ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 1158 ดิ้นรน
โมลิน่าไม่เข้ามาด้านใน เธอยืนอยู่ตรงประตูแทน
ลู่โจวสังเกตเห็นชัดเจนว่าปู่กับหลานสาวดูเหมือนจะไม่ถูกกัน
ลู่โจวไม่แน่ใจว่าสาเหตุคืออะไร และเขาก็ไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของครอบครัวคนอื่น หลังจากที่อธิบายเหตุผลที่มาที่นี่ เขาเดินตามชายสูงวัยและมาหยุดอยู่ตรงภาพสีน้ำมันที่อยู่ใต้บันได
คนที่อยู่ในภาพมีผมหยิกสีบลอนด์ตรงกลาง ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ดูมีวุฒิภาวะ มั่นใจ…และหล่อนิดหน่อย
แต่ก็หล่อน้อยกว่าลู่โจว
นอกจากนี้ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีเบาะแสอะไรที่ลู่โจวคาดหวังไว้ มันก็แค่รูปธรรมดา
รูปวาดนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1835 ญาติของเขาบอกว่า มันถูกสร้างโดยนักวาดชาวนอร์เวย์ที่ไม่ค่อยโด่งดังในตอนนั้น ชายสูงวัยพูดกับลู่โจวขณะที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา
จริงๆ แล้วญาติที่เขาพูดถึงคือคู่หมั้นของศาสตราจารย์อาเบล แต่ชายสูงวัยจงใจไม่ลงรายละเอียดตรงจุดนั้น
ลู่โจวมองไปที่ชายสูงวัยและพูดด้วยความสงสัย
แปลว่ารูปวาดนี้มีอายุเก่าแก่เกือบสองร้อยปี
ประมาณนั้น มันอาจจะเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในห้องนี้…แต่มันก็ไม่ได้มีมูลค่ามากขนาดนั้น
ชายสูงวัยจำไม่ได้ว่าเขาซื้อมาเท่าไหร่ แต่ถ้าเขาสามารถซื้อมาได้ด้วยเงินเดือนเพียงเล็กน้อย มันก็คงไม่ได้มีราคาแพงมากขนาดนั้น
เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะสนใจรูปวาดของนักคณิตศาสตร์ แถมยังเป็นอัจฉริยะที่อายุสั้นด้วยแล้ว มันเป็นเรื่องยากที่จะขายในราคาสูงเว้นเสียแต่ว่าจะมีคนที่มีงานอดิเรกที่พร้อมจะจ่ายในราคาสูงๆ เพื่อซื้อไปเก็บสะสม หรือพิพิธภัณฑ์จะยอมซื้อภาพวาดนี้
ประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของภาพไม่ได้ให้เพิ่มมูลค่าให้กับมัน ท้ายที่สุดแล้วค่าของมันก็ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงของศิลปิน ตัวอาเบลเอง และภูมิหลังของภาพวาด
นอกจากรูปนี้และสมุดของอาเบล ยังมีอะไรอีกไหมครับที่เป็นของศาสตราจารย์อาเบล
ชายสูงวัยพยักหน้าตอบ
ก็มีแค่นี้แหละ
ลู่โจวพยักหน้าและคิดอยู่สักพัก จู่ๆ เขาก็พูด ผมมีคำถาม
ครับ?
รู้ๆ กันอยู่ว่าอาเบลไม่เคยแต่งงานในชีวิต คุณเป็นญาติกับเขาทางสายเลือดเลยหรือเปล่า
ตอนที่ชายสูงวัยได้ยินคำถาม เขาแสดงสีหน้าวิตกกังวลแวบหนึ่ง
…อาจจะ
อาจจะเหรอ
ลู่โจวเห็นชายสูงวัยลังเล เขานิ่งไปครู่หนึ่งและรู้สึกคลางแคลงใจในหัว เขาเบี่ยงเบนบทสนทนาอย่างชาญฉลาด
แล้วคุณได้ของพวกนี้มาจากไหนเหรอครับ
จากนักสะสม
ลู่โจวถามขึ้นทันที คุณยังติดต่อเขาได้ไหมครับ ผมหมายถึงว่าคุณช่วยแนะนำเขาให้ผมรู้จักได้ไหมครับ
ชายสูงวัยส่ายหัวและพูด ชายคนนั้นเสียไปไม่กี่ปีก่อน ผมคงช่วยคุณไม่ได้หรอก ถ้าคุณสนใจของที่ตกทอดจากศาสตราจารย์อาเบล สมุดนั่นคือสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ ผมไม่คิดว่าหลานสาวของผมจะให้คุณไปทั้งหมด แต่…ผมหวังว่าคุณจะดูแลอย่างดี
ลู่โจวเห็นความละอายใจที่แฝงอยู่ในสายตาของชายสูงวัย และนั้นก็ทำให้เขามั่นใจว่าตัวเองเดาถูก
