ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 560
ตอนที่ 560 พอหนูโตขึ้น หนูก็อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์เหมือนกันค่ะ
ณ ปักกิ่ง
ในอพาร์ตเมนต์ธรรมดาแห่งหนึ่งที่เขตถนนวงแหวนรอบที่สาม
สมาชิกครอบครัว 4 คนนั่งร่วมโต๊ะกินข้าวในบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา
ถ้านี่เป็นเหมือนปีก่อนๆ ก็คงจะมีคนอีกคนหนึ่งนั่งร่วมโต๊ะด้วย
แต่ตอนนี้คนคนนั้นอยู่ที่เมืองไห่โจว มณฑลเจียงซู และยังไม่กลับมา
“คุณย่าคะ แล้วคุณปู่ล่ะคะ? คุณปู่ไม่มากินข้าวกับเราเหรอ?”
เด็กหญิงตัวน้อยที่มีผมหางม้าเอียงหัวแล้วถามเบาๆ
อู๋ไห่เยี่ยนมีผมสีขาว เธอมองหลานสาวที่เธอรักยิ่งแล้วยิ้มขึ้น
“หลานจ๋า หลานคิดถึงคุณปู่เหรอจ๊ะ?”
“ค่ะ!” เด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้ารับแล้วถามต่อ “คุณปู่ไปไหนล่ะคะ?”
อู๋ไห่เยี่ยนยิ้มขณะที่แตะเส้นผมของหลานสาวแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“คุณปู่กำลังทำดวงอาทิตย์อยู่จ้ะ”
เด็กหญิงตัวน้อยกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา ก่อนจะถามอย่างสงสัยว่า “ทำดวงอาทิตย์เหรอคะ? มันทำได้ด้วยเหรอ?”
“ทำได้สิจ๊ะหลาน” อู๋ไห่เยี่ยนยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “คุณปู่ของหลานเป็นนักวิทยาศาสตร์นะ ไม่มีอะไรที่ปู่ทำไม่ได้หรอก”
พานเกาหยางกำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะอาหาร เขามองลูกสาวของเขาและแม่ของเขาพร้อมกัน จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “คุณพ่อก็เกษียณแล้ว ทำไมเขายังยุ่งอยู่ล่ะครับแม่ พรุ่งนี้ก็วันสิ้นปีแล้วนะ”
อู๋ไห่เยี่ยนรู้ว่าลูกชายของตัวเองคิดอะไรอยู่ เธอถอนหายใจแล้วพูดขึ้นว่า “สุดท้าย มันก็เป็นเพราะความฝันของพ่อลูกนั่นแหละ”
พานเกาหยางพูดต่อ “ผมรู้ครับแม่ แต่พ่อไม่เห็นต้องยุ่งขนาดนี้นี่ครับ?”
ถึงเขาจะตั้งคำถามกับสิ่งที่พ่อเขาทำ เขาก็เข้าใจดีว่าทำไมพ่อของเขาถึงทำแบบนี้
อย่างที่แม่เขาบอกนั่นแหละ นี่คือความฝันของพ่อ และพ่อของเขาก็ต่อสู้เพื่อความฝันนี้มาตลอดชีวิต
แต่ฟิวชั่นที่ควบคุมได้ก็ยังเป็นวิทยาศาสตร์ของอนาคต ทุกอย่างที่เป็นการวิจัยเนื้อหาลึกแบบนั้นก็ยากเหมือนกันหมด
ขนาดพวกชาวตะวันตกยังสับสนกับเรื่องพวกนี้เลย มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไล่ตามเทคโนโลยีคนพวกนั้นแล้วก้าวขึ้นมาเป็นแถวหน้าของโลกได้
เข็มนาฬิกาบนผนังชี้เวลา 1 ทุ่มตรง โทรทัศน์กำลังรายงานข่าวอยู่ในห้อง
พานเกาหยางไม่ได้ดูทีวีมานานแล้ว เขาจึงไม่ได้ตั้งใจฟังหรือสนใจข่าวอะไร
แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงอุทานของลูกสาว
“ว้าว! คุณปู่ค่ะ! คุณปู่ออกทีวีด้วย!”
คุณปู่ออกทีวีเหรอ?
พานเกาหยางตกตะลึง เขารีบหันไปมองหน้าจอโทรทัศน์ทันที
คลิปสั้นของห้องควบคุมเครื่องปฏิกรณ์สาธิตฉายอยู่บนทีวี
เดี๋ยวนะ ชายแก่ที่ใส่เสื้อแจ็กเกตสีเทาที่น้ำตาไหลคนนั้น…นั่นพ่อฉันนี่นา?
การทดลองทำฟิวชั่นอิกนิชั่นเหรอ?
เชื่อมต่อกับกริดไฟฟ้าในปีนี้เหรอ?
ทำไมฉันไม่เคยได้ยินพ่อพูดเรื่องนี้มาก่อนเลยล่ะ?
