ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 1143 ทำบ้างก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 1143 ทำบ้างก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
ลู่โจวคิดว่าเกมจะจบตอนนี้ เขาคิดว่ามันอาจจะมีข้อความจบเกมหรือฉากจบเด้งขึ้นมา เขาไม่แน่ใจว่าเขาสำรวจวอยด์เมมโมรี่ทั้งหมดเสร็จแล้วหรือเปล่า
หลังจากที่ศาสตราจารย์เลนกลับไปแล้ว กงสุลประกาศสิ้นสุดการประชุม เบาะแสทั้งหมดเกี่ยวกับออราเคิลดูเหมือนจะจบลงที่นี่ มันไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องแล้ว
หลังจากที่ลู่โจวออกมาจากรัฐสภาแล้ว เขาเดินตามกัปตันอินซ์กลับไปที่กองทัพ เขาปลดประจำการและส่งมอบอุปกรณ์ของเขา หลังจากนั้นเขาก็สำรวจโลกบนรถไฟโดยไม่มีอาวุธติดตัว
แม้ว่าโครงสร้างทางชนชั้นในสังคมจะชัดเจนมาก แต่โลกใบนี้ก็ซับซ้อนเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการไว้
บนโลกรูปทรงวงแหวนนี้ มีเขตอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตโภคภัณฑ์ และมีเขตการค้าที่จัดการเรื่องการขายและความบันเทิง สถานที่นี้ยังมีเขตมหาวิทยาลัย เขตพื้นที่ทำนา เขตที่อยู่อาศัยที่แออัดมากและแออัดน้อย พื้นที่ธรรมชาติ เป็นต้น
ชาวคาลาเนียนที่อาศัยอยู่ที่นี่ไม่จำเป็นต้องทำงานหนักเพื่อความสำเร็จหรือชีวิตที่หรูหรา เพราะรายได้ในสังคมที่อยู่ชนชั้นเดียวกันจะใกล้เคียงกัน คนจากต่างชนชั้นแทบจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันเลย ดังนั้นช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยจึงไม่ชัดเจนขนาดนั้น ทุกคนอาศัยอยู่ในดินแดนในฝันของตัวเอง
เงินตราที่ใช้ที่นี่จะคล้ายคลึงกับคะแนนเครดิต
นายทหารคนนี้ที่ชื่อเรนฮาร์ทได้รับการชื่นชมจากหัวหน้าเพราะผลงานที่โดดเด่นของเขาและที่เขาได้รับการสืบทอดทรัพย์สินจากคาลาเนียนระดับสูง ดังนั้นเรนฮาร์ทจึงมีชีวิตที่สุขสบายอยู่ตรงหน้า
ลู่โจวตรงไปที่เขตมหาวิทยาลัยและเจอห้องสมุดที่ใกล้กับเขาที่สุด
แต่เขาก็ต้องผิดหวัง มันเป็นอย่างที่เขาจินตนาการไว้ ข้อมูลเชิงลึกส่วนใหญ่และเทคโนโลยีเฉพาะถูกซ่อนไว้ในวอยด์เมมโมรี่
ตอนที่เขาเปิดหนังสือเรียน เขาเห็นแค่ตัวอักษรและภาพที่พร่ามัวไปหมด เหตุการณ์แบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นตอนที่เขาพยายามหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ความรู้เฉพาะและความรู้ที่เป็นความลับไม่ได้ถูกบันทึกในความทรงจำนี้ ยิ่งเขาเจาะลึกเข้าไปเท่าไหร่ ข้อมูลที่มีอยู่ก็น้อยลงเท่านั้น
มันเหมือนความฝัน เขามองเห็นแค่ภาพคร่าวๆ แต่ไม่มีทางที่จะขุดลึกเข้าไปได้
ถ้าเขาทำตามเค้าเรื่องเดิม มันก็อาจจะไม่ได้รู้สึกเหมือนฝัน แต่เมื่อเขาเปลี่ยนเส้นทางจากโครงเรื่องหลัก เขารู้สึกถึงกำแพงที่มองไม่เห็นกำลังกั้นเขาอยู่
เขาก็เหมือนไมเคิล เดอ ซานตาใน GTA5 ที่ท่องเที่ยวไปตามถนนในลอสซานโตสโดยที่ไม่มีอาวุธติดตัว และมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่ไม่มีอยู่จริง
อย่างน้อยตอนนี้ เขาก็ยังหาเบาะแสอะไรไม่เจอ
นอกจากสมบัติล้ำค่าแล้ว สิ่งเดียวที่ศาสตราจารย์เลนทิ้งไว้ให้เขาคือความสงสัยในเรื่องของภัยธรรมชาติ
ภัยธรรมชาติคืออะไรกันแน่
เรื่องราวดูจะเหมือนสิ้นสุดลงตรงนี้…
…
ลู่โจวถอดหมวกออกและลุกจากเตียง เขารู้สึกว่าหัวของเขาร้อนไปหมด เขาสูดอากาศจากแอร์ในห้องทดลองเข้าไปลึกๆ
โดรนของเสี่ยวไอบินเข้ามา เผยให้เห็นข้อความที่อยู่บนหน้าจอ
[เจ้านาย คุณต้องการน้ำสักแก้วไหม 0.0]
ลู่โจว เอามาให้หน่อย
แขนกลตรงกำแพงเริ่มเคลื่อนที่ ไม่นานมันก็ยื่นน้ำเย็นๆ ให้ลู่โจว
ลู่โจวจิบน้ำและครุ่นคิดอยู่สักพัก จู่ๆ เขาก็พูดขึ้น
เสี่ยวไอ
เสี่ยวไอ [อะไรคะ? (>▽
