ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System - ตอนที่ 623 การตอบสนองรุนแรง / ตอนที่ 624 การยืนยันผ่านแล้ว!
- Home
- ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar's Advanced Technological System
- ตอนที่ 623 การตอบสนองรุนแรง / ตอนที่ 624 การยืนยันผ่านแล้ว!
ตอนที่ 623 การตอบสนองรุนแรง
ระหว่างที่ลู่โจวกำลังเขียนธีสิส โลกอินเทอร์เน็ตแตกตื่นกัน
นักข่าวบางคนที่เข้าร่วมสัมมนาอัปโหลดวิดีโอการรายงานทั้งหมดขึ้นอินเทอร์เน็ต
เมื่อทุกคนเห็นช่วงที่ลู่โจวเขียนสมการสุดท้ายและพูดว่า ‘ผมไขมันแล้ว’ ในท่าทีมั่นใจ ช่องคอมเมนท์ลุกเป็นไฟไปหมด
[บ้าไปแล้ว! เขาไขทางแก้ทั่วไปสำหรับสมการหยาง-มิลส์ได้?]
[ท่านเทพลู่โคตรเจ๋ง!]
[เอาจริง นี่ตัวสั่นเลย]
[เหลือเชื่อมาก วิดีโอแบบนี้ยังมียอดเข้าชมเป็นล้าน…]
[หยาง-มิลส์คืออะไรวะ? ฉันมานี่เพื่อดูท่านเทพลู่!]
[ฉันจะอธิบายพวกคุณคร่าวๆ ปัญหาสมการหยาง-มิลส์เป็นหนึ่งในความสำเร็จด้านฟิสิกส์ทฤษฎีที่โดดเด่นที่สุดในศตวรรษที่ยี่สิบ มันเน้นไปที่การบรรยายพฤติกรรมระหว่างอนุภาคประถามโดยใช่กลุ่มที่ไม่ใช่อาบีเลียน การหาทางแก้ทั่วไปของสมการนี้ทำให้มีความหวังในการเข้าใจช่องว่างมวลจากมุมมองคณิตศาสตร์ สิ่งนี้ทำให้ได้มีก้าวใหญ่เข้าใกล้ทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่!]
[อะไรคือทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่วะเนี่ย?]
ช่องคอมเมนท์ไม่ใช่ที่เดียวที่แตกตื่น สื่อมวลชนหลายที่ก็เป็นไปด้วย
หัวข้ออย่าง ‘นักวิชาการวัยยี่สิบปีทำให้โลกตะลึงอีกครั้งด้วยทฤษฎีรวม!’ หรือ ‘อดีตหัวหน้าข่าวกรองอเมริกาเผย: ผมเสียใจที่ปล่อยลู่โจวออกจากประเทศ’ นั้นปรากฏขึ้นทั่วเวยป๋อและหลายเว็บไซต์ รูปภาพลู่โจวยืนคิดหน้ากระดานดำจำนวนมากถูกโพสต์ในหลายบทความ
สมการหยาง-มิลส์ได้เป็นหลักไมล์สำคัญในโลกฟิสิกส์เชิงทฤษฎีเป็นเวลานาน จากที่สมการนี้ถูกร่วมคิดค้นโดยนักฟิสิกส์จีน สมการที่ไขไม่ได้นี้ ถูกไขได้ในที่สุด
แน่นอนว่าก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์
ยกตัวอย่างเช่น หลังจากโซเชียลมีเดียอินฟลูเอนเซอร์หลายคนในเวยป๋อเห็นวิดีโอนี้ พวกนั้นก็โต้ตอบทันที
“ผมไม่สนใจความสำคัญของสมการหยาง-มิลส์ การลงจากเวทีในระหว่างการรายงานเป็นเรื่องที่ไม่ให้เกียรติ มันเหมือนกับที่นักแสดงตลกเดินออกระหว่างฉากไป
ในฐานะนักวิชาการจีน ลู่โจวเป็นตัวสะท้อนมากกว่าตัวเอง เขาเป็นภาพลักษณ์ของประเทศจีน นอกจากความสำเร็จด้านวิชาการ เขาควรจะมีวินัยในตัวเองและมีมารยาทดี
“มีอีกเรื่อง มันไร้ความรับผิดชอบอย่างมากที่เขียนบทสรุปที่ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวด”
หลังจากที่โพสต์นี้เผยแพร่ออกมา ช่องคอมเมนท์กลายเป็นสนามรบ
[ช่วยแสดงตัวตนคุณชีวิตจริงให้ดูหน่อย แสดงให้เห็นว่าคุณสุภาพแค่ไหน]
[อ้อ ครั้งล่าสุดที่เซอร์อาติยาห์ใช้ธีสิสคณิตศาสตร์ห้าหน้าต้มตุ๋นคนทั้งโลก คุณบอกว่าเขาเป็นนักรบผู้กล้าหาญ แล้วตอนนี้คุณมาตำหนิลู่โจวได้อย่างไร? เพราะว่าลู่โจวไม่ใช่คนต่างชาติเหรอ?]
