ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 621 ผมไขได้แล้ว / ตอนที่ 622 ทางแก้ทั่วไปของสมการหยาง-มิลส์!
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 621 ผมไขได้แล้ว / ตอนที่ 622 ทางแก้ทั่วไปของสมการหยาง-มิลส์!
ตอนที่ 621 ผมไขได้แล้ว
ชอล์กบนกระดานดำหยุดการขยับ
การอธิบายจากลู่โจวก็หยุดเช่นกัน
ผู้รับชมทุกคนอึ้งกันหมด
มือของลู่โจวไม่ได้หยุดเขียนมาชั่วโมงกว่าแล้ว และเขาหยุดอย่างกะทันหัน ทุกคนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ทุกคนรู้ว่าเมื่อมีใครอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปกติ คนพวกนั้นก็มักจะมีประสิทธิภาพแย่กว่าปกติ หลายคนเคยเห็นศาสตราจารย์จิตหลุดระหว่างการรายงาน แล้วก็สิ่งนี้เป็นโจทย์คณิตศาสตร์ระดับใหญ่ มันไม่เพียงแค่ทดสอบระดับความรู้คณิตศาสตร์และทักษะการพูดของผู้รายงาน แต่มันยังทดสอบความอึดของจิตใจผู้รายงานอีกด้วย
ทุกคนรอคอยในความเงียบ
แต่…
สิบวินาทีผ่านไป
ห้านาทีผ่านไป
ลู่โจวยังยืนนิ่งบนเวที เขามองดูกระดานดำเหมือนว่ากำลังคิดอะไรบางอย่าง
เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีท่าทีอะไรมานาน ผู้ชมเริ่มกังวล
ทำไมเขาไม่ขยับเลย?
เขาติดอยู่ในความคิดใช่ไหม?
หรือว่าเขา…ค้นพบว่าตัวเองทำพลาด?
หลายคนดูเหมือนว่ากำลังย่ามใจ ในขณะที่บางส่วนก็รู้สึกกังวล ท้ายที่สุดแล้ว การทำพลาดระหว่างการรายงานข้อคาดการณ์คณิตศาสตร์ระดับใหญ่นั้นเป็นไปได้ มันไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องถูกไปตลอด
แต่ไม่มีใครคิดว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นระหว่างการรายงาน แทนที่จะเกิดในช่องถามตอบ
มันแทบจะเหมือนว่า…
ลู่โจวใช้ตรรกะตัวเองเพื่อยึดเขาไว้กับพื้น
นักข่าวที่ยืนอยู่หลังหอประชุมสังเกตเห็นความวุ่นวายในกลุ่มผู้ชม พวกนั้นรู้สึกว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น พวกนั้นแอบเพ่งเลนส์กล้องไปที่ลู่โจวเพื่อถ่ายภาพใกล้ใบหน้าของเขา
คนทั่วไปชอบดูอุบัติเหตุเกิดขึ้นเสมอ
อาจารย์ใหญ่สวี่และคณบดีฉินรวมไปถึงอาจารย์คนอื่นที่อยู่ในห้องประชุมเริ่มเหงื่อออก ทีมงานใกล้เวทีดูทำอะไรไม่ถูกยิ่งกว่า พวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขาควรบอกลู่โจวเรื่องเวลาหรือแค่ยืนรออยู่ตรงนั้น
คณบดีฉินกำหมัดแน่นในขณะที่เขาพึมพำว่า “เขากำลังทำอะไร ไม่ใช่ว่าเขาจะพิสูจน์มันงั้นเหรอ?”
เขาได้อ่านธีสิสและเข้าใจมัน ด้วยอีกไม่กี่ขั้นตอน เขาสามารถพิสูจน์การมีอยู่ของทางแก้สมการหยาง-มิลส์ เขาไม่รู้ว่าลู่โจวลืมไปหรือเกิดอะไรขึ้น เพราะลู่โจวยืนอยู่ตรงนั้นและ…เริ่มฝันกลางวัน?
