ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 1214 การสร้าง
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 1214 การสร้าง
ในออฟฟิศเงียบสงัด
ผมเพิ่งจะค้นพบเมื่อวานนี้เอง หลังจากปิดโทรทัศน์ ศาสตราจารย์วิทเทนก็มองมาที่ศาสตราจารย์วิลกเซคซึ่งกำลังตะลึงงันและพูดว่า มันดูเหมือนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาให้ความเห็นแบบนี้… ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ผมได้ยินผู้ช่วยของผมกำลังพูดเล่นว่าเขาเป็นผู้สอนศาสนาซึ่งเทศนาอยู่ในห้องปฏิบัติการของเราตลอดทั้งวัน
วิลกเซคหมุนนิ้วชี้และพูดว่า เรื่องนี้มันเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร?
สัปดาห์ที่แล้วหลังจากการทดลอง
ผมไม่เชื่อเลยว่าการทดลองจะทำให้เขาดังไปถึงขั้นนี้ วิลกเซคถอดแว่นตาของเขาออกแล้วถูดั้งจมูกขณะที่พูดว่า เราควรจะช่วยเหลือเขายังไงดี?
นี่เป็นปัญหาที่คุณต้องไตร่ตรอง อย่าพยายามโยนความรับผิดชอบมาให้ผม แล้ววิทเทนก็พูดว่า รายชื่อของนักวิจัยในทีมโปรเจกต์การทดลองการชนได้รับการลงนามและอนุมัติโดยคุณ แล้วตอนนี้บางอย่างกำลังเกิดความผิดพลาด คุณจะไม่ไปเก็บกวาดความยุ่งเหยิงที่อยู่ในความรับผิดชอบของคุณเหรอ?
ผมเป็นคนอนุมัติจริงๆ เหรอ…?
พอเห็นว่าวิทเทนไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไป ศาสตราจารย์วิลกเซคก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า ก็ได้ ดูเหมือนผมจะนึกออกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากใช้เวลาอยู่ครึ่งนาทีในการครุ่นคิดว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้แล้ว เขาเงยหน้าขึ้นและพูดว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นบ้าไปแล้ว
คำแนะนำของผมสำหรับศาสตราจารย์มิโรก็คือให้เขาไปพัก และในช่วงเวลาระหว่างนั้น… เราต้องหาทางหยุดยั้งเขาจากการให้ความเห็นที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบเช่นนี้ในนามของ ILHCRC
ที่นี่เป็นอารามแห่งวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่โบสถ์ ถ้าเขาเชื่อความคิดพวกนั้นจริงๆ… มันคงจะดีกับเขามากกว่าที่จะไปทำงานวิจัยของเขาต่อในวัด
วิทเทนพยักหน้า
ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน
อย่างไรก็ตามร่องรอยความกังวลก็ยังปรากฏขึ้นในแววตาของวิทเทน
ผมหวังว่านี่จะไม่ทำให้เขาแย่ไปยิ่งกว่าเดิม ผมหวังว่าเขาจะหายเป็นปกติโดยเร็วที่สุด
วิลกเซคพูดว่า อันที่จริงผมก็อยากรู้ว่าเขาได้ทฤษฎีเรื่องพระเจ้าผ่านการขยายของมวลมาได้ยังไง
เมื่อวิลกเซคสังเกตเห็นว่าวิทเทนกำลังจ้องมาที่เขา เขาก็หัวเราะออกมาและพูดว่า แน่นอนว่าผมก็แค่อยากรู้… แต่ผมจะไม่ไปถามเขาจริงๆ หรอก
…
ลู่โจวคาดการณ์ไว้ว่าการทดลองนี้จะทำให้โลกฟิสิกส์ต้องตกตะลึง อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้คาดไว้ว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปในทิศทางที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
ดูเหมือนจะเกิดศาสนาใหม่ขึ้นมาใช่ไหม?