ลู่โจว เธอมีข้อมูลเกี่ยวกับคาลานในฐานข้อมูลของเธอไหม หมายถึงว่า…นอกจากส่วนที่เป็นวอยด์เมมโมรี่
เสี่ยวไอ [ไม่คิดว่าจะมีนะ…ทำไมเหรอ ┌|* ́∀`|┘]
เข้าใจแล้ว
หลังจากที่ลู่โจวคิดอยู่สักพัก เขาส่ายหัว
… เปล่าหรอก
ลู่โจวยืนขึ้นและเดินตรงไปที่ลิฟต์
…
เรื่องราวของวอยด์เมมโมรี่จบลงแล้ว
แต่ความสงสัยยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของลู่โจว
ภัยธรรมชาติแบบไหนที่ชาวคาลานกลัว
วิกฤตการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนคืออะไร
อีกอย่าง ควาร์กสตาร์บินตรงไปยังศูนย์กลางของกาแล็กซีเหรอ
ลู่โจวกลับไปที่ออฟฟิศของเขาและนั่งลงที่โต๊ะ เขาหยิบสมุดออกมาแล้วเริ่มบันทึกสิ่งที่เขาคิด
เขาหยุดเขียนและเคาะปากกาบนโต๊ะเบาๆ หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก ลู่โจวพูด
ภัยธรรมชาติ…
มันคือสิ่งที่แปลมาจากภาษาคาลาเนียน แต่ความหมายของมันก็อาจจะคล้ายๆ กัน
สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดในงานวิจัยวิชาการคือการพยายามที่จะเข้าใจเอกสารแปล
แต่มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถศึกษาความหมายดั้งเดิมของออราเคิล ความทรงจำที่ระบบส่งมาได้ถูกแปลทุกอย่างเป็นภาษาจีน
และเขาก็ไม่มีทางที่จะสามารถใช้เทคโนโลยีปัจจุบันบนโลกในการแปลออราเคิล
มีอยู่เรื่องหนึ่งที่มั่นใจได้ นั่นก็คือระบบไฮเทคไม่ได้มาจากคาลาเนียน …
เนื่องจากค่านิยมทางศีลธรรมของชาวคาลาเนียน ถ้าหากว่าพวกเขาเป็นคนที่ค้นพบดาวโลกจริงๆ พวกเขาก็ไม่มีทางโจมตีมนุษย์
ในเรื่องของการกระทำระดับชาติ แม้แต่บริษัทเองก็ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายและประโยชน์
นอกเหนือจากสภาพแวดล้อมในบรรยากาศ โลกไม่ได้มีทรัพยากรมากมายเมื่อเทียบกับดาวเคราะห์อื่นๆ ในจักรวาล และยังมีแรงโน้มถ่วงสูงอีกด้วย
ไม่มีทางที่อารยธรรมที่สามารถสร้างริงเวิร์ลจะมาเสียเวลาโจมตีโลก แม้ว่าถ้าพวกเขาต้องการทรัพยากรอย่างน้ำหรือแก๊ส พวกเขาก็สามารถหาสิ่งเหล่านี้ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าจากดาวเคราะห์น้ำแข็งหรือดาวแก๊สได้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องนำทรัพยากรที่หาได้มาสกัดให้บริสุทธิ์ด้วยซ้ำ
ไม่มีเหตุผลเลยที่พวกเขาจะต้องใช้ความพยายามมากขนาดนี้ในการให้ระบบไฮเทคกับโลกเพื่อพัฒนาระดับเทคโนโลยีของมนุษย์
พฤติกรรมแบบนี้จะมาจากอารยธรรมที่ก้าวล้ำกว่านี้เท่านั้น คล้ายๆ กับอารยธรรมที่สร้างควาร์กสตาร์
แต่มีอยู่ปัญหาหนึ่ง แรงจูงใจของอารยธรรมล้ำสมัยคืออะไร
หรือว่า…พวกเขาคือสิ่งที่เรียกว่าวอยด์
ลู่โจวคิดเรื่องนี้อยู่นาน แต่เขาก็หาข้อสรุปไม่ได้เสียที เขาทำได้แค่เพียงเขียนข้อคาดการณ์ของตัวเองไว้
เห็นได้ชัดว่าสัญญาณ 750 จิกะอิเล็กตรอนโวลต์เป็นเรื่องเร่งด่วนกว่าการสำรวจความลับของควาร์กสตาร์และวอยด์
ในตอนนี้ที่วงการฟิสิกส์ทั้งวงการคาดหวังว่าเขาจะมีการค้นพบที่น่าอัศจรรย์ ดังนั้นเขาจึงต้องทำอะไรบางอย่าง
หลังจากที่ลังเลอยู่สักพัก ลู่โจวหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาคนสองสามคน ในที่สุดเขาก็สามารถติดต่อกับคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบโปรเจกต์กล้องโทรทรรศน์อาลี CMB ศาสตราจารย์จางเทียนหมิง นักวิจัยที่สถาบันฟิสิกส์พลังงานสูงจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน
เครื่องตรวจจับคลื่นความโน้มถ่วงเริ่มสร้างในปี 2017 และตรวจสอบครั้งแรกในปี 2020 มันคือหอสังเกตการณ์คลื่นความโน้มถ่วงที่มีระดับความสูงสูงสุดของโลก
แม้ว่าลู่โจวจะไม่ได้มีความหวังในหัวเลยสักนิด แต่เขาก็ยังขอข้อมูลคลื่นความโน้มถ่วงล่าสุดจากศาสตราจารย์จาง
แม้ว่าอาจจะไม่ได้อะไรเลยก็ตาม แต่ทำบางอย่างก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
…………………………