หานเมิ่งฉีที่ยืนดูลู่โจวบนเวทีจากที่มุมของประชุม เธอกำหมัดขวาและภาวนาให้ลู่โจวเงียบๆ
หลินอวี่เซียงที่ยืนอยู่ข้างเธอมีสีหน้าเหมือนว่าเธอค้นพบบางอย่าง เธอยิ้มเยาะและมีสีหน้าซุกซนเล็กน้อย
ในกลุ่มผู้ชม
นักวิชาการหวังซื่อเฉิงนั่งอยู่ในมุมของหอประชุม เขามองดูกระดานดำและขมวดคิ้ว
กระบวนการพิสูจน์นั้นถูกต้อง
ข้อพิสูจน์ที่เหลือน่าจะง่าย มันน่าจะใช้อีกแค่หนึ่งประโยคเพื่อทำให้ข้อพิสูจน์เสร็จ ลู่โจวเพียงแต่ต้องพรีเซนต์พาวเวอร์พอยต์ให้เสร็จและเริ่มช่วงถามตอบ
สำหรับนักวิชาการที่มีชื่อเสียงระดับสากล ผู้คนจะไม่ขอให้เขาพิสูจน์ทุกขั้นตอนอย่างชัดเจน เขาเพียงแค่จำเป็นที่ต้องตอบบางขั้นตอนที่เป็นที่วิพากษ์มากกว่า
ในขณะที่นักวิชาการหวังกำลังคิดถึงกระบวนการพิสูจน์ ชายที่สวมแว่นนั่งอยู่ข้างเขาถามขึ้นว่า “นี่เขา…ติดขัดเหรอ? นี่มันจะน่าอายสำหรับลู่โจว”
หวังซื่อเฉิงมองดูเขาและพูดเสียงเบา “หุบปาก”
ชายคนนั้นเงียบปากไปทันที
สุดท้ายแล้ว หวังซื่อเฉิงเคยเป็นประธานสมาคมคณิตศาสตร์ประเทศจีน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้มีชื่อเสียงในชุมชนวิชาการสากล เขายังเป็นคนโด่งดัง อย่างน้อยก็ภายในประเทศ
ที่อีกด้านหนึ่งของหอประชุม
ศาสตราตารย์วิทเทนมองลู่โจวที่ยืนบนเวทีและหันไปมองศาสตราจารย์เดอลีงย์
“มีปัญหาอะไรกัน?”
คิ้วของเดอลีงย์ขมวดขึ้น เขาไม่ได้พูดอะไร
คิ้วของเฟฟเฟอร์แมนก็ขมวดเช่นกัน ดูเหมือนว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
สำหรับไวลส์ เขาไม่กังวลอะไรเลย เขายิ้มหน้านิ่งและตอบคำถามของวิทเทนอย่างมีความสุข “ขั้นตอนการคิดของเขาอาจจะติดขัด ตอนที่ผมวิจัยทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา ผมตกอยู่ในสภาพเดียวกัน…ผมรู้ว่าเขากำลังเจออะไรอยู่ตอนนี้ เราเพียงต้องรออีกสักพัก”
ช่วงที่เขาวิจัยทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา เขาล้มเหลวครั้งแรกที่เขาใช้ทฤษฎีอิวาซาวะ จากนั้นเขาจึงเปลี่ยนมาใช้วิธีโคลิวากิน ฟีตเชอร์ ต่อมาเขาพบว่าวิธีนี้มีปัญหาร้ายแรงเมื่อประยุกต์ใช้กับคลาสออยเลอร์พิเศษ สิ่งนี้ทำให้เขาละทิ้งการอ้างของเขาที่พิสูจน์ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา
นั่นเป็นจนกระทั่งวันสุดท้ายของเดือนสิงหาคม เมื่อเขาเกิดไอเดียขึ้นกะทันหันที่จะใช้ทฤษฎีอิวาซาวะรวมกับวิธีการโคลิวากิน ฟีตเชอร์ อย่างน้อย ผลลัพธ์สุดท้ายค่อนข้างน่าพึงพอใจ ไวลส์ซ่อมช่องโหว่ในธีสิสที่สิ้นหวังและเปลี่ยนมันให้เป็นข้อพิสูจน์ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา
ไวลส์พูดถึงการที่เขาได้รับแรงบันดาลใจจากตัวต่อเลโก้ของลูกสาวและความร้อนรนของเขา และเช้าที่ดวงอาทิตย์สว่างไสวกับบาบาร่าเป็นอย่างไร…
จริงๆ แล้ว เขามีสิทธิ์ที่จะพูดโอ้อวด
