ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 1067 โลกที่มีชีวิตชีวา!
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 1067 โลกที่มีชีวิตชีวา!
เฉินยู่ซานนอนบนเก้าอี้เงียบๆ และฟังคำสั่งของลู่โจว เธอทำให้สมองโล่งจากความคิดและความกังวล
เธอค่อยๆ รู้สึกเหนื่อยอย่างช้าๆ
เธออดหาวไม่ได้ และสงสัยว่าเธอกำลังผล็อยหลับหรือเปล่า แต่เธอรู้สึกจั๊กจี้ที่หลังคอ
จากนั้นก็มีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
ความมืดที่ปกคลุมเธอถูกทลายลงด้วยสีสันที่แตกเป็นแฉก
เฉินยู่ซานรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เธอกำลังเห็น
เธอค่อยๆ เห็นพงหญ้าสีน้ำเงินตรงหน้าเธอ
ใช่ หญ้าเป็นสีน้ำเงิน
ในขณะที่ท้องฟ้าเป็นสีส้มอมแดง
ในขณะที่เฉินยู่ซานยืนอยู่ในโลกประหลาดนี้ เธอยกมือขึ้นมาจับแก้มตัวเอง
เธอไม่รู้สึกอะไรได้เลย
แต่เธอรู้ว่ามือของเธออยู่บนหน้า
หมวกอยู่ที่ไหน?
มันหายไปแล้ว?!
เฉินยู่ซานรู้สึกอึ้งและพึมพำว่า นี่ฉันหลับอยู่เหรอ?
เธอกำลังจะตบหน้าตัวเองให้ตื่นขึ้น แต่เธอได้ยินเสียงที่คุ้นเคยอยู่ข้างหู
จริงๆ แล้ว มันแทบเหมือนกับว่าเธอหลับอยู่ กลไกของเครื่องนี้คล้ายกับการที่เราฝัน มันเป็นเหมือนโลกจินตนาการที่ถูกกระตุ้นโดยสัญญาณประสาทไฟฟ้าตลอด…ช่างมันเถอะ แค่ทำเป็นเหมือนว่าเธอกำลังฝันอยู่
เสียงนี้เหมือนมาจากทุกที่และไร้ที่มาในเวลาเดียวกัน
เฉินยู่ซานมองไปรอบๆ แล้วกระทืบพื้น
เธอไม่ได้ยินเสียงอะไรหรือรู้สึกว่าเท้าของเธอสัมผัสที่พื้นตามที่เธอคาดไว้
มันเป็นความรู้สึกแปลกเหมือนกับวิญญาณของเธอออกจากร่าง เธอไม่สามารถปฏิสัมพันธ์กับโลกได้ เธอทำได้แค่สังเกตการณ์…
เธอไม่สามารถจำได้ว่าเธอสามารถรู้สึกเจ็บปวดได้ไหมตอนที่เธอฝัน
ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องแบบนั้น
การรับรู้เดียวที่เธอรู้สึกได้คือความรู้สึกของลิ้นและปาก
เธออ้าปากแล้วพูดว่า
นายเห็นไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?
ฉันเห็นได้สิ ผมสามารถเห็นคุณนอนพูดอยู่ที่เก้าอี้ เมื่อเอาท์พุตข้อมูลสมูงได้รับจากดีโมดูเลเตอร์เส้นประสาท ฉันก็ได้รับข้อความตอบสนองจากโลกภายนอก ข้อความนี้ได้รับการประมวลผลโดยการ์ดกราฟิก แต่ฉันเห็นได้แค่พิกเซล และมันไม่ได้ชัดเหมือนกับที่เธอกำลังเห็นอยู่
อืม…รายละเอียดสมจริงมาก
เฉินยู่ซานนั่งย่อตัวลงแล้วมองดูหญ้าสีน้ำเงินขนาดเล็ก
เธอสามารถเห็นพื้นผิวสีน้ำเงินของหญ้าแต่ละต้นได้
สิ่งนี้ไม่ใช่การจำลองสมจริง
การเรียกว่ามันเป็นการจำลองถือว่าเป็นการดูถูก
มันเป็นเหมือนกับโลกใบใหม่ทั้งใบ
โลกที่มีชีวิตชีวา!
…
เธอรู้สึกอย่างไรบ้าง?