ว่าแล้วเชียว ตาแก่คนนี้น่าจะสร้างเรื่องที่เป็นลูกหลานของศาสตราจารย์อาเบลขึ้นมา จากที่ฉันรู้ อัจฉริยะคนนี้มีอายุถึง 20 กว่าปีเท่านั้น และมีคู่หมั้นคนเดียว ความเป็นไปได้ที่เขามีลูกแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเมื่อคืนอารมณ์ของโมลิน่าจึงไม่มั่นคง
ลู่โจวจำความเยือกเย็นที่โมลิน่ามีต่อชายสูงวัยที่หน้าประตูได้ หลังจากที่เงียบกันอยู่สักพัก จู่ๆ เขาก็พูดขึ้น
เมื่อคืนหลานสาวของคุณเศร้ามากๆ แต่ไม่ใช่เพราะผมนะ
ครับผมรู้ มันเป็นการโกหกที่แย่ใช่ไหม
ชายสูงวัยมีแววตาที่เศร้าหมอง
เขาส่ายหัว เขาเสียใจเป็นอย่างมากพลางบ่นพึมพำ ก็มันช่วยไม่ได้ ใครจะไปคิดว่าพ่อของเธอจะจริงจังกับมันขนาดนี้ ผมก็ไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้
เขามองไปที่ชายสูงวัยที่รู้สึกผิดและถอนหายใจ เขาพูดอย่างนุ่มนวล
ผมคิดว่าเหตุผลที่เธอโกรธและเสียใจไม่ใช่เพราะเธอไม่ได้เป็นลูกหลานของศาสตราจารย์อาเบลหรอกครับ แต่น่าจะเป็นเพราะคนที่ใกล้ชิดกับเธอมากที่สุดโกหกเธอนานเกือบสามสิบปี
สายเลือดไม่มีความหมายอะไรเลยในโลกวิทยาศาสตร์ ไอเดียที่สุดยอดส่วนใหญ่สร้างขึ้นจากโอกาส มีนักวิชาการเก่งๆ เกิดขึ้นมา แต่มันอยู่ที่โอกาสมากกว่า ไม่ใช่พันธุกรรม
บางทีลูกหลานของนักวิชาการเก่งๆ อาจจะได้เปรียบในเรื่องการศึกษามากกว่าคนอื่นและมีโอกาสได้เข้าสู่วงการวิชาการมากกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะกลายเป็นนักวิชาการเก่งๆ กันทุกคน
ลู่โจวนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูด ผมรู้ว่าผมเป็นคนนอกและผมรู้ว่ามันไม่ใช่ธุระของผม แต่ผมอยากจะแนะนำคุณให้ไปขอโทษเธอ…
เจ็บปวด ชายสูงวัยส่ายหัวและพูด เธอไม่มีทางให้อภัยผมหรอก และผมจะไม่ให้อภัยตัวเอง…
ไม่ว่าเธอจะให้อภัยคุณหรือไม่นั้น มันก็เป็นการตัดสินใจของเธอ ไม่ว่าคุณจะให้อภัยตัวเองหรือไม่… ลู่โจวนิ่งไปและพูดต่อ จริงๆ แล้วคุณไม่ควรโทษตัวเองจนเกินไปนะครับ ผมเห็นว่าเธอหลงใหลคณิตศาสตร์จริงๆ แม้ว่าพรสวรรค์จะเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ แต่ผมก็ไม่คิดว่าเธอเลือกทางผิด
จริงๆ แล้วมันอาจจะดีกว่าก็ได้ถ้าเธอหยุดคาดหวังในตัวเอง
ชายสูงวัยกำลังโทษตัวเองที่ทำลายชีวิตหลานสาว แต่จากมุมมองของลู่โจวแล้วนั่นไม่ใช่ปัญหาด้วยซ้ำ
ไม่มีทางที่ใครคนหนึ่งจะสามารถเดินทางในเส้นทางคณิตศาสตร์ได้นานกว่าสองทศวรรษเพียงเพราะจุดมุ่งหมายของบรรพบุรุษ
มันอาจจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับโมลิน่าที่ได้รู้ความจริง
มันจะช่วยเรื่องสภาพจิตใจของเธอ
แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากก็ตามทีสำหรับเธอที่จะกลายเป็นนักวิชาการระดับที่หนึ่ง แต่เธอก็เป็นผู้นำในกลุ่มนักวิชาการระดับที่สองแล้ว ถ้าเธอตั้งสติและจดจ่อกับงานวิจัย เธอก็อาจจะสามารถชนะรางวัลเหรียญฟิลด์ก่อนอายุ 40 ก็ได้
แน่นอนว่าเธอจะสามารถชนะรางวัลนั้นได้จริงๆ หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ท้ายที่สุดแล้วความพยายามไม่ใช่แค่สิ่งเดียวที่ทำให้นักวิชาการระดับสองเลื่อนเป็นนักวิชาการระดับหนึ่งได้
นอกจากความพยายามแล้วก็ยังมีความโชคดีเข้ามาเกี่ยวข้องนิดหน่อย
แค่หนึ่งในล้านเท่านั้นที่สามารถประสบความสำเร็จทั้งๆ ที่สิ่งต่างๆ ไม่เอื้ออำนวย
หลังจากได้ยินสิ่งที่ลู่โจวพูด ชายสูงวัยเงียบไปสักพัก
เวลาผ่านไปนาน เขาพูดขึ้น
ขอบคุณนะ บางทีคุณอาจจะพูดถูก
ลู่โจวพยักหน้าอย่างจริงใจและพูด ผมก็แค่แนะนำครับ
……………………