่และยิ้มในขณะที่เธอส่ายหน้า
“มันเป็นไปไม่ได้ หมอบอกฉันแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะรักษาฉันด้วยเทคโนโลยีตอนนี้…คุณไม่ต้องปลอบใจฉันหรอก ฉันเตรียมใจมาหนึ่งปีแล้วสำหรับเรื่องนี้ มันเลยไม่มีอะไรที่ต้องเศร้าแล้ว”
“ผมไม่ได้ล้อเล่นหรือพูดปลอบใจคุณ ผมพูดจริง” ลู่โจวสูดหายใจเข้าลึกและพูดว่า “เทคโนโลยีการแพทย์ในปัจจุบันไม่สามารถรักษาคุณได้ แต่เทคโนโลยีในอนาคตทำได้ เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนอีสุกอีใสและกาฬโรคเป็นโรคร้ายแรง แต่เราก็เป็นผู้ที่ชนะในที่สุด ถึงมันจะเป็นไปไม่ได้ตอนนี้ แต่ผมแน่ใจว่ามันจะเป็นไปได้ในอนาคต”
เวร่าพูดตอบ “ฉันมีเวลาเหลือไม่มากขนาดนั้น…”
“ไม่ คุณทำได้” ลู่โจวมองเวร่าและพูดด้วยท่าทีมั่นใจ “ผมจะส่งคุณไปอนาคต”
ลู่โจวใช้เวลาห้านาทีเพื่ออธิบายเทคโนโลยีการแช่แข็งและการพักตัวให้เธอฟัง รวมทั้งโปรเจกต์วิจัยชีววิทยาการแช่แข็งที่สถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูง สำหรับที่เขาบอกเธอว่า ‘เดินทางไปอนาคต’
หลังจากได้ยินคำตอบของลู่โจว เวร่าไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนในทันที แต่เธอกลับมองเพดานแล้วพูดว่า
“หนึ่งร้อยปีข้างหน้า…มันดูห่างไกลจัง
มันจะเป็นอย่างไรบ้างนะ?”
ลู่โจวตอบ “มันอาจจะไม่ใช่ร้อยปีข้างหน้า เจ็ดสิบปีน่าจะเพียงพอแล้ว ตอนนั้นสังคมจะมีวัสดุธรรมชาติเยอะและมีพลังงานไม่จำกัด…มันจะเป็นโลกที่ดีกว่ามาก”
เวร่าถาม “คุณจะอยู่ถึงตอนนั้นไหม?”
ลู่โจวเงียบไป
ผ่านไปสักพัก เขาพูดขึ้น
“นั่นไม่สำคัญหรอก คุณจะมีชีวิตที่ดีในโลกใบใหม่”
เวร่ากะพริบตาและพูดว่า “แต่ตอนนี้ฉันมีความสุขแล้ว”
ลู่โจวพูดต่อ “ผมสัญญา คุณจะมีความสุขมากขึ้น ถ้าคุณมีสุขภาพดี”
เวร่าขมวดคิ้ว
“คุณยังไม่ตอบคำถามของฉันเลย”
ลู่โจวมองดูเธอและตอบไปว่า
“อาจจะ ผมมีสุขภาพดีและมันมีหลายวิธีที่จะยืดอายุออกไป…แต่เมื่อถึงตอนนั้นผมคงเป็นชายชราแล้ว ผมคงไม่หล่ออีกต่อไป ผมจะเชื่องช้าและน่ารำคาญ คุณไม่ต้องหวังไปเลย”
ทันใดนั้นเวร่าหัวเราะ
รอยยิ้มของเธอเหมือนกานพลูสีชมพูบนโต๊ะข้างเตียง มันเต็มไปด้วยความงดงาม
“ฉันโอเคกับคนแก่นะ”
เธอเช็ดน้ำตาออกแล้วหน้าขี้กลัวของเธอถูกแทนที่ด้วยความอารี
เธอมองดูลู่โจวและพูดว่า
“…ตราบใดที่คุณโอเค”
นี่มันความรู้สึกอะไร?
รู้สึกเหมือนว่าหัวใจจะวาย…
มันมีแววความลังเลอยู่ในตาของลู่โจว แต่ตรรกะเหตุผลบอกว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยเธอได้
ลู่โจวสูดลมหายใจเข้าลึกและพยายามทำให้น้ำเสียงสงบนิ่ง
“งั้น…คุณตกลงใช่ไหม? ที่จะไปสู่อนาคต…”
เวร่าพยักหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ค่ะ
ถ้านั่นเป็นสิ่งที่คุณอยากให้ฉันทำ
ฉันจะทำตามที่คุณบอกทุกอย่าง”
………………….