[เวรเอ๊ย มันผิดตรงไหนที่บอกให้คนอื่นสุภาพขึ้น!]
คนต้นโพสต์เห็นว่าช่องคอมเมนท์ยุ่งเหยิง เขาเลยทิ้งคอมเมนท์สุดท้ายไว้แล้วตัดสินใจปล่อยโพสต์นี้ไป
นอกจากสื่อในประเทศ สื่อต่างชาติก็ให้ความสนใจกับประเด็นนี้
อย่างเดลี่เมลที่เต็มไปด้วยดราม่า หลังจากการรายงานจบลง พวกนี้ติดต่อศาสตราจารย์วัยกลางคนที่สอนที่มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูว์ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นวงใน
ระหว่างการสัมภาษณ์ เมื่อศาสตราจารย์วัยกลางคนถูกถามถึงเหตุการณ์นี้ เขาเริ่มตอบกลับด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน
“ผมคิดว่าทางแก้เป็นแค่คำขีดเขียนลวกๆ”
นักข่าวถาม “ทำไม?”
ศาสตราจารย์วัยกลางคนตอบว่า “ทุกคนที่รู้เกี่ยวกับคณิตศาสตร์เล็กน้อยจะรู้ว่าเบื้องหลังของธีสิสคณิตศาสตร์ที่เข้มงวดทุกหน้าคือกระดาษร่างธีสิสจำนวนนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะโจทย์สมการอนุพันธ์บางส่วนที่คำนวณอย่างเข้มข้น จะมีใครไขปัญหานี้ได้โดยไม่เขียนอะไรลงไปเลยล่ะ? คุณกำลังบอกผมว่าเขาไขมันได้โดยยืนใช้แรงบันดาลใจอยู่ที่นั่น?”
นักข่าวถามต่อ “ทำไมศาสตราจารย์ลู่ถึงต้องเขียนอะไรล่ะ?”
