ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 1082 ความหมาย
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 1082 ความหมาย
เนื่องจากเทคโนโลยีส่วนต่อประสาทเทียมการจำลองภาพเสมือนจริงของสตาร์สกายเทคโนโลยีและสถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูงได้เป็นศูนย์กลางของความสนใจทั่วโลก
ในฐานะที่ลู่โจวเป็นหัวหน้าของทั้งสตาร์สกายเทคโนโลยีและสถาบันการศึกษาชั้นสูง เขาจึงควรยืนต่อหน้ากล้องในงานแถลงข่าวเพื่อบอกผู้คนเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่นี้
แต่แทนที่จะเขาจะทำอย่างนั้น ตอนนี้เขากลับยืนเงียบๆ ในวอร์ดแทน
วอร์ดนี้มีชื่อพิเศษ มันถูกเรียกว่า ‘วอร์ดพักตัวเยือกแข็ง’
ผู้ป่วยระยะสุดท้ายจากทั่วทุกมุมโลกถูกย้ายมาที่นี่
ค่าใช้จ่ายของเครื่องจำศีลค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับการอยู่ในห้องไอซียู
นอกจากสารสกัดแบคทีเรียบนดาวอังคารที่มีราคาแพงก็มีค่าใช้จ่ายในการทำให้อุปกรณ์ทำงานที่สวนทาง
แน่นอนว่ามันราคาถูกเมื่อเทียบกับการรักษารูปแบบอื่น
ผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างลู่โจวซึ่งมาเยี่ยมผู้ป่วย
ผู้หญิงคนนั้นดูจะอายุสี่สิบปลายๆ และเธอจับมือกับเด็กชายอายุห้าขวบเอาไว้ น้ำตาของเธอค่อยไหลๆ ออกมาจากหางตาอย่างช้าๆ
คนที่อยู่ภายใต้การแช่แข็งอาจจะเป็นสามีของเธอ และเด็กที่ยืนอยู่ข้างเธอก็คงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะที่เขายืนอยู่ที่มองอยู่อย่างเงียบๆ
ผู้หญิงคนนั้นสังเกตเห็นลู่โจวที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ไม่นานเธอก็ตกใจเมื่อจำเขาได้
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็เดินไปหาเขาพร้อมกับอุ้มลูกชายของเธอและถามอย่างระมัดระวังว่า สวัสดีค่ะ คุณใช่…นักวิชาการลู่หรือเปล่าคะ?
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ลู่โจวก็พยักหน้า
ใช่ครับ
ขอบคุณค่ะ…
ลู่โจวมองไปที่ผู้หญิงคนนี้และส่ายหัว
ผมไม่ใช่หมอหรอก ไม่จำเป็นต้องขอบคุณอะไร
หมอบอกเราว่าคุณช่วยเขาเอาไว้…คุณช่วยเรา
ลู่โจวมองมาที่เธอและรอให้เธอพูดต่อ
เรา…ไม่มีเงินจริงๆ หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าขมขื่น เธอกล่าวขณะหวนคิดถึงอดีตว่า เราขายบ้านและใช้เงินออมทั้งหมดไปกับค่ารักษาพยาบาลของสามี และตอนนี้เราแทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว เมื่อไม่กี่เดือนก่อน สามีบอกให้ฉันหยุดการรักษาและเก็บเงินไว้เพื่อให้ลูกชายของเรา แต่…
เสียงของผู้หญิงคนนั้นสั่นเมื่อเธอสูดหายใจเข้าลึกๆ เธอยิ้มอย่างไม่เต็มใจ
ยังไงก็ขอบคุณคุณ…ขอบคุณนะคะ!
ฉันแค่มีความสุขที่เขายังมีชีวิตอยู่
และตอนนี้ฉันกำลังจะพาลูกชายของฉันกลับไปที่บ้านเกิด ดังนั้นนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่อาจจะได้เห็นเขาแล้ว หมอบอกว่าโรงพยาบาลในอนาคตสามารถรักษาเขาได้อย่างแน่นอน และฉันหวังว่ามันจะเป็นจริง…ฉันแค่ต้องการให้เขาแข็งแรง สูบบุหรี่น้อยลง และกินอาหารดีๆ เพื่อสุขภาพตัวเอง…ฉันหวังว่าเขาจะไม่คิดถึงฉันจนเกินไป…
ผู้หญิงคนนั้นตระหนักได้ว่าลู่โจวอาจจะไม่สนใจเธอเท่าไหร่ เธอดูเขินอายเมื่อพูดกับลูกชาย
มาเถอะ ลูกควรมาขอบคุณฮีโร่คนนี้…
เด็กน้อยกะพริบตาขณะที่เขาจ้องไปที่ลู่โจว เขาพูดด้วยน้ำเสียงขี้กลัว
ขอบคุณครับ
ลู่โจวยิ้มและลูบหัวของเด็กน้อย
ด้วยความยินดี เด็กน้อย เราต้องขอบคุณแม่มากกว่านะ ดูแลตัวเองดีๆ
เด็กมองลู่โจวและพูดว่า แล้วพ่อล่ะครับ? เขากำลังจะตื่นแล้วใช่มั้ยครับ?
แน่นอน
เด็กพยักหน้าขณะที่ลู่โจวมองให้กำลังใจเขา
แม่และลูกได้บอกลาเขา และจากไป
แต่เมื่อแม่เดินไปที่ประตู จู่ๆ เธอก็หยุดและหันกลับมามอง เธอโค้งคำนับอย่างจริงใจให้ลู่โจวก่อนจะเดินจากไป
ในทางเดินระหว่างแม่และลูกชายได้พูดคุยกัน
แม่…ผู้ชายคนนั้นเป็นใครครับ?
เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์น่ะ
นักวิทยาศาสตร์? ผมอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์…
บทสนทนาจางหายไปเมื่อเสียงฝีเท้าเงียบลงและเงียบลง
ลู่โจวถอนหายใจ เขารู้สึกเศร้าเล็กน้อย
เขาไม่ชอบการอยู่ในโรงพยาบาลเท่าไหร่
มันมีความรู้ความรู้เศร้าลอยอยู่เต็มไปหมด
ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลัง
เขามองไปที่หมอและพูด
ผลการทดสอบเป็นอย่างไรบ้าง?
นี่ครับ…
ลู่โจวรับรายงานทางการแพทย์จากแพทย์และมองดูมัน เขาดูผิดหวัง
แม้ว่าเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะหวังให้คนในสภาวะหลับใหลเชื่อมต่อกับโลกเสมือนจริงผ่านคลื่นสมอง ตอนนี้หัวใจของเขาไหลลงไปสู่ก้นบึ้งทันทีเมื่อเขาอ่านรายงาน
วิธีเดียวคือการปลุกสมองครึ่งหนึ่ง
แต่มันเป็นสิ่งที่อันตราย
หมอมองลู่โจวและถามว่า คุณต้องการให้ผมอธิบายให้คุณฟังไหม?
ไม่จำเป็น… ลู่โจวสูดหายใจเข้าลึกๆ และพับรายงานทางการแพทย์ จากนั้นเขาก็ยัดมันลงในกระเป๋าและพูดว่า ผมรู้แล้วว่ามันเป็นอย่างไร ขอบคุณนะ
ไม่ต้องห่วง แพทย์ยิ้มและพูดว่า ผมควรจะขอบคุณคุณมากกว่า เพราะเทคโนโลยีการพักตัวเยือกแข็งและส่วนต่อประสาทเทียมได้ช่วยชีวิตผู้คนมากมายเอาไว้
เหรอครับ?
ลู่โจวละสายตาจากหมอแล้วมองไปที่ตู้พักตัว
ราวกับมันแข็งไปทุกอย่าง ไม่เพียงแต่น้ำค้างบนกระจกห้องโดยสาร แต่ยังรวมถึงเวลาด้วย
หมอดูหดหู่เล็กน้อยในขณะที่เขาถอนหายใจ
อยากอยู่เงียบๆ ไหมครับ?
แน่นอน…
หมอพยักหน้าและออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไร
ตอนนี้ลู่โจวอยู่คนเดียวในวอร์ด
เขามองไปที่ตู้และทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้น
ผมอยู่นี่แล้ว
โปรเจกต์ต่อไปคือการรวมกันของพีชคณิตและเรขาคณิต…คิดว่าฉันมีไอเดียแล้วล่ะ
ลู่โจวกลืนน้ำลายและต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ส่ายหัวและยิ้ม
ช่างมันเถอะ…
แม้ว่าผมจะบอกความคิดของผมให้คุณฟัง แต่คุณก็คงไม่ได้ยินอะไร
ผมจะบันทึกไว้เพื่ออนาคต
และเมื่อคุณตื่นขึ้น คุณจะได้อ่านหนังสือของผมได้ คุณเป็นนักเรียนที่ดีที่สุดของผม ดังนั้นผมแน่ใจว่าคุณจะสามารถเข้าใจบทความนี้โดยที่ผมไม่ต้องอธิบายอะไร
ลู่โจวอยู่ในวอร์ดจนกระทั่งพยาบาลมาตรวจดูการทำงานของห้องพักตัวเป็นประจำ ไม่นานลู่โจวก็เดินจากไป
…
เขานั่งอยู่ในรถของหวังเผิงหลังจากที่ลู่โจวออกจากโรงพยาบาล
หวังเผิงโยนบุหรี่ทิ้งนอกตัวรถก่อนที่จะสตาร์ทรถ
ไปไหนครับ?
สนามบิน
กลับไปที่จินหลิงเหรอครับ?
ใช่
เดิมทีลู่โจววางแผนจะอยู่ปักกิ่งต่ออีกสองสามวัน แต่เขาไม่มีอารมณ์จะไปเยี่ยมเพื่อนเก่าของเขาอีกแล้ว และตอนนี้เขาต้องการกลับไปพักผ่อน
เพื่อนๆ ของเขารู้ว่าเขาเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว ดังนั้นพวกเขาจะไม่โทษอะไรที่ไม่ได้ไปหา
รถเริ่มขับออกไปท่ามกลางความเงียบงันของทั้งคู่
หวังเผิงรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่น่าเบื่อในขณะที่เขาพยายามจะสนทนา
มีคนพูดถึงคุณทางออนไลน์เกี่ยวกับเทคโนโลยีการจำลองภาพเสมือนจริง
เหรอ
ไม่สนใจเหรอครับ?
ใช่ ตอนนี้ไม่มีอารมณ์
ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็เริ่มดังขึ้น
ลู่โจวหยิบโทรศัพท์ออกมา และเมื่อเขาเห็นหมายเลขปลายสายเขาก็ต้องขมวดคิ้ว
ปกติเขาจะไม่รังเกียจที่จะคุยกับคนนี้ๆ แต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์ที่จะคุยด้วย เขาเมินสายนี้เมื่อมาถึงโรงพยาบาลครั้งแรก แต่ตอนนี้เขาโทรมาอีกครั้ง
หวังเผิงเห็นสายที่ถูกลู่โจวปัดออกอย่างรวดเร็ว
เขามองไปที่กระจกมองหลังและถามว่า จะไม่รับเหรอครับ?
ไม่… ลู่โจวโยนโทรศัพท์ทิ้งแล้วพูดว่า ไม่ใช่สายสำคัญ
……………………