เท่าที่ข้อคาดการณ์เกี่ยวข้องด้วย ข้อพิสูจน์ทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มาเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมที่สุดในศตวรรษที่ 20
แต่มันผ่านไปแล้วสามสิบปี
เมื่อเดอลีงย์ได้ยินเขาโอ้อวด เขาก็แค่ไม่สนใจเขา
เฟฟเฟอร์แมนยื่นมือไปสะกิดวิทเทน
วิทเทนมองดูเขา
“มีอะไรเหรอ? “
“ผมได้ยินเรื่องนี้ในอีกเวอร์ชั่นหนึ่งมา” เฟฟเฟอร์แมนชี้ไปทางไวลส์ที่กำลังคุยกับเดอลีงย์ เฟฟเฟอร์แมนพูดว่า “ครั้งล่าสุดที่เขาเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง เขาบอกว่าเขาได้แรงบันดาลใจจากอาหารเช้าของภรรยา”
วิทเทน “…”
เวลาผ่านไปสิบนาที
ลู่โจวยังยืนนิ่งบนเวที
ผู้คนเริ่มคิดว่าเขาหลับอยู่หรือเปล่า แต่ทันใดนั้นลู่โจวขยับตัว
มากไปกว่านั้น เขาขยับตัวในทางที่คาดไม่ถึง
เขาหยิบยางลบจากโต๊ะและเริ่มลบบรรทัดของสมการบนกระดานดำ จากนั้นเขาหยิบชอล์กขึ้นมาเขียนสมการบรรทัดใหม่
เมื่อเฟฟเฟอร์แมนเห็นบรรทัดของการคำนวณ ดวงตาเขาเบิกกว้าง ราวกับว่าเขารู้ว่ามีบางอย่างกำลังมา แต่เขาไม่สามารถจะเชื่อได้
แต่การเคลื่อนไหวของลู่โจวยืนยันลางสังหรณ์ของเขา
ลู่โจวเขียนบรรทัดสุดท้ายของสมการ
เขาหันหลังกลับมาแล้วโยนชอล์กไว้บนโต๊ะ
เขานิ่งไปไม่กี่วินาที จากนั้นเขาหันหน้าหาฝูงชนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์บวก “ผมไขได้แล้ว”
หลังจากนั้น ลู่โจวหันหลังกลับแล้วเดินลงเวทีท่ามกลางความเซอร์ไพรส์ของทุกคน
…………………………………………………………..
ตอนที่ 622 ทางแก้ทั่วไปของสมการหยาง-มิลส์!
ไขได้แล้ว?
ทางแก้ทั่วไปสำหรับสมการหยาง-มิลส์???
กระบวนการอยู่ไหนล่ะ?
เดี๋ยวก่อน แล้วช่วงถามตอบล่ะ?
ทำไมจู่ๆ เขาก็จากไปล่ะ?!
ถึงคุณจะได้เหรียญฟิลด์ คุณก็จะบ้าบิ่นแบบนี้ไม่ได้?!
ผู้ชมในหอประชุมหันหน้ามองกัน ความวุ่นวายแพร่กระจายไปทั้งหอประชุมเหมือนคลื่น
คนบางส่วนส่ายหน้าและลุกขึ้นเตรียมเดินออก คนอื่นรู้สึกท่วมท้น แล้วก็มีผู้คนจำนวนหนึ่งที่ถ่ายรูปการคำนวณบนกระดาษดำ และคนอีกส่วนหนึ่งที่มองเพื่อนด้วยความช็อก ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
คลิทซิ่งรู้สึกอึ้งในขณะที่เขามองดูการคำนวณบนกระดานดำโดยที่กำปากกาในมือแน่น เขาเขียนอะไรบางอย่างในแผ่นกระดาษและมองดูฟาลติ้งส์แล้วพูดว่า “นี่คือทางแก้ทั่วไป?”
ฟาลติ้งส์มองกระดานดำด้วยสีหน้านิ่ง เขาแทบพูดไม่ออก
“ผมถนัดตรีโกณมิติพีชคณิต คุณต้องถามเฟฟเฟอร์แมนเรื่อง PDE1”
คลิทซิ่ง “…?”
มันมีเรื่องไหนที่คุณไม่ถนัดบ้างไหม?
ถึงแม้ว่าฟาลติ้งส์จะโยนเรื่องไปให้เฟฟเฟอร์แมน เฟฟเฟอร์แมนก็มึนงงเช่นกัน
เดอลีงย์มองดูการคำนวณบนกระดานดำ เขาพยายามจะคิดคำนวณแต่เขาก็ยอมแพ้เหมือนฟาลติ้งส์ เขามองดูผู้เชี่ยวชาญ PDE ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนที่นั่งอยู่ข้างเขา เขาวางปากกาลงและถามว่า “การคำนวณของเขาถูกต้องไหม?”