หรือว่า…นี่แปลว่าพวกเขาทำสำเร็จแล้วเหรอ?
ฟิวชั่นที่ควบคุมได้น่ะนะ!
ในขณะที่พานเกาหยางฟังผู้ประกาศข่าวอยู่นั้น เขาก็ตกตะลึงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ลูกสาวของเขาที่นั่งอยู่ข้างๆ มองจอทีวีด้วยความสงสัย ก่อนจะพูดด้วยเสียงของสาวน้อยว่า
“ผู้ชายคนที่ยืนอยู่ข้างคุณปู่นี่ใช่ศาสตราจารย์ลู่ คนที่คุณปู่ชอบพูดถึงตลอดหรือเปล่าคะ?”
“ผู้ชายเหรอ?” พานเกาหยางหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง เขามองไปที่ชายหนุ่มผ่านจอทีวีแล้วก็ยิ้มออก เขาพูดขึ้นว่า “ใช่ พ่อว่าใช่เขาแหละ เขาดูค่อนข้างหนุ่มนะ”
ภรรยาของเขาที่นั่งอยู่ข้างๆ พูดติดตลกขึ้นมาว่า “ดูเขาสิ ได้รางวัลโนเบลตอนอายุยี่สิบกว่าๆ เองนะ ตอนคุณอายุยี่สิบคุณทำอะไรอยู่เหรอ?”
เมื่อพานเกาหยางได้ยินคำพูดแซวของภรรยา เขาก็ยิ้มแล้ววางมือบนไหล่ของเธอ
“เธอจำไม่ได้เหรอ? ฉันก็ตามจีบเธออยู่ไง”
ชุยเสวียฟางมองตาสามีของเธอ จากนั้นเธอก็หน้าแดงแล้วกลอกตา
“หยุดจีบฉันได้แล้วน่า”
เด็กหญิงตัวน้อยยังคงจ้องอยู่ที่หน้าจอทีวี ทันใดนั้นเธอก็หันไปมองพ่อและพูดออกมาด้วยเสียงที่แม้จะฟังดูเด็กๆ แต่ก็จริงจังว่า “พ่อคะ พอหนูโต หนูก็อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์เหมือนกันค่ะ”
พานเกาหยางยิ้มและลูบหัวของลูกสาว
“โอเค โอเค พ่อจะสนับสนุนทุกอย่างที่ลูกอยากทำนั่นแหละ! แต่นักวิทยาศาสตร์น่ะ ไม่ได้เป็นกันง่ายๆ นะลูก”
เด็กหญิงตัวน้อยกำมือ
“หนูจะพยายามให้ดีที่สุดค่ะ!”
พานเกาหยางยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่เลวเลยนะ ลูกมีความมุ่งมั่นมาก ถ้าลูกมั่นใจขนาดนี้แล้ว สอบครั้งหน้าลูกลองทำให้ได้ที่หนึ่งทั้งสองวิชาเลยไหม!”
…
ในขณะที่การรายงานกำลังดำเนินอยู่ แอคเคานต์ทางการในเว่ยป๋อของโครงการปฏิกรณ์สาธิต ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ก็โพสต์ข้อความขึ้น
โพสต์นั้นสั้นผิดปกติมากเมื่อเทียบกับโพสต์ฉลองทั่วไป มันมีอยู่แค่ห้าพยางค์เท่านั้น
[เราทำสำเร็จแล้ว!]
ในช่วงที่โพสต์นี้เผยแพร่ออกไป สื่อหลายสำนัก รวมถึงสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนและเหรินเหรินเดลี่ก็ได้รีโพสต์ข้อความดังกล่าวแล้วเพิ่มคำอธิบายเพิ่มเติมลงไป
นี่ก็เหมือนแสงฟิวชั่นที่ได้รับการจุดไม่มีผิด
เหมือนกับว่าข่าวเรื่องการทดลองที่สำเร็จได้สร้างปีกขึ้นมาคู่หนึ่ง ปีกที่บินด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อไปทั่วประเทศ
แทบทุกคนที่ได้เห็นข่าวรู้สึกตกตะลึงกันทั้งนั้น
[เช็ดโด้ ฟิวชั่นที่ควบคุมได้ว่ะ!!! ในที่สุดฉันก็ได้เห็นนิวเคลียร์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้ก่อนตายแล้ว!!!]
[ฉันเพิ่งตื่นมาแล้วก็เห็นข่าวเรื่องการฟิวชั่นอิกนิชั่นของเครื่องปฏิกรณ์สาธิต ช็อกซีนีม่าเลยจ้ะ ใครก็ได้ บอกฉันทีว่าตอนนี้ปีไหนแล้ว ฉันหลับไปนานเท่าไร? ฉันกลายเป็นกัปตันอเมริกาไปแล้วเหรอ?]
[ถึงฉันจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันก็ดูน่าประทับใจมากเลยนะ!]
