ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 1172 ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 1172 ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
หมวกกว่า 800 ใบได้ถูกส่งมอบให้กับทุกคน
เจ้าหน้าที่ทำการแนะนำเขา หวังหลี่หุยอยากจะเปิดเครื่องเต็มแก่แล้ว เขาเอนตัวไปบนเก้าอี้และสวมหมวก
เอฟเฟคเสียงค่อนข้างดี หมวกมาพร้อมกับระบบกันเสียงรบกวน
เสียงที่หวังหลี่หุยใส่ลงไปในหมวก เขาสัมผัสได้ถึงเสียงรอบๆ ตัวเขาที่ค่อยๆ เบาลง เขาได้ยินเสียงผู้หญิงในหู
กรุณาตั้งพาสเวิร์ด
หวังหลี่หุยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาพูดขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ อะไร
ติดตั้งพาสเวิร์ดสำเร็จ พาสเวิร์ดคือ อะไร ถ้าจำเป็น คุณสามารถเปลี่ยนแปลงพาสเวิร์ดได้ที่ตัวเลือกการติดตั้งส่วนตัว เริ่มอินเตอร์เฟสได้
หวังหลี่หุยมีสีหน้างุนงง
ดูเหมือนว่าฉันน่าจะอ่านคู่มือมาก่อนนะ
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แล้ว
เขาเอนตัวลงบนเก้าอี้และรอ
หลังจากนั้นไม่นานเขาสัมผัสได้ถึงมดที่กัดตรงหลังคอ เขาเห็นแสงสีขาวพุ่งตรงมาที่เขา หลังจากความมืดหายไป เขาพบว่าตัวเองยืนอยู่บนชายหาด
หาดทรายสีทองเปล่งประกายอยู่ใต้แสงอาทิตย์ แสงอาทิตย์ส่องผ่านต้นมะพร้าว เขาได้กลิ่นเค็มของน้ำทะเลในอากาศ
ขอต้อนรับเข้าสู่ซีนเริ่มต้นของระบบแฟนท่อม คุณสามารถเลือกฉากเริ่มต้นจากฉากที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายทั้งสี่ฉาก คุณสามารถเข้าไปดูได้ในการตั้งค่า
ถ้านี่เป็นครั้งแรกที่คุณใช่ระบบแฟนท่อม คุณสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำและเรียนรู้การทำงานเบื้องต้นของระบบ
เราหวังว่าคุณจะมีประสบการณ์ที่แสนสุขในโลกเสมือน…
เสียงของระบบดังก้องในหูของหวังหลี่หุย แต่หวังหลี่หุยไม่สนใจเสียงนั่นเลยแม้แต่น้อย ดวงตาของเขาเบิกกว้าง เขาจ้องไปที่ชายหาดตรงหน้า
คำเดียวที่เขาสามารถบรรยายสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือคำว่าน่าทึ่ง ทุกอย่างมันเกินความคาดหมายที่เขามีต่อเทคโนโลยีโลกเสมือน เขาเริ่มจะสงสัยว่าหรือจริงๆ แล้วเขากำลังฝันอยู่
เขายังตกใจกับอย่างอื่นด้วย…
เขาคือผู้กำกับ ซึ่งเขาผ่านการกำกับหนังแอคชั่นมาแล้วหลายเรื่อง
เขาเป็นกังวลเสมอว่าจะถ่ายทอดไอเดียสร้างสรรค์สู่คนดูให้สมจริงอย่างไร แต่ตอนนี้เขากลับมีไอเดียมากมายเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีภาพเสมือนในฐานะสื่อสร้างสรรค์
แทนที่จะให้คนดูนั่งอยู่หลังจอ มันคงจะดีถ้าพวกเขาได้มีส่วนร่วมในฐานะตัวละครหรือผู้สังเกตการณ์ คนดูสามารถเปลี่ยนเป็นตัวละครระหว่างสองตัวละครในหนัง
หวังหลี่หุยปลื้มปีติ เขารู้สึกว่าใจเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ
เขารู้เรื่องนี้ดีกว่าใครทุกคนว่าถ้าเทคโนโลยีถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมบันเทิง มันจะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทั้งหมด มันคือการปฏิวัติแห่งอุตสาหกรรมภาพยนตร์
…