ลู่โจวมองดูเฉินยู่ซานที่เพิ่งถอดหมวกออก เขายื่นน้ำอุ่นให้เธอ
…มันมหัศจรรย์ ฉันบรรยายไม่ถูกเลยว่ารู้สึกอะไรอยู่ มันยอดเยี่ยมมาก นายต้องลองด้วยตัวเองก่อน ฉันแน่ใจว่านายรู้ว่าฉันหมายความว่าอย่างไร
เฉินยู่ซานคิดถึงโลกพิสดารที่เธอเพิ่งไปมาและรู้สึกมึนงงเล็กน้อย
เธอพูดต่อ ฉันอยากเดินทางรอบโลกมาตลอด…ด้วยเครื่องนี้มันฉันสามารถไปที่ไหนก็ได้ ฉันไปได้แม้กระทั่งสถานที่ในตำนาน
เธอเสียสละหลายอย่างโดยการเลือกอาชีพที่ความเครียดและแรงกดดันสูง เหมือนกับลู่โจว ก่อนหน้านี้เธอมีอภิสิทธิ์ในการเก็บกระเป๋าและเดินทางไปที่ไหนก็ได้ที่เธอต้องการ แต่ตอนนี้ เรื่องนี้ฟังดูเหมือนความฝัน
ตอนนี้เธอไม่มีเวลา
นอกจากนี้เธอเป็นซีอีโอของสตาร์สกายเทคโนโลยี เธอได้เจอกับความลับทางการค้าหลายอย่าง ซึ่งทำให้การเดินทางคนเดียวไม่ปลอดภัย
ดังนั้นเธอจึงค่อนข้างสนใจในเทคโนโลยีนี้
ลู่โจวยิ้ม
ฉันเกรงว่ามันจะยากเล็กน้อย ส่วนของโลกเสมือนส่วนมากหยิบยืมมาจากแนวคิดในความทรงจำของคุณ…สมองเติมเต็มช่องว่างที่เหลือ ยิ่งโลกซับซ้อนมากเท่าไหร่มันก็จะยิ่งสร้างขึ้นมากเท่านั้นสำหรับหญ้าแค่หย่อมหนึ่ง ผมจำเป็นต้องตั้งพารามิเตอร์จำกัดจำนวนหนึ่ง อย่างเช่น สี และรูปทรง แต่ถ้าคุณอยากไปที่ปักกิ่งในโลกเสมือน…เราอาจจะต้องพัฒนาเครื่องมือสร้างโมเดลพิเศษเพื่อใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีนี้อย่างเต็มรูปแบบ
โดยทั่วไปแล้วถ้าเครื่องนี้เทียบเท่ากับคอมพิวเตอร์ ดีโมดูเลเตอร์เส้นประสาทมีบทบาทคล้ายกับหน่วยประมวลผล ในขณะที่ส่วนของสมองที่สร้างภาพขึ้นมาเป็นการ์ดกราฟิกส์
และปัญหาอยู่ที่ตรงนั้น ส่วนประมวลผลภาพของสมองมนุษย์และการ์ดกราฟิกส์คอมพิวเตอร์ได้มีฐานมาจากหลักการที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดการ์ดกราฟิกส์ที่ใช้ปฏิบัติการที่มีตรรกะ ดังนั้นการประมวลผลข้อมูลจึงแม่นยำและเป็นเส้นตรง ในขณะที่สมองใช้ตรรกะที่ซับซ้อน ซึ่งไม่แม่นยำและไม่เป็นเส้นตรง
สิ่งนี่เป็นเหตุผลที่การรวมด้านกราฟิกของสมองมนุษย์และชิปคอมพิวเตอร์เป็นสองกลไกที่ต่างกัน
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเขาอยากสร้างโลกเสมือน เขาไม่จำเป็นต้องวาดทุกรายละเอียดด้วยพู่กัน เขาเพียงต้องตั้งค่าพารามิเตอร์ สีของหญ้า และความสูงของหญ้า ‘โลก’ นี้สามารถประมวลผลได้โดยสมองง่ายๆ
นั่นเป็นเหตุผลที่เฉินยู่ซานสามารถเห็นใบหญ้าได้แต่ละใบ
ท้ายที่สุดแล้ว คนส่วนใหญ่รู้ว่าหญ้ามีหน้าตาอย่างไร ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ได้เห็นหญ้าในโลกจริง พวกเขาก็ต้องได้เห็นมันในทีวี ภาพยนตร์ หรือว่ารูปภาพในอินเทอร์เน็ต
แต่ถ้ามันมีบ้านในโลกนี้ด้วย เขาต้องบรรยายว่าบ้านมีหน้าตาอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นคฤหาสน์หรือกระท่อมเล็ก มีหน้าต่างและประตูกี่บาน เป็นต้น เขาไม่สามารถใช้คำบรรยายทั่วไปได้ อย่างเช่น ‘คฤหาสน์จงซาน อินเตอร์เนชั่นแนลของศาสตราจารย์ลู่’