[ประเทศจีนมีเทคโนโลยีที่ดีสุดเลย! (กำหมัด) (กำหมัด) (กำหมัด)]
[ขอบคุณนักวิทยาศาสตร์ทุกคนเลยนะที่ขนาดใกล้ช่วงวันหยุดก็ยังทำงานกันน่ะ! (แตะ) (แตะ) (แตะ)]
[ขอแสดงความยินดีด้วย! จากมหาวิทยาลัยจินหลิง]
[ขอแสดงความยินดีด้วย! จากมณฑลเจียงซู ฉันคนหนึ่งล่ะ ที่ขออ้าแขนรับการลดราคาค่าไฟ แกโดนแล้ว พวกคนเจ้อเจียง!]
[ขอแสดงความยินดีด้วย จากมณฑลเจ้อเจียง! แล้วก็นะ เจ้าคนที่มาจากเจียงซูน่ะ ฉันมั่นใจว่าค่าไฟที่นี่ก็จะลดราคาเหมือนกันนั่นแหละ]
[ในที่สุดวิทยาศาสตร์ก็ติดเทรนด์เสียที!]
[อันนี้มันดีแค่ไหนเหรอ?]
[…]
ก็ยังมีเสียงตอบรับไปมนทางตรงกันข้ามออกมา ตั้งคำถามว่าที่ทำไปมันคุ้มหรือไม่ พวกเขาตั้งข้อสงสัยว่าเทคโนโลยีมันจะดีเหมือนที่พูดไว้จริงเหรอ พวกเขาสงสัยแม้กระทั่งว่าฟิวชั่นอิกนิชั่นมันสำเร็จจริงหรือเปล่า…
แต่พวกเขาก็ไม่ได้เป็นความคิดเห็นกระแสหลัก และพวกเขาก็จะไม่มีวันได้เป็นด้วย
เหมือนกับการวิจัยวิทยาศาสตร์ที่บริสุทธิ์นั่นแหละ
จะยังคงมีความเคารพต่อการค้นคว้าอนาคตข้างหน้าอยู่เสมอ
เพราะสุดท้าย คนส่วนใหญ่ก็มุ่งหน้าไปหาอนาคตอยู่แล้ว
เหรินเหรินเดลี่และสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนไม่ใช่แค่สื่อเดียวที่มีมวลมหาประชาคอมเมนต์เต็มไปหมด
หลังจากที่โลกได้เรียนรู้ว่าหัวหน้ารักออกแบบที่อยู่เบื้องหลังเครื่องปฏิกรณ์สาธิตเป็นใครแล้ว คอมเมนต์ฝ่ายลู่โจวก็ระเบิดขึ้นมา
[ท่านเทพลู่เทพจ๊าด!]
[โหดเกิ๊น!]
[ให้ความเคารพกันหน่อยสิ! หยุดเรียกเขาว่าท่านเทพลู่ได้แล้ว! เรียกเขาว่าหัวหน้านักออกแบบลู่เถอะ!]
[ท่านเทพลู่ทรงประทานดวงอาทิตย์ให้แก่พวกเรา!]
[เขาเก่งเกินไปแล้ว!!!]
[ท่านเทพลู่ครับ! ท่านเทพลู่มีแฟนสาวหรือยังครับ? ท่านคิดจะมีแฟนเป็นผู้ชายไหมครับ?]
[? ? ?]
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ศาสตราจารย์ลู่มักจะชอบแชร์ความสุขกับแฟนๆ ของเขาบ่อยๆ แต่เขาก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับแฟนๆ ของเขาตลอดเวลา
ปกติแล้ว ถ้ามีใครบอกว่าเขาหล่อในช่องคอมเมนต์ เขาก็จะแอบกดไลก์ให้คอมเมนต์นั้น
แต่วันนี้ ไม่ว่าแฟนๆ จะชมลู่โจวมากขนาดไหน…ลู่โจวก็ไม่โผล่มาเลย
หรือว่าเขาจะยุ่งเกินไปกันนะ?
คนส่วนใหญ่ก็คิดอย่างนั้นกัน
เพราะสุดท้าย ลู่โจวก็ไม่ได้เป็นแค่ศาสตราจารย์คณิตศาสตร์ธรรมดาๆ คนหนึ่งอีกต่อไปแล้ว เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรเจกต์วิจัยวิทยาศาสตร์ที่มีค่ามากถึงหมื่นล้านเหรียญ ยิ่งเขากลายเป็นหัวหน้านักออกแบบโปรเจกต์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้แล้ว เขาก็คงจะไม่มีเวลามาออนไลน์มากนัก
แต่สักวัน ลู่โจวจะต้องมาอ่านคอมเมนต์และส่งยิ้มให้พวกเขาแน่ๆ ใช่ไหม?
คนส่วนใหญ่ก็คิดอย่างนั้น
แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ฮีโร่ของพวกเขากำลังนอนหมดสติอยู่บนเตียงในห้อง 301 ที่โรงพยาบาล