“ผมไม่รู้…ถึงผมจะอยากรู้ ผมก็ไม่สามารถยืนยันคำตอบได้” เฟฟเฟอร์แมนนิ่งไปสักพักแล้วพูดขึ้นว่า “มันอยู่ในด้านวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่คณิตศาสตร์”
สมการอนุพันธ์บางส่วนนั้นต่างจากสมการทั่วไป มันมีความต้องการคำนวณคอมพิวเตอร์สูงสุดจากแขนงคณิตศาสตร์ทั้งหมด
ไม่เพียงแต่ว่ามีสมการอนุพันธ์บางส่วนซึ่งไม่เป็นเส้นตรงจำนวนเล็กน้อยที่สามารถถูกไขได้ แต่สมการพวกนั้นที่มีคำตอบมีจำนวนน้อยกว่า นอกจากว่ามันเป็นหนึ่งในสายที่ยากที่สุดของคณิตศาสตร์ แต่มันก็ยังเป็นส่วนสำคัญสำหรับการตั้งโมเดลปรากฎการณ์สำหรับสาขาอื่นๆ
ถ้าลู่โจวเขียนกระบวนการคำนวณลงไป เฟฟเฟอร์แมนจะสามารถตามขั้นตอนและหาข้อผิดพลาดได้
แต่ทางแก้ทั่วไปอยู่ตรงนั้นด้วยตัวมันเอง
เขาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
เอ็ดเวิร์ด วิทเทนเปิดสมุดโน้ตในมือแล้วพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง
“การยืนยันการคำนวณนั้นใหญ่เกินไป…ถ้าเขาไม่ได้ให้กระบวนการคำนวณมา เราต้องใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่อยืนยันการค้นพบระดับประวัติศาสตร์นี้”
เสียงของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เขาไม่เพียงแต่เห็นความเป็นไปได้ของทางแก้ด้านคณิตศาสตร์สำหรับสมการหยาง-มิลส์ แต่เขายังเห็นความเป็นไปได้ที่จะเชื่อมพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้ากับปฏิกิริยาที่รุนแรง
ถ้าลู่โจวถูกต้อง วันนี้จะอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์
ไวลส์ที่นั่งอยู่ข้างเขามีท่าทีสนใจ
ถึงเขาจะไม่สนใจว่าโลกฟิสิกส์คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังสนใจในตัวโจทย์คณิตศาสตร์เอง หลังจากที่เขาได้ยินคำของวิทเทน เขาพยักหน้าทันที
“ผมเห็นด้วย ทุกการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ต้องถูกรับมืออย่างจริงจัง ถ้าผมไม่สามารถยืนยันคำตอบได้ สิ่งนี้จะเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่สำหรับทั้งศาสตราจารย์ลู่และเรา…เหมือนกับทฤษฎีบทสุดท้ายของแฟร์มา จะว่าไปแล้วพรินซ์ตันก็มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ใช่ไหม? ทำไมเราถึงไม่ใช้ของคุณล่ะ?”
ศาสตราจารย์เดอลีงย์พยักหน้า
“ผมจะติดต่อพวกเขา”
นักวิชาการหวังซื่อเฉิงนั่งอยู่ที่อีกฝั่งของหอประชุม และเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปกระดานดำ จากนั้นเขาส่งรูปให้กรุ๊ปแชทของภาคคณิตศาสตร์มหาวิทยาลัยเหยียน ผู้คนในกลุ่มมีนักวิชาการคณิตศาสตร์ระดับท็อปจากมหาวิทยาลัยเหยียน และผู้นำชุมชนคณิตศาสตร์ของประเทศจีน
หลังจากที่นักวิชาการหวังซื่อเฉิงส่งรูปไป เขาโทรหาคณบดีของภาคคณิตศาสตร์มหาวิทยาลัยเหยียน
“ผมส่งรูปเข้ากรุ๊ปแชท ช่วยใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ยืนยันมันให้ที
ใช่แล้ว มันใช้สำหรับสมการหยาง-มิลส์”
ชายที่เพิ่งย่ามใจนั่งอยู่ข้างนักวิชาการหวังซื่อเฉิง เขากลืนน้ำลายและกระซิบเสียงเบา “เขาแก้มันได้จริงๆ ใช่ไหม?”