ศาสตราจารย์ยักไหล่และพูดว่า “ผมก็ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะอวดดีเกินไป? อยากได้เงินทุนวิจัย? ผมมีอัลกอริทึมที่ยอดเยี่ยมที่จะพิสูจน์ว่าทางแก้ทั่วไปนั้นถูกต้อง แต่โชคร้ายที่มันไม่มีที่ว่างพอให้ผมเขียนอัลกอริทึมลงไป”
…
กลางคืน
โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนทัล
นักวิชาการในเครื่องแต่งกายสุภาพอยู่ในห้องอาหารขนาดกว้างใหญ่ โต๊ะเคลือบทองเต็มไปด้วยแชมเปญ อาหารจีน และอาหารตะวันตก มหาวิทยาลัยจินหลิงสามารถทำได้แค่ใช้อาหารและเครื่องดื่มสร้างความประทับใจที่ดีขึ้น เพื่อชดเชยการรายงานตอนเช้า
แต่มีเพียงแค่คนจำนวนน้อยที่ขุ่นเคืองจากที่ลู่โจวไม่ได้ทำตามกฎ คนส่วนใหญ่กังวลเรื่องทางแก้ทั่วไปที่ถูกทิ้งไว้บนกระดานดำ
“นี่มันก็สองทุ่มแล้ว” เฟฟเฟอร์แมนดูทางเข้าห้องอาหารและพูดขึ้น “ดูเหมือนว่าตัวละครเอกของเราจะไม่ปรากฏตัว”
เดิมทีนั้น เขาอยากให้ศาสตราจารย์ลู่อธิบายทางแก้ทั่วไปที่ห้องอาหาร แต่โชคร้ายที่สิ่งนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น
ไวลส์ที่ใส่ชุดทักซิโดเดินถือแก้วแชมเปญในมือมาและพูดว่า “เกิดอะไรขึ้นกับพรินซ์ตัน?”
เดอลีงย์ยังคงใส่หมวกดำที่ปิดหัวเขาไว้ เขาส่ายหน้าแล้วพูดว่า “การคำนวณที่ต้องการนั้นใหญ่มาก และนักวิจัยบอกผมว่ามันต้องใช้เวลาดำเนินการสองถึงสามวัน ที่นั่นยังเช้าอยู่เลย ดังนั้น วิศกรที่รับผิดชอบการจัดการงานซูเปอร์คอมพิวเตอร์ก็เพิ่งตื่น”
ศูนย์จอห์น ฟอน นอยมันน์ ไม่ได้แค่ให้บริการซูเปอร์คอมพิวเตอร์กับสถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงพรินซ์ตัน แต่มันยังสนับสนุนการคำนวณแก่พีพีพีเอล ผู้คนที่ศูนย์จอห์น ฟอน นอยมันน์ ให้ค่าคำสั่งจากนาซ่าและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากกว่าสถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงอย่างชัดเจน
แต่เมื่อเดอลีงย์เป็นคนจัดการงานนี้ด้วยตัวเอง มันจะใช้เวลาไม่นาน
นอกจากนี้ วิศกรที่ศูนย์จอห์น ฟอน นอยมันน์ ยังสนใจในปัญหาคณิตศาสตร์ระดับโลก
เฟฟเฟอร์แมนถอนหายใจและพูดว่า “ถ้าเขาสามารถให้แหล่งที่มาได้ หรือแม้แต่ไอเดียก็คงจะดี”
ไวลส์ยิ้มและพูดว่า “ดูเหมือนว่าเขาจะไปปลีกวิเวกอีกแล้ว? ผมได้ยินว่าลู่โจวมีวิธีพิเศษในการคิดถึงปัญหา”
เฟฟเฟอร์แมนพูด “ผมคิดแบบนั้น เขามีนิสัยชอบขังตัวเองไว้ในห้องที่พรินซ์ตัน อย่างไรเสีย ก่อนที่เขาจะทำงานเสร็จ ถ้าคุณไปบ้านของเขา เขาจะไม่เปิดประตูให้”
“ผมไม่รู้ว่าผมควรกลับไปก่อนหรือรอดูผลลัพธ์ที่นี่” เอ็ดเวิร์ด วิทเทนมองดูโทรศัพท์ของเขาและพูดว่า “มันจะมีการประชุมการทดลองการปะทะที่เซิร์นในอีกห้าวัน”
ไวลส์ยิ้มและพูดว่า “เซิร์นมีงานประชุมทุกวัน คุณมีโอกาสที่จะได้เป็นสักขีพยานต่อประวัติศาสตร์บ่อยแค่ไหน?”
วิทเทนคิดอยู่สักพักแล้วยักไหล่
“คุณพูดถูก
ผมจะรออยู่ที่นี่อีกสองสามวัน”
…………………………………………………………..