ท้ายที่สุดแล้วทุกคนเคยเห็นหญ้ามาก่อน แต่มีแค่ลู่โจวและคนในครอบครัวที่เคยเขาไปในบ้านของเขา
นี่เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ซึ่งนั่นคือการป้อนข้อมูลชุดเดียวกันอาจจะถูก ‘เบลอ’ โดยสมองของคนและสร้างความแตกต่างเล็กน้อย
แต่สิ่งนี้ก็ได้สร้างปัญหา
ซึ่งนั่นคือวิธีการใช้โค้ดคอมพิวเตอร์เพื่อบรรยายในสิ่งที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน ซึ่งรวมไปถึงการลดความแม่นยำ
ท้ายที่สุดแล้วอินเทอร์เน็ตถูกสร้างขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล
ถ้าทุกคนรู้ทุกอย่างมันก็ไม่มีเหตุผลที่อินเทอร์เน็ตจะมีอยู่ต่อไป
ไม่ใช่แค่นั้น เทคโนโลยีนี้ก็คงถูกใช้เพื่อความบันเทิงเท่านั้น
เฉินยู่ซานพูดว่า งั้น ฉันไปได้แค่สถานที่ที่เคยไปมาก่อนเหรอ?
ลู่โจวตอบว่า ไม่จำเป็น ข้อมูลที่อยู่ในความทรงจำของเธอนั้นมีมากกว่าที่คุณคิด ถึงแม้ว่าเธออาจจะไม่เคยเห็นบางอย่างมาก่อน มันสามารถถูกจำลองขึ้นมาได้ผ่านการป้อนข้อมูลที่เจาะจง…แต่สิ่งนี้มันยากมาก มันเหมือนกับการที่ผมบรรยายใบหน้าบางคนให้กับเธอโดยไม่เปิดรูปให้ดู เธอคงไม่สามารถจำหน้าเขาได้เวลาเห็นที่ท้องถนนเพียงแค่จากคำบรรยายของฉัน
เฉินยู่ซานมีสีหน้าช็อก
อ่อ เข้าใจแล้ว…น่าเสียดาย
ลู่โจวพยักหน้าและพูดว่า อืม นี่เป็นแค่เครื่องต้นแบบ
แล้วก็ฉันยังไม่สามารถจำลองประสาทสัมผัสอื่น อย่างเช่น การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส และการสัมผัส ฉันแน่ใจว่าเธอได้สังเกตหลังจากที่เข้าโลกไป เสียงที่เธอได้ยินมาจากโลกภายนอก เมื่อเธอพูดในโลกเสมือนเธอก็พูดในโลกจริงเช่นกัน
เฉินยู่ซานพยักหน้า
ไม่แปลกใจเลยที่ฉันไม่มีการรับรู้เลย เมื่อฉันอยู่ในโลกเสมือน
มันเป็นส่วนที่ยากที่สุดของเทคโนโลยีนี้ ลู่โจวพยักหน้าและพูดต่อ ฉันคงสามารถจำลองได้แค่สัญญาณภาพอยู่สักพัก เสียงต้องมาจากหูฟังเฮดเซ็ต ตอนนี้มันยังไม่มีวิธีจำลองการสัมผัส สถาปัตยกรรมดีโมดูเลเตอร์เส้นประสาทและอีกหลายส่วนประกอบยังไม่ได้รับการขัดเกลาให้สมบูรณ์ มันต้องใช้เวลา
ถึงแม้ว่ามันมีข้อบกพร่องหลายประการ เครื่องนี้ได้ล้ำหน้าเฮดเซ็ตวีอาร์ปกติไปหลายขั้น
อย่างน้อยมันก็ไม่มีอาการเมารถอีกแล้ว
จากมุมมองคุณภาพของรูปภาพ มันมีประสิทธิภาพมากกว่าที่จะส่งภาพโดยตรงไปที่สมองแทนที่จะแสดงมันผ่านหน้าจอให้มองด้วยตาซึ่งจากนั้นมันถูกส่งผ่านไปที่สมองผ่านเรติน่าและเส้นประสาทตา
ในทางอุดมคติ ผู้ใช้สามารถลืมร่างกายในโลกจริงได้ พวกเขาไม่ต้องกังวลว่ามือกำลังทำอะไรอยู่ ราวกับว่าพวกเขาเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนเต็มรูปแบบ พวกเขาเพียงแต่ต้องสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ฮาร์ดแวร์ในอุดมคติสำหรับการสร้างความจริงใหม่ไม่ใช่เฮดเซ็ตภายนอก แต่มันเป็นสิ่งที่คล้ายกับ ‘ชิปคอมพิวเตอร์ในสมอง’
ลืมเรื่องปัญหาทางเทคนิคพวกนี้ไป ลู่โจวนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นเขาพูดพร้อมรอยยิ้ม เธอคิดว่าอย่างไรล่ะ?