คนเหล่านี้เชื่อใน ‘ทฤษฎีการสร้างพระเจ้า’ ซึ่งทุกอย่างถูกจัดการโดยเจตนา พวกเขาเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตที่สูงส่งกว่าบางอย่าง อารยธรรมหรือแม้แต่จิตสำนึกได้สร้างจักรวาลนี้ขึ้นมา
พวกเขาตั้งชื่อให้สิ่งมีชีวิตนี้ ซึ่งเป็นอารยธรรมหรือจิตสำนึกให้เรียกว่าจิตวิญญาณแห่งจักรวาล
จิตวิญญาณแห่งจักรวาลเป็นไปตามทฤษฎีการสร้างพระเจ้า
ในความเป็นจริงทฤษฎีการสร้างพระเจ้าไม่ใช่เรื่องใหม่ในฟิสิกส์ มิชิโอะ คะกุ หนึ่งในผู้ค้นพบทฤษฎีสตริงเป็นผู้สนับสนุนที่ยึดมั่นในทฤษฎีนี้
ศาสตราจารย์คะกุยังเสนอทฤษฎีจักรวาลคู่ขนานและทฤษฎีการเดินทางข้ามเวลาเป็นต้น
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่ได้ผ่านการพินิจพิเคราะห์ แต่มันต่างก็ไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นเท็จ
มันเหมือนกับการที่นักฟิสิกส์คาดเดาว่ามีไข่เกิดขึ้นมาก่อนเกิดบิ๊กแบง แม้ว่าปฏิกิริยาครั้งแรกของคนส่วนใหญ่จะเป็นแบบที่ว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้พวกเขาสามารถพิสูจน์ได้ว่ามันไม่จริง
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตของเวลา และความคิดทั้งหมดก็ล้วนเป็นผลผลิตของเวลา
เวลาเริ่มขึ้นที่จุดเริ่มต้นของบิ๊กแบง
ดังนั้นหากจะพูดด้วยเหตุผล มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะพิสูจน์ความจริงหรือพิสูจน์ว่าการคาดคะเนใดๆ ที่เกิดขึ้นก่อนจักรวาลนั้นเป็นเท็จ
มันคงจะดีสำหรับศาสนาใหม่นี้ซึ่งเชื่อในจิตวิญญาณแห่งจักรวาลที่จะได้รับความสนใจ
แต่จุดประสงค์ของวิทยาศาสตร์นั้นเพียงเพื่อที่จะศึกษาความลึกลับต่างๆ ของโลกนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อกีดกันคนอื่นจากความเชื่อของพวกเขา
อย่างไรก็ตามปัญหาก็คือว่าลัทธินี้ดูเหมือนจะได้รับความศรัทธาจากนักวิจัย ILHCRC บางคน…
สถานการณ์ดูเหมือนจะไม่สามารถควบคุมได้
ลู่โจวยืนอยู่ที่ทางเข้าตึกอพาร์ทเมนท์ หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง
เสี่ยวไอ
ช่องแชทปรากฏขึ้นบนหน้าจอของเขา
เสี่ยวไอ: [อยู่นี่ค่ะ เจ้านาย! ♪(^∇^*)]
ลู่โจวครุ่นคิดนิดหนึ่งก่อนจะถามว่า หาข้อมูลของคำว่า ‘จิตวิญญาณแห่งจักรวาล’ ในฐานข้อมูลของเธอให้หน่อยได้ไหม?
เสี่ยวไอ: [จิตวิญญาณแห่งจักรวาล? มันคืออะไร? ( ̄△̄;)]
ลู่โจว: ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่อยากรู้
จนถึงตอนนี้แม้ว่าเขาจะสามารถลงความเห็นได้ว่าเสี่ยวไอมาจากที่ใด แต่เขาก็ยังคิดไม่ออกว่าความจำของเสี่ยวไอมาจากไหน
หากล่าวกันตามเหตุผล ก่อนที่อารยธรรมวอยด์จะส่งมันมาให้เขา ทุกอย่างเกี่ยวกับอารยธรรมคาลานก็ควรจะถูกลบออกจากฐานข้อมูลของมันก่อน
อย่างไรก็ตามสำหรับเสี่ยวไอแล้ว มันสามารถที่จะเก็บรักษาความจำเอาไว้ได้
แล้วโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์จะลืมเรื่องต่างๆ ไหม?
ลู่โจวไม่รู้
จริงๆ เขาต้องการจะรู้ความลับที่อยู่เบื้องหลังเสี่ยวไอ
เสี่ยวไอ: [ถึงเสี่ยวไอจะไม่รู้ แต่เสี่ยวไอก็สามารถช่วยเจ้านายค้นหาฐานข้อมูลทั้งหมดบนเวิลด์ไวด์เว็บเพื่อหาคำตอบที่เกี่ยวข้องได้ (๑•̀ᄇ•́)و✧]
ลู่โจว: ไม่เป็นไร ขอบคุณ มันไม่จำเป็นอีกต่อไป
ชายร่างผอมสูงคนหนึ่งเปิดประตูตึกอพาร์ทเมนท์แล้วเดินออกมา
เมื่อเขาเห็นลู่โจว เขาก็ทำสีหน้าประหลาดใจ
เขาพูดขึ้นว่า
ลู่โจว?
ลู่โจวมองมาที่เขา
คุณเป็นหนึ่งในคนอเมริกันไม่กี่คนที่จำผมได้
ครับ ผมศึกษาเรื่องฟิสิกส์มาหลายปีมาก… ศาสตราจารย์มิโรพูด ศาสตราจารย์ลู่ที่เคารพ ลมอะไรหอบคุณมาที่นี่ครับ? ผมเกรงว่าผมจะไม่สามารถมอบสติปัญญาให้กับคุณได้
ลู่โจวรู้สึกได้ถึงความอิจฉาและกระทั่งความไม่เป็นมิตรที่แฝงอยู่ซึ่งออกมาจากน้ำเสียงของเขา
สิ่งนี้ทำให้ลู่โจวรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย
เขาไม่ค่อยเข้าใจว่าเขาทำอะไรให้ชายผู้นี้ขุ่นเคือง
อย่างไรก็ตามลู่โจวก็เลิกใส่ใจความไม่เป็นมิตรของนักฟิสิกส์หนุ่มคนนี้
เขาถามว่า คุณอยากจะไปจิบกาแฟกับผมไหม?
หลังจากจ้องลู่โจวอยู่พักหนึ่ง ศาสตราจารย์มิโรก็ยักไหล่แล้วพูดว่า ได้สิ ผมมั่นใจว่าคงไม่มีใครปฏิเสธคำเชิญของคุณหรอก
ผมรู้จักร้านดีๆ อยู่ ลู่โจวมองมาที่หวังเผิงและพูดว่า ไปเอารถมา ไปร้านเดิมนะ
หวังเผิงมองไปที่ศาสตราจารย์มิโร แล้วเขาก็พยักหน้า
ได้ครับ
เขาหันกลับไปแล้วเดินไปที่รถ
……………