หวังซื่อเฉิงตอบไปว่า “ผมไม่รู้ แต่มันมีโอกาสสูงที่เขาแก้ได้”
ผู้คนในหอประชุมสับสนกันหมด ศาสตราจารย์ที่รับผิดชอบด้านโลจีสติกส์และผู้นำโรงเรียนต่างท่วมท้นจากท่าทีหุนหันของลู่โจว คณบดีฉินพยายามจะวิ่งตามลู่โจว แต่อาจารย์ใหญ่สวี่หยุดเขาไว้ก่อน
“คุณจะทำอะไร?”
“ผมจะทำอะไรล่ะ ผมพยายามตามเขากลับมาที่นี่ มันยังมีช่วงถามตอบ” คณบดีฉินพูดด้วยสีหน้ากังวล “นี่มันเรื่องบ้าอะไร เรากำลังจะหยุดการรายงานครึ่งทางเหรอ?”
อาจารย์ใหญ่สวี่เงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดว่า “ไว้คุยเรื่องลู่โจวทีหลัง มากู้สถานการณ์บนเวทีก่อน”
คณบดีฉินรู้สึกอึ้ง
“อะไร…คุณจะให้ผมทำอะไรบนเวที?”
อาจารย์ใหญ่สวี่พูดว่า “แค่พูดอะไรสักอย่าง ขอบคุณที่มาเข้าร่วม บอกพวกนั้นว่การรายงานเสร็จสิ้นแล้ว ขอให้พวกเขาไปกินที่โรงเรียนอินเตอร์คอนติเนนทัล…ผมต้องสอนคุณทุกอย่างเลยเหรอ?”
“โอเค โอเค! ผมจะพยายาม” คณบดีฉินพูดด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
ที่อีกด้านหนึ่งของหอประชุม
หานเมิ่งฉีรู้สึกทำอะไรไม่ถูกไปหมด เธอดึงสติกลับมาโลกความเป็นจริงหลังจากลู่โจวออกจากหอประชุมไปแล้ว
ทางแก้ทั่วไป?
ทางแก้ทั่วไปอะไร?
การรายงานจบแล้ว?
หลินอวี่เซียงที่นั่งอยู่ข้างเธอดูสงบมากกว่า ตาของเธอประกายเป็นดาวระยิบระยับ
“ว้าว ศาสตราจารย์ลู่หล่อจัง…”
หานเมิ่งฉี “???”
ถึงแม้เธอจะเห็นด้วย แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับสถานการณ์ตอนนี้?
หอประชุมใหญ่ตกอยู่ในความวุ่นวายเพราะสมการของลู่โจว
ลู่โจวเดินออกจากวิทยาเขตเก่าและอยู่ในรถของหวังเผิงแล้ว เขามุ่งตรงไปที่จงซาน อินเตอร์เนชั่นแนล
เขาเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องทำงาน จากนั้นเขานั่งหน้าคอมพิวเตอร์และเริ่มแก้ไขเอกสารใหม่โดยการพิมพ์ด้วยแป้นคีย์บอร์ด
“วิธีการตรีโกณมิติอนุพันธ์นั้นประยุกต์ได้กับทางแก้สมการอนุพันธ์บางส่วน แต่วิธีการนี้ต้องถูกปรับแก้…ให้ตาย ทำไมถึงไม่คิดถึงเรื่องนี้เมื่อครึ่งเดือนก่อน…”
ระหว่างที่ลู่โจวพึมพำกับตัวเอง เขาตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ
แรงบันดาลใจเกิดขึ้นในเวลาที่ไม่คาดคิดเสมอ
เขาปะติดปะต่อจุดเชื่อมโยงทั้งหมดที่เขาสะสมมาได้ในที่สุด
“แค่เซ็ต U(3) ให้ตรงกับเส้นปิดในบาแนค สเปซ X…
“นั่นจึงทำให้เกิดทางแก้ทั่วไป!”
ระหว่างที่เขามองดูบรรทัดสมการบนหน้าจอ นิ้วของเขาสั่นคลอนเล็กน้อย
ถ้าคณิตศาสตร์เป็นภาษาของเทพเจ้า งั้นในตอนนี้ เขากำลังยืนอยู่บนบ่าของเทพเจ้า
เขาไม่เคยใกล้กับความจริงแบบปรนัยขนาดนี้มาก่อน…
มันจะมีเรื่องไหนที่น่าตื่นเต้นกว่านี้สำหรับนักวิชาการล่ะ?
คงจะไม่มี
……………………………………………………