ในความเป็นจริงแล้ว เทคโนโลยีภาพเสมือนจะมีผลมากกว่าแค่กับอุตสาหกรรมบันเทิง
ตั้งแต่พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไปจนถึงธุรกิจ แทบจะทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตสามารถผสมผสานกับเทคโนโลยีภาพเสมือนได้
หวังหลี่หุยไม่ใช่คนเดียวที่ตื่นเต้น แต่คนมากมายข้างๆ ก็เริ่มสัมผัสได้ถึงโอกาสทางธุรกิจจากเทคโนโลยีนี้
การประชุมอยู่ในความโกลาหล
แม้ว่าทุกคนจะนั่งกันอย่างเงียบๆ แต่เท่าที่ดูจากเครื่องตรวจจับอารมณ์แล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาตื่นเต้นกันขนาดไหน
บุคลากรทางการแพทย์เตรียมตัวยืนอยู่ข้างคนที่มีอารมณ์ขึ้นลงผิดปกติ
แม้ว่าระบบแฟนท่อมจะมีกลไกตรวจจับความปลอดภัย และไม่มีหลักฐานทางการแพทย์โดยตรงที่ระบุว่าการกระตุ้นอารมณ์ที่มากเกินไปเป็นอันตราย แต่พวกเขาก็อยากจะปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าเสียใจภายหลัง
ชาวต่างชาติถอดหมวกออกและพูดกับเจ้าหน้าที่ข้างๆ อย่างตกใจ
มันสุดยอดไปเลย ทันทีที่คุณสวมหมวก อยู่ๆ คุณก็เข้าสู่โลกอีกใบทันที เมื่อไหร่คุณจะวางแผนขายมันที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
คนที่พูดก็คือเจ้าชายจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนื่องจากเขามาเดินทางมาทำธุรกิจที่จีนอยู่บ่อยๆ ภาษาจีนของเขาจึงค่อนข้างดี อีกทั้งเขายังเคยออกรายการทีวีของจีนด้วย
เขาต้องบินมาหลายพันไมล์เพื่อเข้าร่วมการประชุมนี้ เขาถึงกับต้องใช้เส้นสายทางการทูตเพื่อจะได้ตั๋วการประชุมพิเศษนี้มาครอง
แน่นอนว่าหัวเหว่ยต้องการธุรกิจจากชายตะวันออกกลางคนนี้
หลังจากได้ทดสอบระบบแฟนท่อมภาพเสมือนนี้แล้ว เจ้าชายก็หลงรักเทคโนโลยีทันที เขาทนรอส่งหมวกนี้ให้ประเทศเขาไม่ไหวแล้ว
เจ้าหน้าที่ยิ้มและพูด มันขึ้นอยู่กับแผนการทางธุรกิจของบริษัทเราและสตาร์สกายเทคโนโลยีครับ ตามหลักทฤษฎีแล้ว เครือข่ายภาพเสมือนจะต้องเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์คลาวด์คอมพิวติง ส่วนเซิร์ฟเวอร์คลาวด์คอมพิวติงจะต้องใช้เทคโนโลยีเครือข่าย 5G ที่กำลังแพร่หลายในประเทศจีน เราก็เลยเน้นการขายในประเทศก่อน แต่สำหรับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์…
เร็วเข้า ไปสร้างเครือข่าย 5G ในประเทศของผม ผมจะโน้มน้าวคุณพ่อให้ ถ้าพวกคุณต้องการเงินทุน ผมจะบอกให้ธนาคารให้คุณกู้เอง ซึ่งหนึ่งพันล้านดอลลาร์ไม่ใช่ปัญหาเลยพวก
ตอนที่เจ้าหน้าที่ได้ยินคำว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์ มือของพวกเขาสั่นขณะที่พูด
เอ่อ ผมเป็นแค่พนักงาน ไว้ผมจะถามประธานให้ครับ คุณมีอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์ไหม เราจะตอบกลับคุณภายในวันนี้
เจ้าชายโบกมือและพูด
โอเค โอเค ผมจะซื้อหมวกใบนี้
เจ้าหน้าที่พูดอย่างประหม่า
แต่คุณครับ คุณใช้มันในประเทศของคุณไม่ได้…
เจ้าชายพูดอย่างไม่แยแส ไม่เป็นไร ผมจะซื้อบ้านที่นี่และนั่งเครื่องบินของครอบครัวมาที่นี่เมื่อจำเป็น
เจ้าหน้าที่ …
ซื้อบ้านเพื่อหมวก…
คนนี้มันเป็นใครเนี่ย?!