เฉินยู่ซานตอบว่า เอาจริงแล้ว…ฉันขอถอนคำพูด สิ่งนี้เป็นเทคโนโลยีที่มหัศจรรย์จริงๆ ฉันคิดว่ามันจะเปลี่ยนวีอาร์ที่ผู้คนรู้จัก มันยังจะเปลี่ยนภาพจำของผู้คนกับอินเทอร์เน็ต
ลู่โจวพยักหน้าและพูดว่า ฉันเห็นด้วย
โลกจะเข้าสู่ยุค 5G ในอีกไม่นาน ความเร็วอินเทอร์เน็ตจะเพิ่มขึ้นมหาศาล นั่นหมายถึงการพุ่งขึ้นของความเร็วดาวน์ลิงค์และอัปลิงค์ของผู้คน
ผู้คนจะพึ่งพาอินเทอร์เน็ตบ่อยมากขึ้น พวกเขาก็จะเชื่อมต่อโถส้วมกับไวไฟได้ ความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในเทคโนโลยีความจริงเสมือนจะก่อกวนระบบนิเวศอินเทอร์เน็ตทั้งหมด
เฉินยู่ซานมีสีหน้าตื่นเต้นระหว่างที่เธอพูดขึ้น
นายอยากให้ฉันทำอะไรไหม?
ลู่โจวคิดอยู่ชั่วครู่และพูดว่า จริงๆ แล้ว…ก็ไม่มีนะ
เฉินยู่ซาน …
ลู๋โจวมองดูเธอพร้อมรอยยิ้มประหม่า
เขาไม่อยากบอกเธอว่าเขาลากให้เธอมาถึงที่นี่เพื่อที่จะอวดเธอ เขาจึงกระแอมและพูดว่า
เทคโนโลยีมันยังไม่สมบูรณ์…ถ้าเธออยากจะช่วย เธอช่วยหาหนูทดลองให้ฉันหน่อย หรือฉันไม่ติดนะที่จะประกาศเทคโนโลยีนี้ให้สาธารณชนรับรู้ อย่างไรเสียฉันต้องการคนมาทดสอบเครื่องนี้
แน่นอนว่าเครื่องนี้ไม่ได้มีราคาถูก ลู่โจวไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่สามารถซื้อเครื่องได้
ดังนั้นเขาจึงอยากมีหนูทดลองที่เลือกมาไม่กี่คน
ถ้าผู้คนเต็มใจเป็นหนูทดลองของเขา งานวิจัยของเขาจะง่ายขึ้นเยอะ
เฉินยู่ซานพูดทันทีว่า เครื่องนี้ทั้งหมดราคาเท่าไหร่เหรอ?
ลู่โจวตอบว่า ไม่แน่ใจ แต่เครื่องนี้…อยู่ที่ประมาณ 100,000 หยวน
เฉินยู่ซานอ้าปากค้าง
ไม่ใช่เพราะว่ามันแพงเกินไป
แต่เป็นเพราะ…
ฉันมั่นใจว่าถ้าสิ่งนี้มีราคาแค่ 100,000 หยวน…มันจะขายออกในทันที
……………………………….