ตอนที่ 624 การยืนยันผ่านแล้ว!
ท้องฟ้านอกหน้าต่างค่อยๆ สว่างขึ้น
ลู่โจวนั่งอยู่หน้าโต๊ะของตัวเอง เขาสูดหายใจเข้าลึกและถอนหายใจออกช้าๆ
มีหลายสิ่งเป็นเหมือนเช่นนี้ มีเพียงกำแพงกระดาษบางกั้นระหว่างการเข้าใจและการไม่เข้าใจ
ถ้ากำแพงไม่พังลง ก็จะสับสนต่อไป
แต่ถ้ามันถูกพังลง ทุกอย่างจะชัดเจน
กระบวนการทางแก้ทั่วไปของสมการหยาง-มิลส์อยู่ในหน้าจอคอมพิวเตอร์ของลู่โจว
ถ้าเทียบมันกับวิธีการแอล แมนิโฟลด์ ตรีโกณมิติอนุพันธ์ สำหรับใช้พิสูจน์การมีอยู่ของทางแก้สมการอนุพันธ์บางส่วนที่ไม่เป็นเส้นตรง กระบวนการทางแก้ทั่วไปนั้นดูง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนการพิสูจน์หลักมีเพียงสิบหน้า
แน่นอนว่าสาเหตุหนึ่งที่มันสั้นขนาดนี้เป็นเพราะมันใช้บทเทียบและบทแทรกที่ถูกพิสูจน์ในธีสิสก่อนหน้าของเขา การอ้างอิงธีสิสก่อนหน้าโดยตรงทำให้กระบวนการพิสูจน์ที่ยุ่งยากกว่าหายไป
ลู่โจวรอที่จะธีสิสนี้กับนักวิชาการคนอื่นไม่ไหว ไม่เพียงแต่ว่าเขาส่งมันไปที่ออฟฟิศบรรณาธิการของวิทยานิพนธ์ในคณิตศาสตร์ประจำปี เขายังอัปโหลดมันบน arXiv
จากนั้น ลู่โจวยืดหลังและลุกขึ้นจากเก้าอี้ เขาเดินลงไปแช่น้ำร้อนที่ชั้นล่าง
เพราะว่าเขาอยู่มาทั้งคืน นาฬิกาชีวภาพของเขาถูกรบกวน และเขายังไม่รู้สึกง่วง
เขาวางแผนที่จะงีบตอนบ่ายสองชั่วโมง จากนั้นก็หลับตอนกลางคืนตามปกติ เพื่อที่จะไม่ให้ตารางนอนพัง
หลังจากลู่โจวลุกออกจากอ่างแล้วใส่เสื้อผ้าสะอาด เขาไปชงกาแฟให้ตัวเองที่ห้องครัว เขาหยิบแซนด์วิชเย็นออกมาจากตู้เย็น แล้วกำลังจะเอามันไปอุ่นในไมโครเวฟ แต่มีเสียงกริ่งประตูดังขึ้น
ลู่โจวมองดูโดรนที่บินใกล้กับตู้เย็นและถามว่า “เสี่ยวไอ ใครอยู่ข้างนอก?”
ผ่านไปสักพัก เสียงอิเล็กทรอนิกส์สังเคราะห์ดังขึ้นมาจากโดรน
“หมอส่วนตัวของคุณ เจ้านาย”
เหยียนเหยียน?
เธอมาทำอะไรที่นี่?