…
ห้องประชุมอยู่ในความโกลาหล
เช่นเดียวกับศูนย์นิทรรศการ
ทันทีที่การขายเริ่มต้นขึ้นคนก็เริ่มกรูเข้ามาที่บูธ แถวได้หายไปและกลายเป็นกลุ่มคนจำนวนมหาศาลแทน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะต้องเข้ามาจัดระเบียบ พวกเขารีบควบคุมกลุ่มคนที่หลั่งไหลเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
ในทางกลับกัน คนที่อยู่ใกล้ๆ บูธก็เริ่มมีปากเสียงกัน
ผมจะเอาสิบชิ้น ชายร่ำรวยพูด เขาวางบัตรเครดิตบนเคาน์เตอร์และพูด รูดบัตรเลย เร็วเข้า
พนักงานมองแหวนทองบนนิ้วของเขา พวกเขาประหลาดใจ พวกเขาพูดอย่างสุภาพ ขอโทษนะครับคุณผู้ชาย แต่เรามีนโยบายขายได้คนละไม่เกินสองชิ้นเท่านั้น
ชายที่คิดว่าตัวเองจะสามารถทำเงินจากการนำไปขายต่อได้รู้สึกงุนงง
อะไรนะ? สองเองเหรอ คุณล้อกันเล่นใช่ไหมนี่ ผมมีเงินพอทีจะซื้อสิบใบด้วยซ้ำ
ขอโทษนะครับ เรามีหมวกขายที่งานแค่ 100,000 ใบเท่านั้น พวกเราจะต้องจำกัดจำนวนในการซื้อ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจอย่างทั่วถึง มันระบุอยู่ในเว็บไซต์หลักของเราแล้ว
นี่มันกลยุทธ์การขายแบบไหนกัน ผมไม่ใช่ไม่มีเงินจ่ายนะ
ขอโทษนะครับ แต่มันเป็นนโยบายของบริษัท
ปกติ คนรอบๆ ตัวเขาจะถูกใจเวลาคนทำอะไรโง่ๆ แบบนี้ แต่พวกเขาเองก็อยากซื้อเหมือนกัน พวกเขาจึงรำคาญเขา
เวรเอ๊ย สมองก็มีแค่สมองเดียว หมวกสองใบยังไม่พออีกเหรอ
สิบ…นี่คุณเปิดร้านอินเทอร์เน็ตโลกเสมือนหรือไงกัน
ชายคนนี้ดูเหมือนจะนำไปขายต่อนะ เขาจะทำกำไรเป็นหมื่นๆ จากการขายหมวกแค่ใบเดียว ชั่วจริงๆ
ชายคนนั้นระบายความโกรธลงที่พนักงานที่อยู่ด้านหลังบูธ
ผมไม่สน พวกคุณเลือกปฏิบัติกับผม ผมจะไปแจ้งตำรวจ
คุณครับ ถ้าคุณจะทำกิริยาแบบนี้ ผมเกรงว่าจะต้องโทรเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเพิ่มคุณในบัญชีดำเพื่อสั่งห้ามคุณจากการซื้อของทั้งหมด
ตอนนี้ชายคนนั้นได้ยินแบบนั้นในที่สุดเขาก็ใจเย็นลง
เขาไม่ได้กลัวเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แต่เขากลัวว่าจะโดนเพิ่มชื่อในบัญชีดำ
หลังจากที่ได้เห็นคนข้างหลังเริ่มทำท่าทีรำคาญ เขาจึงซื้อหมวกสองไปและออกจากตรงนั้น
แถวและผู้คนด้านในศูนย์นิทรรศการเริ่มเคลื่อนที่อย่างช้าๆ
คนถูกปล่อยให้เข้าไปด้านในทีละกลุ่ม แต่คนที่ยืนอยู่ด้านนอกก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดแล้ว
ด้านนอกศูนย์การประชุมนานาชาติและศูนย์นิทรรศการ ตรงข้ามถนนคือร้านให้บริการซัมซุง พนักงานสามสี่คนยืนกอดอกอยู่หน้าร้าน พวกเขามองดูฝูงชนด้านนอกศูนย์การประชุมนานาชาติและศูนย์นิทรรศการ
ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นผู้จัดการร้านพูดพร้อมสายตาแห่งความอิจฉา
พระเจ้า นายคิดว่าด้านในจะมีคนกี่คน
พนักงานข้างๆ พูด
น่าจะเป็นหมื่นคนอยู่นะ
บ้าไปแล้ว
ฉันได้ยินมาว่ามันเอามาขายต่อได้ในราคา 20,000 หยวนเลยนะ ฉันเห็นคนขายออนไลน์อยู่
ตาของผู้จัดการร้านเบิกกว้าง
ทำไมนายไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้
พนักงานตอบอย่างระมัดระวัง ก็นายไม่ได้ถาม แล้วพวกเราก็ลาหยุดไม่ได้ด้วย
ผู้จัดการกัดฟันและตัดสินใจ
ไปเลย!
ไปไหน
ไม่มีใครเข้าร้านเราอยู่แล้ว ปิดร้านแล้วไปต่อแถวกับฉัน
ผู้จัดการร้านถอดเครื่องแบบและทำท่าทางเหมือนจะเดินไป พนักงานหยุดเขาและพูด นี่ ถ้าเราไปตอนนี้ เราอาจจะซื้อไม่ได้สักใบเลยด้วยซ้ำ
แต่มัน 20,000 หยวนเลยนะ
ขายต่อได้ตั้ง 20,000 หยวนเลยนะ
ผู้จัดการลังเลอยู่สักพักก่อนจะพูด ลองดูก็ไม่เสียหายอะไรนี่นา มาต่อแถวกับฉัน ทุกคนเลย
ความโกลาหลได้เกิดขึ้น
……………………