ลู่โจวใส่แซนด์วิชกลับเข้าตู้เย็น แล้วบอกให้เสี่ยวไอเปิดประตูหน้า จากนั้นเขาเดินผ้านห้องนั่งเล่นไปที่ทางเข้าหลัก
เมื่อประตูถูกเปิดออก เขาเห็นเหยียนเหยียนยืนตรงนั้นพร้อมถุงพลาสติกในมือ เธอสวมชุดที่แตกต่างไปจากชุดกาวน์ที่เธอใส่ตามปกติ โค้ตสีขาวถูกแทนที่ด้วยเสื้อเชิ้ตสีม่วงดำสบายๆ และเธอก็ยังใส่ยีนอย่างไม่เป็นทางการ ทำให้เธอดูอ่อนวัยลงเยอะ
แต่เมื่อเทียบกับเสื้อผ้าที่เธอใส่ ลู่โจวสนใจในถุงพลาสติกที่เธอถืออยู่มากกว่า
ถึงเขาไม่สามารถเห็นว่ามีอะไรอยู่ข้างใน แต่ดูจากแค่รูปทรงภาชนะและกลิ่น เขาสามารถบอกได้ทันทีว่ามันมีเสี่ยวหลงเปาและนมถั่วเหลืองที่เขาโปรดปราน
“คุณมาที่นี่ทำไม?”
เหยียนเหยียนเขย่าถุงพลาสติกในมือแล้วพูดตอบอย่างสบายๆ “หวังเผิงกลัวว่าคุณจะนอนตายคนเดียวอยู่ในบ้าน เขาเลยโทรหาฉันและบอกให้เอาของกินมาให้คุณ”
หมายความว่ายังไงที่ผมกำลังจะตาย?
ลู่โจวเพิกเฉยรายละเอียดเล็กน้อยและถอนหายใจ “ทำไมเขาไม่มาล่ะ?”
เหยียนเหยียนตอบ “เขาบอกว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ ฉันมีประสบการณ์ในการช่วยเหลือคนอื่นมากกว่า”
ลู่โจว “…”
ผมแค่โคม่าก็เพราะเพิ่มเลเวลเร็วเกินไป
ทำไมคุณทำเหมือนว่าผมจะตายตอนไหนก็ได้?
อย่างไรเสีย ผมมั่นใจว่าเธอมีเจตนาที่ดี
ลู่โจวมองดูมื้อเช้าจากเหยียนเหยียนและเริ่มกินเสี่ยวหลงเปาที่โต๊ะกินข้าว คุณหยิบโทรศัพท์ออกมาและเปิดเวยป๋อ เขากำลังจะดูข่าวกระแสที่น่าสนใจ และเขาเห็นว่าสมการหยาง-มิลส์ติดเทรนด์จริงๆ
เขารู้สึกฉงนใจ เขาจึงคลิกมันและพบบทความที่เกี่ยวข้องหลายบทความ ลู่โจวคลิกดูช่องคอมเมนท์
มีแฟนหลายคนที่ยินดีกับเขา และมีบางคนที่ประชดประชัน มันก็มีหลายคนที่ดูถูกเขา…แต่เขามองดูคอมเมนท์คร่าวๆ และยิ้ม เขาไม่ได้เอามาใส่ใจ
ท้ายที่สุดแล้ว เขาโตขึ้นเยอะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เมื่อเทียบกับเขาคนก่อน เขาไม่สนใจคมและคำดูถูกอีกแล้ว
หลังจากเขากด ‘ไลก์’ ให้คนที่ชมว่าเขาหล่อ เขาก็กินมื้อเช้าเกือบจะเสร็จ
ลู่โจวใช้ผ้ากระดาษเช็ดปากและลุกขึ้นจากเก้าอี้ เขาโยนถุงพลาสติกและกล่องลงถังขยะแล้วมองดูเหยียนเหยียนที่นั่งอยู่ตรงโซฟา
“เดี่ยวผมจะไปโรงแรมอินเตอร์คอนทิเนนทัล”
เหยียนเหยียนพยักหน้าและลุกขึ้น
“ฉันจะไปส่งคุณที่นั่น”
ลู่โจวมองเธอด้วยสีหน้าเซอร์ไพรส์
“คุณขับรถเป็นด้วยเหรอ?”
เหยียนเหยียนเลิกคิ้วขึ้น
“คุณไม่เชื่อใจฉันเหรอ?”
ลู่โจวกระแอมเบาๆ
“ไม่ใช่แบบนั้น”
ลู่โจวแค่กังวลเล็กน้อยที่จะนั่งรถที่ผู้หญิงขับ
…
ลู่โจวไม่ใช่แค่คนเดียวที่อยู่โต้รุ่ง
ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยจินหลิง อยู่ห่างไปสิบสองกิโลเมตร กลุ่มวิศวกรวิทยาศาสตร์เชิงคำนวณก็ทำงานตลอดคืน
สวี่เจี้ยนนั่งรอผลลัพธ์สุดท้ายอยู่ที่ออฟฟิศข้างๆ เขาสูบบุหรี่ต่อเนื่องระหว่างที่มองดูประตูเป็นระยะๆ
หลังจากการรายงานจบลงเมื่อวาน คณบดีฉินและรองอาจารย์ใหญ่ดูแลนักวิชาการที่มาเยี่ยม ในทางกลับกัน เขาพบศาสตราจารย์หลายคนที่มีความรู้เรื่อง PDE และพาพวกนั้นมาที่นี่ เขาใช้ทางแก้ทั่วไปของลู่โจวและพลังของซูเปอร์คอมพิวเตอร์เพื่อยืนยันทางแก้ทั่วไป
จากตอนนั้นมันผ่านมาแล้วสิบชั่วโมง
ด้วยทรัพยากรคนและคอมพิวเตอร์จำนวนมาก มันถึงเวลาที่ผลลัพธ์จะออกมาแล้ว
แต่มันไม่มีกิจกรรมในห้องคอมพิวเตอร์เลย…
เวลาอดหลับอดนอนครั้งนี้ทำให้เขานึกถึงตอนที่ภรรยาคลอดลูก
สวี่เจี้ยนสูดหายใจเข้าลึกและกดก้นบุหรี่ที่ถาดรอง เขากำลังจะไปถามความคืบหน้า
แต่เมื่อเขาเดินไปถึงประตูห้องพัก ประตูถูกเปิดออก วิศวกรเทคโนโลยีสารสนเทศสองคนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าตึง
สวี่เจี้ยนมองดูสีหน้าตึงของพวกเขา และนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นเขาถามทันทีว่า “ผลลัพธ์ออกมาแล้วใช่ไหม? มันเป็นยังไงบ้าง?”
นักวิศวกรตอบว่า “ผลลัพธ์ออกมาแล้ว ผมว่าคุณได้เตรียมใจแล้ว”
สวี่เจี้ยนดูตึงขึ้นเล็กน้อยในขณะที่เขาถอนหายใจและพูดว่า “บอกผมมาเถอะ”
วิศวกรสองคนมองหน้ากันและวิศวกรคนเดิมพูดว่า “ผลลัพธ์อยู่เหนือความคาดหมายของเราทั้งหมด…ทางแก้ทั่วไปของสมการหยาง-มิลส์นั้นถูกต้อง!”
สวี่เจี้ยน “…???”
สวี่เจี้ยนแทบสำลักใส่หน้าพวกเขา
โถ่โว้ย ถ้ามันถูกต้อง ทำไมถึงมองหน้าแบบนี้วะ? เกือบคิดว่ามันจะผิดแล้ว!
แต่เขาไม่ได้สนใจวิศวกรสองคนนี้ ความตื่นเต้นที่ไหลเวียนในตัวทำให้เขาหัวเราะเสียงดังออกมา
วิศวกรสองคนมองอาจารย์ใหญ่สวี่แล้วมองหน้ากันเอง
ชายคนนี้…
เป็นบ้า?
สวี่เจี้ยนหยุดหัวเราะและสูดหายใจ ทันใดนั้นเขามองดูผู้ช่วยที่นั่งอยู่ในออฟฟิศ
“ติดต่อแผนกประชาสัมพันธ์ทันที ผมอยากบอกทุกคนเกี่ยวกับผลลัพธ์!”
…………………………………………………